บล.ทรีนีตี้:
ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป – TISCO
คาดกําไร 1Q65 ทรงตัว QoQ
- คาดกำไร 1Q65 อยู่ที่ 1,797 ล้านบาท ทรงตัว QoQ และเติบโตเล็กน้อย 2%YoY รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอาจทรงตัว สินเชื่ออ่อนตัวเล็กน้อย แต่ Yield เพิ่มได้บ้าง
- คาดรายได้ค่าธรรมเนียมอ่อนตัวหลัง 4064 เป็น High Season และยังมีการบันทึก Performance fee แต่อาจเห็นกำไรจากเงินลงทุนดีขึ้นช่วยชดเชย
- ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้มีแนวโน้มลดลงหลังคุณภาพหนี้ทรงตัว แต่สำรองส่วนเกินสูง คาดปี 65 กำไรดีขึ้น 5%YoY โดยหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยที่ดีขึ้นตามสินเชื่อและสำรองหนี้ที่คาดยังลดลงต่อเนื่อง
- คงราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 110 บาท ปันผลเด่น แนะนำ “ซื้อ”
คาดกําไร 1Q65 ทรงตัว QoQ
คาดกำไร 1Q65 ที่ 1,797 ล้านบาท ทรงตัว QoQ และเพิ่มขึ้น 2%YoY โดยมีประเด็นสำคัญคือ
1. คาดรายได้ดอกเบี้ยสุทธิทรงตัว โดยสินเชื่ออ่อนตัวลงเล็กน้อยราว 0.5%QoQ จากการปล่อยสินเชื่อในเชิงระมัดระวัง แต่การเน้นสินเชื่อ High Yield เป็นปัจจัยช่วยชดเชย
2. คาดรายได้ค่าธรรมเนียมอ่อนตัว 20%QoQ เนื่องจากใน 4Q64 เป็น High Season ของ ผลิตภัณฑ์กองทุนและประกัน อีกทั้งยังมีการบันทึก Performance fee เข้ามาอีกราว 471 ล้านบาท ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอื่นปรับตัวดีขึ้นจากฐานต่ำใน 4Q64 โดยเฉพาะกำไรจากเงินลงทุนที่คาดว่าจะพลิกกลับมาเป็นบวกราว 111 ล้านบาท จากที่มีขาดทุนใน 4Q64 เนื่องจากสภาวะตลาดที่ดีขึ้น
3. คาดค่าใช้จ่ายสำรองหนี้อยู่ที่ 339 ล้านบาท ลดลง 17%QoQ และ 59%YoY เนื่องจากคาดว่าแนวโน้มคุณภาพหนี้จะทรงตัว แต่ธนาคารได้ตั้งสำรองส่วนเกินไว้ค่อนข้างมากในปี 63-64 ทำให้สัดส่วน NPL Coverage Ratio ณ สิ้นปี 64 อยู่ในระดับสูงที่ 237%
ปี 65 คาดปัจจัยหนุนยังมาจากสำรองหนี้ที่ลดลง
เรายังคงคาดกำไรปี 65 ที่ 7.1 พันล้านบาท เติบโต 5%YoY แม้สถานการณ์เศรษฐกิจอาจทำให้สินเชื่อเติบโตได้ไม่มาก แต่กลยุทธ์ที่จะเน้นไปทางสินเชื่อ High Yield มากขึ้นจะทำให้แนวโน้ม NIM ปรับตัวดีขึ้น ในด้านรายได้ค่าธรรมเนียมอาจเติบโตไม่สูงนัก เนื่องจากการบันทึกรายได้ค่าธรรมเนียมพิเศษทำให้ฐานปี 64 ค่อนข้างสูง แต่ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ในปี 65 คาดยังลดลงค่อนข้างมากราว 34%YoY เนื่องจาก ณ สิ้นปี 64 สำรองส่วนเกินที่มีค่อนข้างสูง NPL Coverage Ratio อยู่ที่ราว 237% ซึ่งคาดแนวโน้มคุณภาพหนี้ในปี 65 ดีขึ้นและมีโอกาส ที่จะกลับสำรองส่วนเกินได้
ยังคงแนะนำ “ซื้อ” คาดปันผลยังสูงจูงใจ
เราคงราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 110 บาท อิง PBV 1.9 เท่า ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside บวก กับปันผลปี 2564 ที่จะจ่ายที่ 7.1 บาท (XD 29 เม.ย. 65) คิดเป็น Dividend Yield ราว 7% ซึ่งยังสูงจูงใจ จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ความเสี่ยง: แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อ NIM