Our View? “เผชิญความจริง”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Down” ยังมองแนวรับที่บริเวณ 1,690 / 1,685 และแนวต้านที่บริเวณ 1,710 11,715 คาดวันนี้ตลาดจะได้รับจิตวิทยาเชิงลบจากตลาดต่างประเทศที่ปรับตัวลดลง หลังธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เปิดเผยรายงานการประชุม FOMC รอบเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ระบุ FED จะปรับลดขนาดของงบดุล (QT) เดือนละ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างเร็วที่สุดเดือน พ.ค. จากงบดุลของ FED ที่อยู่ในระดับสูงเกือบ 9 ล้านล้านดอลลาร์ อีกทั้งยังมีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 50 BPS หนึ่งหรือสองครั้งในการประชุมครั้งถัดไป หากเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง บ่งชี้แนวโน้มกระแสเงินทุนส่วนเกินจะเริ่มลดลง ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงต่อ

อีกทั้งตลาดยังมีปัจจัยความกังวลวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน เป็นปัจจัย Overhang ถ่วงตลาดได้อยู่ โดยล่าสุดสหรัฐ สหภาพยุโรป (EU) เตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ โดยเป็นการสั่งห้ามการลงทุนทั้งหมดในรัสเซีย  รวมถึงคว่ำบาตรธนาคารสเบอร์แบงก์ (Sberbank) และอัลฟา แบงก์ (Alfa Bank) ซึ่งเป็นสองสถาบันการเงิน รายใหญ่ที่สุดในรัสเซีย เรามองปัจจัยดังกล่าวคาดอาจไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจและการลงทุนมากนัก แต่ คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงลบระยะสั้นกับตลาดได้บ้าง

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่ว WTI. ส่งมอบเดือน พ.ค. เมื่อคืนนี้ปรับตัวลง -5.73 ดอลลาร์ ปิดที่ 96.23 ดอลลาร์/บาร์เรล -5.62% โดยได้รับแรงกดดันจากประเด็นประเทศในกลุ่มสมาชิก IEA จะระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ในปริมาณ 120 ล้านบาร์เรล เพื่อเพิ่มอุปทานให้กับตลาดน้ำมัน อีกทั้งสหรัฐ-EU ไม่ได้ออกมาตรการกีดกันการส่งออกพลังงานของรัสเซียตามที่เราคาดไว้ ผสานกับเรายังคงมุมมองที่คาดว่าราคาน้ำมันยังถูกกดดัน-จำกัด Upside จากแนวโน้มการกลับมาส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลาและอิหร่าน มองจะเป็นปัจจัยลบกดดันราคาน้ำมันในระยะกลางได้ต่อ

สําหรับปัจจัยภายในประเทศ เรายังคงประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยเริ่มมี Upside ในระยะสั้นที่จำกัด หากพิจารณาในแง่ Valuation ของตลาดหุ้นไทย โดย Bloomberg Consensus จากคาดการณ์ EPS’65 ของตลาดอยู่ที่ ระดับ 96.0 บาท หากคำนวณโดยใช้ค่าเฉลี่ย 5 ปี ของ Forward PE Ratio ที่ระดับ 18.0 เท่า ทำให้ได้เป้าหมายอยู่ที่ระดับ 1,730 จุด ขณะที่ปัจจุบันตลาดแกว่งตัวอยู่ที่ระดับ 1,700 จุด ทำให้เหลือ Upside จากที่เราประเมินไว้เพียงราว 1.7-2.0% สะท้อนภาพตลาดในปัจจุบันอยู่ในมูลค่าที่ตึงตัวในระดับหนึ่งแล้ว อีกทั้งตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวในการเข้าสู่ช่วงวันหยุดในเทศกาล คาดจะส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายมีโอกาสเบาบางลงไป ส่งผลให้หุ้นขนาดใหญ่อาจเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบจำกัด โดยเรายังคงชอบหุ้นในกลุ่มเครื่องดื่ม (OSP, ICHI และ SAPPE) คาดจะได้ปัจจัยบวกจากปัจจัยเชิงฤดูกาล รวมทั้งแนวโน้มการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีส่วนผสมของ CBD ในช่วง 2Q65 คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางราคาหุ้นในกลุ่มดังกล่าวได้ อีกทั้งเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่กระทรวงท่องเที่ยวเตรียมเสนอ ศบค. ปลดล็อกมาตรการเข้าประเทศ โดยยกเลิก Thailand Pass คาดเริ่มวันที่ 1 มิ.ย. คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรมปรับตัวขึ้นได้ต่อ (AOT, AWC, ERW, CENTEL และ MINT)

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “SPVI”

กลยุทธ์ แนวรับ 6.80 / 6.65 Target 7.50 / 7.80 Stop <6.60

- Advertisement -