KWM แย้มผลงานไตรมาส 1/65 สดใส หลังออเดอร์พุ่งต่อเนื่อง รับอานิสงส์เป็นช่วงไฮซีซั่นของภาคการเกษตร พร้อมลุยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ รอรับคำสั่งซื้อจาก “สยามคูโบต้า” เพิ่ม ทั้งขยายช่องทางการจำหน่าย เน้นทำการตลาดผ่านแพลตฟอร์ม หลังพบมีมาร์จิ้นสูงกว่าช่องทางอื่น ทั้งมีการออกแคมเปญทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น มั่นใจดันผลงานปีนี้โต 10-15% ตามเป้า จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 567.30 ล้านบาท
นางสาวติยาภรณ์ วนโกสุม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/65 มีทิศทางการขยายตัวการเติบโตที่ดี เป็นผลจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของความต้องการใช้อุปกรณ์สินค้าเกษตรตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มียอดคำสั่งซื้อกลับเข้ามาอย่างชัดเจน ประกอบกับบริษัทมีการสต็อกสินค้าไว้พร้อมสำหรับส่งมอบ โดยปัจจุบันมีออดเดอร์ใบผาล เข้ามาแล้วประมาณ 50,000 ใบ ซึ่งถือว่ามากกว่าปกติที่จะผลิตได้ 30,000-40,000 ใบ
ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมสต็อกสินค้าไว้ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 เพื่อรองรับช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจที่มียอดคำสั่งซื้อเข้ามากว่าปกติ จึงมั่นใจว่ามีสินค้าเพียงพอและพร้อมส่งมอบเต็มจำนวนอย่างแน่นอน สอดรับกับแผนกลยุทธ์สำหรับการรองรับการเติบโตทางธุรกิจ หลังจากที่วางงบลงทุนไว้ 50 ล้านบาทในการเพิ่มเครื่องจักรในการผลิตไลน์ใหม่ ซึ่งเป็นไลน์การผลิตที่ 3 ในระบบออโตเมชั่นที่สามารถลดการใช้แรงงานและสามารถผลิตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 1/65 นี้
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายการลงทุนเพิ่มคลังสินค้า เพื่อรองรับความต้องการสินค้าช่วงไฮซีซั่น ที่มีความต้องการสินค้ามากกว่าช่วงเวลาปกติ 2-3 เท่าตัว ซึ่งคลังสินค้าดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/65 จากปัจจัยดังกล่าวเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมทั้งด้านการลงทุน การผลิต และการส่งมอบออเดอร์ ที่ตอบโจทย์ตรงตามความต้องการของลูกค้า จึงมั่นใจว่า การเติบโตของธุรกิจในครึ่งปีแรก 2565 จะฟื้นตัวอย่างโดดเด่น
ด้านนายอุกฤษณ์ วนโกสุม รองกรรมการผู้จัดการ KWM กล่าวว่า บริษัทเตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มใบจอบหมุน (ใบโรตารี่) และใบเกลียวรุ่นใหม่ๆ รองรับความต้องการของบริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ภายใต้แบรนด์ “ตราช้าง” เพิ่มขึ้น เนื่องจากในช่วงก่อนหน้านี้ บริษัทสยามคูโบต้า ได้มีการนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากต่างประเทศบางส่วน ซึ่งสยามคูโบต้า เล็งเห็นว่า หลังจากนี้จะให้ทาง KWM เป็นผู้ผลิตสินค้าดังกล่าว เพื่อทดแทนจากนำเข้า ส่งผลให้ยอดคำสั่งซื้อจากช่องทางนี้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการพัฒนาสินค้า ภายใต้แบรนด์ “Pegasus” ซึ่งเป็นตราสินค้าของบริษัทเอง เป็นอุปกรณ์การเกษตร อาทิ ใบผาล ใบจักร ใบคัดท้าย โครงผาล ใบดันดิน ใบเกลียวลำเลียงอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทเตรียมบุกตลาดเพิ่มมากขึ้น เพื่อจำหน่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งการขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์นั้น บริษัทมองว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นการขายตรงถึงผู้บริโภค (Consumer) แบบไม่มีผ่านคนกลาง ทำให้บริษัทตั้งเป้ายอดขายของบริษัทย่อยทั้งหมดโดยรวม ประมาณ 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 60 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20 % ของยอดขายรวม โดยจะเน้นทำการตลาดผ่านแพลตฟอร์ม อาทิ Facebook, TikTok และ Lazada ประกอบกับมีการออกแคมเปญทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น โดยยอมรับว่า การจำหน่ายผ่านช่องทางดังกล่าวมีมาร์จิ้นสูงกว่าช่องทางอื่นๆ ซึ่งจากแผนธุรกิจดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทประเมินอัตราการเติบโตรายได้รวมในปีนี้เพิ่มขึ้น 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมจำนวน 567.30 ล้านบาท
********
