Our View? “ออกจากกรอบเดิมๆ”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,675 / 1,670 แนวต้านที่บริเวณ 1,687 / 1,695 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศ จากความคาดหวังการเจรจาระหว่างรัสเซีย-ยูเครน มีความคืบหน้ามากขึ้น หลัง ปธน.โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนกล่าวว่า ยูเครนพร้อมเจรจาเกี่ยวกับสถานะเป็นกลาง และสงสัญญาณไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) โดยการเจรจาดังกล่าวจะเริ่มขึ้นในวันนี้ที่ตุรกี

ในส่วนของการอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US-Bond Yield) วานนี้มีบางช่วงที่เกิด Inverted Yield Curve ระหว่างรุ่นอายุ 5 ปี/30 ปี ในช่วงสั้น อย่างไรก็ตาม เราให้น้ำหนักและให้ติดตามการเกิดในรุ่นอายุ 2 ปี / 10 ปี ที่คาดเป็นสัญญาณการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่มีน้ำหนักมากกว่า ทั้งนี้รุ่นอายุ 10 ปี เมื่อวานนี้แม้จะพยายามทําจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อ งแต่เริ่มชะลอกำลังลงบ้างแล้ว คาดจะลดแรงกดดันจากมุมมองส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนสินทรัพย์เสี่ยงสินทรัพย์ปลอดภัย (Earning yield Cap) ได้บ้างในระยะสั้น

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน พ.ค. เมื่อคืนนี้ปรับตัวลงแรง ปิดที่ระดับ 105.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 7.94 ดอลลาร์ หรือ -6.97% จากความกังวลอุปสงค์น้ำมันดิบอาจได้รับผลกระทบ หลังจีนซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลกประกาศ Lockdown เมืองเซี่ยงไฮ้ อีกทั้ง สหภาพยุโรป (EU) ยังไม่สามารถหาข้อตกลงในการออกมาตรการกีดกันการส่งออกพลังงานของรัสเซียเพิ่มเติมตามที่เราคาดไว้ก่อนหน้า  รวมทั้งบริษัทแคสเปียน ไปป์ไลน์ คอนซอร์เทียม (CPC) ซึ่งระงับการส่งออกน้ำมันก่อนหน้าจากความเสียหายของพายุเริ่มกลับมาส่งออกน้ำมันบางส่วนได้แล้ว ในส่วนของการประชุม OPEC+ ในวันที่ 31 มี.ค. นี้ มีรายงานว่า OPEC+ จะยังคงเพิ่มกำลังการผลิตตามข้อตกลงเดิม คือ เพิ่มกำลังการผลิตแค่ 4.32 แสนบาร์เรล/วัน เรามองจะเป็นปัจจัยลบกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานอ่อนตัวลงถ่วงตลาดหุ้นไทยได้

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ยังคงให้น้ำหนักไปกับการแนะนำติดตามการประชุม กนง. ในวันที่ 30 มี.ค. นี้ คาดที่ประชุมวะยังมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% อย่างไรก็ตาม แนะนำติดตามการลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ จากคาดการณ์ก่อนหน้าที่ระดับ 3.4% หลังได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานเร่งตัวขึ้น นักท่องเที่ยวต่างชาติที่อาจจะเข้ามาน้อยกว่าคาด จากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน คาดจะส่งผลกระทบให้กระแสเงินทุนต่างชาติเริ่มแผ่วลงได้บ้าง อย่างไรก็ตาม เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขส่งออกเดือน ก.พ. ขยายตัวที่ระดับ 16.2% (YoY) มากกว่าที่ตลาดคาดราว 10.20% คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (KCE และ HANA) รีบาวด์ขึ้นได้ต่อในระยะสั้น อีกทั้งเรายังคงชอบหุ้นในกลุ่มเครื่องดื่ม (OSP, ICHI และ SAPPE) คาดจะได้ปัจจัยบวกจากปัจจัยเชิงฤดูกาล รวมทั้งแนวโน้มการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีส่วนผสมของ CBD ในช่วง 2Q65 คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางราคาหุ้นในกลุ่มดังกล่าวได้ อีกทั้งเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่กระทรวงท่องเที่ยวเตรียมเสนอ ศบค. ปลดล็อกมาตรการเข้าประเทศ โดยยกเลิก Thailand Pass คาดเริ่มวันที่ 1 มิ.ย. คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรมปรับตัวขึ้นได้ต่อ (AOT, AWC, ERW, CENTEL และ MINT)

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “HANA”

กลยุทธ์ เล่นรีบาวด์ แนวรับ 49.75 / 48.75 Target 54.75 / 59.25 Stop <47.75

- Advertisement -