NDR ไฟเขียวแจกปันผล 0.03 บาท/หุ้น พร้อมอนุมัติแจกวอแรนต์ฟรี 4 หุ้นเดิมต่อ 1 วอแรนต์ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิ 7 เมษายนนี้ รวมทั้งมีมติอนุมัติเพิ่มทุน รองรับการเติบโตของธุรกิจ จากการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า EV รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ด้านแผนงานปีนี้ ตั้งเป้ารายได้แตะระดับ 1,000 ล้าน รุกขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมประกาศแผนเดินหน้าย้ายเข้าจดทะเบียนใน SET หวังเพิ่มความเชื่อมั่น ดึงดูดนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ

 

นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผล จากผลการงวดดำเนินงานงวดปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท โดยกำหนดจ่ายในวันที่ 29 เมษายนนี้ พร้อมอนุมัติการออกและจัดสรรใบสําคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 2 (NDR–W2) จํานวนไม่เกิน 86,722,878 หน่วย ซึ่งไม่เกินร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียนชําระแล้วของบริษัท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering)ในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วยใบสําคัญแสดงสิทธิ โดยไม่คิดมูลค่า และกำหนดอัตราการใช้สิทธิแปลงใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นหุ้นสามัญ ในสัดส่วน 1 ต่อ 1  ราคาหุ้นละ 3.50 บาท โดยใบสำคัญแสดงสิทธิมีอายุไม่เกิน 2 ปี นับจากวันที่ออก กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิ (Record date) ในวันที่ 7 เมษายนนี้

นอกจากนี้ ยังมีอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน จํานวน 86,722,878 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม จํานวน 346,891,514 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จํานวน 433,614,392 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จํานวนไม่เกิน 86,722,878 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ1 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสําคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นของบริษัท ครั้งที่ 2 (NDR–W2)

สำหรับวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ทั้งจากการขยายตัวของธุรกิจเดิมและการลงทุนในธุรกิจใหม่ โดยมุ่งเน้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า EV รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ เพื่อเสริมสภาพคล่องของบริษัท ทำให้มีโครงสร้างทางเงินที่มั่นคงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจะมีความพร้อมทางด้านเงินทุนและสภาพคล่องทางการเงิน อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัทฯ และเป็นการสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนดำเนินการย้ายหลักทรัพย์จดทะเบียนจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในปีนี้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ เชื่อมั่นว่าการย้ายเข้าจดทะเบียนและซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ SET จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับบริษัท เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศเข้าลงทุน และเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้น

ส่วนแผนการดำเนินงานในปีนี้ ตั้งเป้ารายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 900-1,000 ล้านบาท โดยมีแผนขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง หลังจากปัจจุบันบริษัทเข้าสู่ตลาดประเทศเมียนมา กัมพูชา สปป.ลาว มาเลเซีย เกาหลี และฝรั่งเศส เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ยังมีการปรับกลยุทธ์ระยะสั้นตามสถานการณ์ โดยวางแผนที่จะปรับโครงสร้างการผลักดันสินค้าโดนเน้นในตัวสินค้าที่มีกำไรสูง เพื่อรักษาอัตรากำไรของบริษัท รวมถึงเพิ่มช่องทางและลงพื้นที่การขาย เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น ขณะเดียวกัน บริษัทจะจัดลําดับความสําคัญของการลงทุน และเลือกลงทุนกับโครงการที่มีผลต่อผลประกอบการเป็นลําดับต้น

********

- Advertisement -