บล.กรุงศรีฯ:
สวัสดี ไทยแลนด์ (POSITIVE)
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเบื้องต้นในก.พ. เป็นเชิงบวกที่ 1.53 แสนคนสูงขึ้นเล็กน้อย mom จากม.ค. ผลจากการดำเนินโครงการ Test&Go ต่อตั้งแต่ 1 ก.พ. จากโมเมนตัมที่แข็งแกร่งในมี.ค. จำนวนผู้โดยสารต่างประเทศแตะระดับ 8.8% ของปี 2019 ในช่วง 20-26 มี.ค. สูงกว่าระดับสูงสุดที่ 7.4% ในช่วง 19-25 ธ.ค. เราเชื่อว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มขึ้นและสถานการณ์ในยูเครนจะไม่กระทบการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวไทยอย่างมีนัยสำคัญ และจากแนวโน้มการเปิดประเทศทั่วโลกและภาวะการเมืองระหว่างประเทศในเอเชียที่เกื้อหนุน เราคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่ม และคง ERW และ CENTEL เป็นหุ้นเด่น
จำนวนนักท่องเที่ยวในก.พ. ฟื้นตัวเป็น 1.53 แสนคนจากโครงการ Test&Go
ข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเบื้องต้น ก.พ. เป็นเชิงบวกที่ 1.53 แสนคนสูงขึ้น MoM จากม.ค. เป็นผลจากการดำเนินโครงการ Test&Go ต่อตั้งแต่ 1 ก.พ. โดยนักท่องเที่ยวในโครงการ Test & Go คิดเป็น 82% ของจำนวนนักท่องเที่ยวในธ.ค. เทียบกับ 62% ในก.พ
โมเมนตัมในมี.ค. สะท้อนจำนวนนักท่องเที่ยวสูงกว่าระดับในธ.ค.
จากไทยเปิดโครงการ travel-bubble กับอินเดียและมาเลเซียในมี.ค. เราได้เห็นจำนวนผู้โดยสารเติบโต WoW 8 สัปดาห์ติดต่อกันตั้งแต่ต้นก.พ. จนถึงปลายมี.ค. จนถึงตอนนี้จำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศแตะ 8.8% ของระดับปี 2019 ในช่วง 20-26 มี.ค. สูงกว่าระดับสูงสุด 7.4% ในช่วง 19-25 ธ.ค. เราจึงมองว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศและความขัดแย้งในยูเครน ไม่กระทบการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวไทยอย่างมีนัยสำคัญ
ภาวะการเมืองระหว่างประเทศในเอเชียที่เกื้อหนุนการท่องเที่ยวไทย
หากมองต่อไปข้างหน้าอาจมี 2 ปัจจัยหนุนจากการเมืองระหว่างประเทศในเอเชีย ปัจจัยแรกการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ของเกาหลีใต้ “Yoon Suk-Yeol” ซึ่งอาจทำให้เกิดความตึงเครียดในประเด็น THAAD คล้ายในช่วงปี 2017 ระหว่างเกาหลีใต้กับจีน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวไทย ปัจจัยที่สอง การกลับมามีเที่ยวบินตรงระหว่างไทยและซาอุฯ ทำให้ไทยมีส่วนแบ่งตลาดของนักท่องเที่ยวต่างประเทศของซาอุฯ มากขึ้น
คงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มโดยมี ERW และ CENTEL เป็นหุ้นเด่น
จากแนวโน้มการเปิดเมืองทั่วโลก (โดยเฉพาะในเอเชีย) เราแนะนำให้นักลงทุนคงมุมมองเชิงบวกต่อภาคท่องเที่ยวไทย เราเลือก ERW และ CENTEL เป็นหุ้นเด่นเนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากโรงแรมในไทยสูงกว่าบริษัทอื่น
