SA ยันกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่เปลี่ยน 5 อันดับแรกยังถือครองหุ้นสัดส่วนสูงถึง 80%  “ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ” ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ระบุไม่ได้ขายหุ้น แต่เป็นการโอนหุ้นให้ภรรยา จำนวน 155.86 ล้านหุ้น คิดเป็น 13.1456% ย้ำไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างการบริหารงานแต่อย่างใด พร้อมโชว์แผนธุรกิจ เดินหน้าเปิด 6 โครงการใหม่ ทั้งแนวราบ แนวสูง มูลค่ารวม 11,621.9 ล้านบาท โชว์ Backlog ตุนไว้ในมือมูลค่ารวม 4,324.20 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 69 ทั้งเดินหน้าขยายไลน์ธุรกิจ ลุยพัฒนา 6 โมเดลใหม่ มุ่งสร้าง New S-Curve ผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตโดดเด่นในอนาคต

 

นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ได้ทำรายการโอนหุ้นให้ภรรยาคือ นางสุนันทา สิ่งสรรเสริญ จำนวน 155,861,066 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 13.15% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่าย และชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรกของบริษัทหลังทำรายการดังกล่าว ประกอบด้วย นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ถือหุ้นจำนวน 364,223,400 หุ้น คิดเป็น 30.72% นายอุทร ภูษิตกาญจนา 167,777,493 หุ้น คิดเป็น 14.15% นางสุนันทา สิ่งสรรเสริญ 155,861,066 หุ้น คิดเป็น 13.15% นายกมล โอภาสกิตติ 142,598,933 หุ้น คิดเป็น 12.03% และนายธัญญะ วงศ์พรเพ็ญภาพ 132,800,000 หุ้น คิดเป็น 11.20% ซึ่งจะเห็นว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ 5 อันดับแรก ยังคงถือครองหุ้นในสัดส่วนที่สูงกว่า 80%

“การทำรายการโอนหุ้นในครั้งนี้ ขอยืนยันว่าจะไม่ได้มีผลกระทบต่อกิจการและโครงสร้างผู้ถือหุ้นแต่อย่างใด เนื่องจากปัจจุบันตัวเองและภรรยามีฐานะเป็นกรรมการ และผู้บริหารของบริษัทอยู่แล้ว ทำให้ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจการควบคุม ตลอดจนนโยบายการดำเนินธุรกิจ และโครงสร้างของคณะกรรมการบริษัท หรือผู้บริหารของบริษัทแต่อย่างใด”

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตอยู่ที่ 4,500-4,900 ล้านบาทจากปีก่อน โดยมีรายได้หลักจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันมีโครงการที่กำลังดำเนินงานอยู่ (Under Development) จำนวน 4 โครงการ มูลค่า 23,976.3 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้จะมีโครงการที่แล้วเสร็จคือ Landmark @ MRTA Station  และมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 8 โครงการ มูลค่า 18,938.9 ล้านบาท โดยเป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายมูลค่า 15,432 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าคงเหลือเป็น Inventory ที่พร้อมขาย เพื่อรับรู้รายได้อีก 5,059.6 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ ยังมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ในปี 2565 จำนวน 6 โครงการได้แก่ Landmark @ Kasetsart TSH Station , Monsane Exclusive Villa Ratchapruek-Pinklao , Siamese Kin Ramintra Phase 2 , Siamese Home @ Phaholyothin – Rangsit , Siamese Talingchan และ Siamese Luxury Home @ Ratchapruek – 345 มูลค่ารวม 11,621.9 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน บริษัทมุ่งมั่นสร้างการเติบโตแข็งแกร่ง โดยมีการวางแผนพัฒนาโครงการเพิ่มเติมอยู่ตลอด เพื่อสร้างการรับรู้รายได้ของโครงการใหม่ๆ พร้อมกันนี้ ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพัฒนาโครงการแนวราบให้อยู่ที่ 50% ของรายได้รวมภายในปี 2567 และคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นประมาณปีละ 3,000-4,000 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบัน มี Backlog มูลค่ารวม 4,324.20 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ภายในปี 2565-69 อีกทั้งในปีนี้บริษัทได้ขยายโครงการแนวราบ จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 7,500 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ภายในปี 2565-70 นี้

นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าด้วยกลยุทธ์ Asset Play มุ่งขยายฐานรายได้พร้อมกับมองหาโอกาสสร้าง New S-Curve จากธุรกิจใหม่ๆ จากสิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับบริษัท เพื่อให้เกิดการแชร์ต้นทุน ประกอบด้วย 6 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจด้านพลังงานสีเขียว ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบริการ ธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีของการพักอาศัย ธุรกิจเกี่ยวกับการบริการผู้สูงอายุ ธุรกิจเกี่ยวกับ Spa & Wellness และธุรกิจการเงินและการลงทุน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของ SA ให้สามารถเติบโตได้อย่างโดดเด่นในอนาคต

*******

- Advertisement -