บล.กรุงศรีฯ:
กลุ่มอุตสาหกรรม | ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ |
หุ้น | STGT |
มูลค่าพื้นฐาน | 25.00 |
คำแนะนำ | HOLD |
เราประมาณการกำไร 1Q อาจลดลง 65% qoq เป็น 653 ลบ. เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยลดลง เราคงมุมมองเชิงลบต่อบริษัทเนื่องจากซัพพลายที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกจะกดดันราคาขาย คงคำแนะนำ ถือ และ ราคาเป้าหมาย 25.00 บาทต่อหุ้น จาก Supply ทั่วโลกเติบโตเร็วกว่า Demand จะกดดันราคาขายเฉลี่ยลดลงอย่างรวดเร็ว
คาดราคาขายเฉลี่ยใน 1Q ลดลงอย่างรวดเร็วจากซัพพลายใหม่จากจีน
ราคาขายเฉลี่ย (ASP) อาจลดลงต่อเนื่องใน 1Q22 อีก 17% qoq เป็น 900 บาทต่อ 1,000 ชิ้นเนื่องจาก Supply ทั่วโลกสูงขึ้น โดยเฉพาะผู้ผลิตถุงมือยางในจีนรายใหญ่อย่าง Blue Sail Medical และ Intco Medical ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตถุงมือไนไตร โดย Blue Sail Medical มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 36.1 พันล้านชิ้นต่อปีภายในสิ้นปี 2023 จาก 4.3 พันล้านชิ้น ณ สิ้นปี 2019 ส่วน Intco วางแผนในการขยายกำลังการผลิตถุงมือไนไตรเป็น 59.2 พันล้านชิ้นต่อปีภายในสิ้นปี 2023 จาก 5 พันล้านชิ้นในสิ้นปี 2019 หลังเรารวม Supply ส่วนเพิ่มจาก บริษัทชันนำ 3 แห่ง รวมถึงผู้ผลิตรายใหญ่ของจีนอีก 2 รายอย่าง Blue Sail Medical และ Intco Medical เราคาด Supply จะเติบโตในระดับ 20% เป็นอย่างน้อย สูงกว่า Demand ที่คาดว่าจะเติบโต 15% ในปี 2022F
คาดกำไร 1Q22F จะลดลงทั้ง yoy และ qoq
คาด ASP จะลดลงใน 1Q22F เป็น 900 บาทต่อ 1,000 ชิ้น (-61% yoy -17% qoq) เนื่องจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะถุงมือไนไตรจากจีน ขณะที่ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น 3% จาก (1) ต้นทุนน้ำยางธรรมชาติสูงขึ้น qoq และ (2) ต้นทุน Butadiene สูงขึ้น qoq ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเป็น 20.0% จาก 31.3% ใน 4Q ปริมาณขายทรงตัว qoq ที่ 7.6 พันล้านชิ้น เราจึงคาดรายได้ขายลดลง 17% qoq เป็น 6.8 พันลบ. และทำให้กำไรลดลง 65% qoq เป็น 653 ลบ. เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นต่ำลง
คงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 25.00 บาท
จาก Supply ทั่วโลกเติบโตเร็วกกว่า Demand ทำให้ราคาขายเฉลี่ยลดลงอย่างรวดเร็ว ราคาเป้าหมายของเราอ้างอิง TP 10x FY22F EPS เราจะทบทวนประมาณการของเราอีกครั้งหลักประกาศงบ 1Q22F