JDF ฟอร์มสวย ราคาหุ้นเข้าซื้อขายใน SET วันแรก ปิดตลาดที่ระดับราคา 5.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.90 บาท หรือ 111.54% จากราคา IPO ที่ 2.60 บาท ระบุจากความเชื่อมั่นของนักลงทุน ตอกย้ำความเป็นผู้นำในเทรนด์อุตสาหกรรมด้าน Food Technology พร้อมเปิดแผนธุรกิจหลังเข้าระดมทุน เดินหน้าขยายธุรกิจเครื่องปรุงรสอัพฐานรายได้ รวมทั้งเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาด ขยายฐานลูกค้าเข้าสู่กลุ่มประเทศ CLMV การันตีผลงานปีนี้รายได้โตตามเป้าที่ระดับ 25%

นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด กล่าวว่า ความสำเร็จของ JDF ในการเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในศักยภาพการเติบโตของบริษัท และโอกาสจากเทรนด์อุตสาหกรรมด้าน Food Technology เป็นรากฐานด้านปัจจัยสี่ และการบริโภคในประเทศทั่วโลก โดยราคาหุ้น JDF ในวันซื้อขายวันแรก เปิดตลาดที่ราคา 3.20 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 23% จากราคาจองซื้อ (IPO) ที่หุ้นละ 2.60 บาท ส่วนราคาปิดตลาดอยู่ที่ 5.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.90 บาท หรือ 111.54% มูลค่าการซื้อขายกว่า 6,771 ล้านบาท ตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุนที่มีต่อหุ้น Food Technology ที่มีทิศทางการเติบโตต่อเนื่องในอนาคต สนับสนุนให้ JDF เติบโตโดดเด่น

ด้านนางสาวรัตนา เอี้ยประเสริฐศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ JDF กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณทุกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ทำให้การเปิดซื้อขายหุ้น JDF วันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่น และนับเป็นก้าวแรกสำคัญ ซึ่งช่วยผลักดันและสนับสนุนให้บริษัทมีความแข็งแกร่ง โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนจะใช้สนับสนุนแผนการเติบโตของ JDF ในอีก 3-5 ปีจากนี้ ให้เติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับภาพรวมธุรกิจปี 2565 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 25% จากสัญญาณการฟื้นตัวที่ดี หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดผ่อนคลาย ภาพรวมการบริโภคในประเทศและการส่งออกคึกคัก ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อกลับเข้ามา รับความต้องการผู้บริโภคเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งบริษัทมีแผนขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศในกลุ่ม CLMV และลงทุนในระบบเทคโนโลยีและเครื่องจักรเพิ่มเติม เพื่อขยายตลาดใหม่สอดรับเทรนด์อุตสาหกรรมอาหารที่จะเติบโตในอนาคต

ส่วนตลาดในประเทศ JDF จะขยายไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลายมากขึ้น เช่น ซอส ไส้กรอก เนื้อแปรรูป อาหารทะเล และแป้งทอดกรอบ ซึ่งมีตลาดค่อนข้างใหญ่และโตขึ้นทุกปี สะท้อนเรื่องของ Food Technology ไม่มีทางหยุด และยังมีประเด็นการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เครื่องปรุงรสและอาหาร จึงเป็นส่วนสำคัญที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสของ  JDF ก้าวสู่ความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอาหารได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาและวิจัยนวัตกรรมทางอาหารในรูปแบบต่างๆ ได้แก่ สินค้าผักและผลไม้อบแห้งรองรับตลาดขนมขบเคี้ยวสาย Healthy Food ที่ใช้เทคโนโลยีการอบ 100% และ อาหารโปรตีนจากพืช (Plant base) รวมถึงต่อยอดกลุ่มสินค้าอาหารกึ่งสำเร็จรูปที่เป็นแบรนด์ของบริษัท เป็นต้น

“บริษัทขอขอบคุณในความไว้วางใจของผู้ถือหุ้น และนักลงทุนทุกท่านที่ให้การตอบรับหุ้น JDF ในวันนี้ ในฐานะผู้บริหาร จะเดินหน้าสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างสุดความสามารถ เพื่อสะท้อนความเชื่อมั่นไปยังผู้ถือหุ้นของบริษัท” นางสาวรัตนา กล่าว

***********

- Advertisement -