ECF เผยผลงานงวดไตรมาส 1/65 ฟอร์มดี ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ส่งออกโตต่อเนื่อง เร่งเครื่องปั๊มยอดขายทั้งในและต่างประเทศ ขยายช่องทางจำหน่าย ทั้งออนไลน์และโมเดิร์นเทรด ด้านธุรกิจพลังงานทดแทน ระบุโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เมียนมา อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการก่อสร้างเฟส 2 คาดแล้วเสร็จภายในปีนี้ ก่อนเร่งการก่อสร้างเฟส 3 และเฟส 4 กำลังการผลิตรวม 220 เมกะวัตต์ ขณะที่ธุรกิจเหมืองขุดสกุลเงินดิจิทัล คาดสามารถรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 1/65 หนุนรายได้ปีนี้ โต 12-15%

 

นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ECF เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจช่วงไตรมาส 1/65  มีสัญญาณดี ตลาดต่างประเทศมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากกลุ่มลูกค้ารายใหม่ที่บริษัทขยายฐานการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ส่งออกไปประเทศอินเดีย และสหรัฐฯ ซึ่งมียอดคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  ตลาดในประเทศมุ่งเน้นกระตุ้นยอดขายผ่านช่องทางจำหน่ายใหม่ สร้างความหลากหลายของช่องทางการจำหน่ายสินค้า ลดการพึ่งพิงเพียงช่องทางใดช่องทางหนึ่ง อาทิ จำหน่ายผ่านออนไลน์ ร้านโมเดิร์นเทรดชั้นนำที่มีสาขาทั่วประเทศ และเพิ่มตัวแทนจำหน่ายในต่างจังหวัดหัวเมืองใหญ่  อีกทั้งนโยบายการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว และมาตรการผ่อนคลายของภาครัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและกำลังซื้อ ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์

ส่วนภาพรวมธุรกิจในปี 2565  บริษัทมุ่งเน้นสร้างการเติบโต โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 12-15 % พร้อมเพิ่มความสามารถการทำกำไรจากธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ธุรกิจพลังงาน ซึ่งขณะนี้ทางโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เมียนมา อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการก่อสร้างเฟส 2 ให้แล้วเสร็จ คาดว่าภายในปีนี้ และจะเร่งการก่อสร้างเฟส 3 และเฟส 4 สำหรับกำลังการผลิตรวม 220 เมกะวัตต์ ให้เริ่มการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์โดยเร็วต่อไป

สำหรับธุรกิจอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างเริ่มต้นการดำเนินธุรกิจ อาทิ ธุรกิจเหมืองขุดสกุลเงินดิจิทัล คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 1/65

ขณะที่ ผลการดำเนินงานปี 2564  บริษัทมีรายได้รวมทุกกลุ่มธุรกิจ 1,600.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 185.18  ล้านบาท หรือ 13.08 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,415.63 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่เท่ากับ  50.85 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 23.54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 41.16  ล้านบาท

จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายปันผลหุ้นละ 0.0157 บาท หรือคิดเป็นอัตราจ่ายปันผล 121.53 % ของกำไรสุทธิของบริษัท (งบเฉพาะกิจการ) หลังหักสำรองตามกฎหมาย โดยจะทำการกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 14 มีนาคม 2565 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 ภายหลังวันที่ขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 21 เมษายน 2565

******

- Advertisement -