บล.พาย:

IVL: เริ่มรับรู้กำไรจาก Oxiteno ภายใน 2Q22

บริษัทประกาศความสำเร็จลุล่วงของดีลการเข้าซื้อและควบรวมสินทรัพย์ของ Oxiteno ในช่วงต้นเดือน เม.ย. 2022 โดยจะเริ่มรับรู้กำไรตั้งแต่ 2022 เป็นต้นไป มีมุมมองเชิงบวกต่อดีลนี้เพราะจะช่วยกระตุ้นกำไรและสร้างประโยชน์ร่วมกัน

  • คาดถึงจุดยืนในธุรกิจสารลดแรงตึงผิวที่แข็งแกร่ง เพราะหลังจากบูรณาการแล้ว บริษัทจะมีส่วนแบ่ง 20% ของกำลังการผลิตเอทิลีนออกไซด์ (EO) ในอเมริกา และครองส่วนแบ่งตลาดสารลดแรงตึงผิวที่ไม่มีประจุ 25%
  • ประเมินสินทรัพย์ใหม่จะสร้าง EBITDA ในปี 2022 ที่ US$200 ล้าน 10% ของประมาณการ EBITDA ทั้งหมดของบริษัทในปี 2022 และจะโตขึ้นหลังจากนั้น และประโยชน์ร่วมที่เกิดขึ้นจากประสิทธิภาพในการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์
  • กำไรปี 2022 มีภาพรวมเป็นบวกด้วยการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ 17% หนุนจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ของ 1) ธุรกิจ PET โดยรวมเพราะมีอัตรากำไรที่แข็งแกร่ง และ 2) ธุรกิจออกไซด์และอนุพันธ์แบบบูรณาการ (IOD) จากการบูรณาการสินทรัพย์ของ Oxiteno เข้ามา และการเริ่มดำเนินงานของ IVOL

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 55.0 บาท ถึง 1.7xPBV’22E หรือคิดเป็นค่าเฉลี่ย 5 ปี

เริ่มรับรู้กำไรจาก Oxiteno ภายใน 2022

บริษัทประกาศความสำเร็จลุล่วงของดีลการเข้าซื้อและควบรวมสินทรัพย์ของ Oxiteno ในช่วงต้นเดือน เม.ย. 2022 โดยจะเริ่มรับรู้กำไรตั้งแต่ 2022 เป็นต้นไป มีมุมมองเชิงบวกต่อดีลนี้เพราะจะช่วยกระตุ้นกำไรและสร้างประโยชน์ร่วมกัน

  • จุดยืนทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง: การบูรณาการสินทรัพย์ของ Oxiteno เข้ามาจะเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ IOD ของบริษัท (20% ของ EBITDA ทั้งหมดของบริษัท) หนุนจากพอร์ตธุรกิจสารลดแรงตึงผิวที่มีมูลค่าสูงของ Oxiteno โดยหลังจากบูรณาการจะทำให้บริษัทมีส่วนแบ่ง 20% ของกำลังการผลิต EO ในอเมริกา และครองส่วนแบ่งตลาดสารลดแรงตึงผิวที่ไม่มีประจุ 25%
  • ปัจจัยกระตุ้นกำไร: Oxiteno มี EBITDA ในปี 2020 และ 2021 ที่ US$188 ล้านและ US$205 ล้าน ตามลำดับ ประเมินสินทรัพย์ใหม่จะสร้าง EBITDA ในปี 2022 ที่ US$200 ล้าน 10% ของประมาณการ EBITDA ทั้งหมด ของบริษัทในปี 2022 และจะโตขึ้นหลังจากนั้น และประโยชน์ร่วมที่เกิดขึ้นจากประสิทธิภาพในการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์
  • คาดถึงมูลค่าเพิ่มที่บริษัทจะได้รับเพราะดีลนี้มีต้นทุนที่ US$1.3 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 6.1x EV/EBITDA สำหรับ Oxiteno ซึ่งถือว่าน่าดึงดูดเมื่อเทียบกับมูลค่าของ IVL ที่ 7.4x ในปี 2021

Revenue breakdown

กลุ่มธุรกิจ PET โดยรวมคิดเป็น 63% ของ EBITDA ทั้งหมดของ IVL ซึ่งจะรวมถึงกิจการประเภทอะโรเมติกส์ PET PX PTA บรรจุภัณฑ์ และโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล ส่วนเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษจะรวมถึง PET เรซิน ซึ่งเป็นส่วนที่ IVL มีสถานะเป็นผู้ผลิตเชิงพาณิชย์รายเดียวในโลก สำหรับกลุ่มลูกค้าหลักของหน่วยธุรกิจนี้ คือ กลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ ขวด ฟิล์มและสิ่งทอชนิดพิเศษ

กลุ่มธุรกิจเส้นใยคิดเป็น 15% ของ EBITDA ทั้งหมด โดยธุรกิจนี้จะประกอบไปด้วยเส้นใยเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ เส้นใยโพลีโอเลฟินส์ และเส้นใยสังเคราะห์ผสม (bicomponent) ที่ใช้ในภาคยานยนต์ (9%) ผลิตภัณฑ์สุขอนามัยส่วนบุคคล (62%) และสินค้าประเภทไลฟ์สไตล์ (29%)

ธุรกิจออกไซด์และอนุพันธ์แบบบูรณาการ (IOD) คิดเป็น 22% ของ EBITDA ทั้งหมด ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์จำพวกออฟไซด์ ไกลคอล และสารลดแรงตึงผิว ซึ่งจะรวมไปถึง MTBE ที่คิดเป็น 100% ของยอดขายในอเมริกาเหนือและใต้

 

- Advertisement -