FED ส่งสัญญาณเข้มงวดยังเน้นลดพอร์ต โดยระยะสั้นแนะ SCGP BBL

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์รายงานเงินเฟ้อประจำเดือน มี.ค. +5.7%YoY +0.6%MoM ใกล้เคียง ตลาดคาดที่ +5.5%YoY สาเหตุหลักมาจากสินค้าและบริการปรับตัวสูงขึ้นตามราคาต้นทุน ทั้งราคาพลังงาน วัตถุดิบ ค่าขนส่ง โดยเฉพาะราคาน้ำมัน +31%YoY ค่ากระแสไฟฟ้า +39%YoY ส่วนอาหารที่ราคาปรับตัวขึ้น ได้แก่ เนื้อสัตว์ (สุกร ไก่) ไข่ไก่ ผักสด ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิตปรับตัวขึ้น 11%YoY ตามราคาต้นทุนการผลิตและ วัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้นตามตลาดโลก โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเลียม แก๊สธรรมชาติ รวมถึงราคาเนื้อสัตว์ เบื้องต้นประเมินเป็นผลกระทบเชิงลบต่อหุ้นที่มีต้นทุนเป็นสินค้า ข้างต้น อาทิ (BGRIM GPSC GULF M MINT SCGP) รับแรงกดดันผ่านอัตรากำไรขั้นต้น

ส่วนปัจจัยต่างประเทศ หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐได้สนับสนุนให้ FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเร่ง ลดขนาดงบดุล เนื่องจากมองว่าเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สูงจนเกินไป ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับฐานหนักในคืนวัน อังคารที่ผ่านมา ขณะที่เมื่อคืน FED เผยรายงานผลการประชุมของเดือน มี.ค. ระบุว่ามีแผนจะลดขนาดงบดุล เดือนละ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่เดือน พ.ค. และมีแนวคิดที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อครั้งสูงถึง 0.5% ระยะสั้นสร้างแรงกดดันต่อกลุ่ม Growth Stock อาทิ อิเล็ก (HANA KCE) แต่ Value Stock อาจจะเคลื่อนไหวโดดเด่นได้มากกว่า สะท้อนจาก DJIA ปรับตัวลง 0.4% แต่ NASDAQ ปรับแรง 2.2% (เช้านี้ Nikkei ปรับฐานแรงต่อ 1.9%) คาดว่า SET INDEX จะเผชิญความเสี่ยงในการปรับตัวลงประเมินกรอบ 1680 – 1700

เชิงกลยุทธ์การลงทุน คงคำแนะนำเช่นเดิมว่าไม่ควรเพิ่มพอร์ต ณ SET บริเวณ 1,700 แต่ระยะสั้นสำหรับรับความ เสี่ยงสูงแนะ 2 กลุ่ม (1) หุ้นที่มีน้ำมันเป็นต้นทุน อาทิ (SCGP SCC TASCO TOA) เมื่อคืนราคาน้ำมันปรับฐาน 5.2% หลังสำนักข่าว Reuters ระบุว่าสมาชิก EA ตกลงที่จะระบายน้ำมันออกมา 120 ล้านบาร์เรล (2) Value Stock อาทิ (BCH BJC CHG CPALL HMPRO M)

SCGP (ซื้อ / ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72 บาท) ภาพรวมกำไร 1Q22 ที่ยังแข็งแกร่ง QoQ จากราคากระดาษคราฟท์ที่แข็งแกร่ง หนุนจากอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ค่อยๆ ปรับดีขึ้น และปัจจัยตามฤดูกาลในช่วงเทศกาลตรุษจีน

BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 162 บาท) คาดกำไรสุทธิงวด 1Q22 เติบโต 13% YoY (+24% QoQ) ที่ 7.85 พันล้านบาท จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่สูงขึ้น และการคุมค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่ดี

*หมายเหตุ ชุดหุ้นที่แนะนำเหมาะสำหรับการซื้อเพื่อถือลงทุน 1-14 วัน หากนักลงทุนมีกำไรก็สามารถทำกำไรได้โดย แนะตั้ง Stop loss หากขาดทุนเกินกว่า 5% ส่วนราคาเป้าหมายเป็นราคาภายใน 1 ปีจากปัจจุบันที่มาจากปัจจัยพื้นฐาน

- Advertisement -