Our View? “ช่วงพักผ่อน”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” ยังมองแนวรับที่บริเวณ 1,675 / 1,670 และ แนวต้านที่บริเวณ 1,690 / 1,700 มองตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้าหนุนการฟื้นตัวขึ้นได้ดี อีกทั้งเรามองการที่ตลาดอยู่ในช่วงสัปดาห์ในวันหยุดเทศกาลสงกานต์ คาดจะส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายเบาบาง คาดทําให้ตลาดผันผวนในกรอบแคบได้บ้าง อีกทั้งเรามีมุมมองเชิงลบจากการที่เริ่มเห็นหน่วยงานเอกชนเริ่มปรับลดคาดการณ์ GDP ของไทยลดลง จากความกังวลต่อแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นต่อเนื่อง คาดจะเป็นปัจจัยกดดันตลาดได้บ้าง

ขณะที่ตลาดยังเผชิญปัจจัย Overhang ในประเด็นวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง โดยสหรัฐ-สหภาพยุโรป (EU) เตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ โดยเป็นการสั่งห้ามการลงทุนทั้งหมดในรัสเซีย รวมถึงคว่ำบาตรธนาคารสเบอร์แบงก์ (Sberbank) และอัลฟา แบงก์ (Alfa Bank) ซึ่งเป็นสองสถาบันการเงินรายใหญ่ที่สุดในรัสเซีย เรามองปัจจัยดังกล่าวคาดอาจไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจและการลงทุนมากนัก แต่คาดวะเป็นจิตวิทยาเชิงลบระยะสั้นกับตลาดได้บ้าง

อีกทั้งคาดตลาดจะรอดูการรายงานตัวเลข CPI เดือน มี.ค. ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในวันที่ 12 เม.ย. นี้ คาดจะออกมาที่ระดับ 8.5% YoY เร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา คาดจะเป็นแรงหนุนความกังวลการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ FED ซึ่งมีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 50 BPS หนึ่งหรือสองครั้งในการประชุมครั้งถัดไปหากเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง รวมทั้งอาจปรับลดขนาดของงบดุล (QT) เดือนละ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างเร็วที่สุดเดือน พ.ค. จากงบดุลของ FED ที่อยู่ในระดับสูงเกือบ 9 ล้านล้านดอลลาร์ คาดจะส่งผลให้กระแสเงินทุนส่วนเกินเริ่มลดลง กดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้ ขณะที่ Dollar Index เร่งตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องขึ้นเตะบริเวณ 100 จุด +/- มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อทิศทางตลาดในภูมิภาค อีกทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US Bond Yield) เร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยรุ่นอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นสูงบริเวณ 2.7 % สูงสุดในรอบ 3 ปี คาดจะเป็นปัจจัยเร่งให้ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์เสี่ยง/สินทรัพย์ปลอดภัย (Earning Yield Gap) แคบลงเร็วต่อเนื่อง ลดความน่าสนใจของราคาสินทรัพย์เสี่ยง กดดัน-จํากัด Upside ของทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้ แต่คาดเป็นจิตวิทยาเชิงบวกหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มประกันขึ้นได้ (BLA และ TIPH)

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เริ่มพยายามฟื้นตัวกลับขึ้นบ้าง ปิดที่ระดับ 98.26 ดอลลาร์/บาร์เรล +2.23 ดอลลาร์ (+2.32%) คาดจาก Technical rebound ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุมมองว่าราคาน้ำมันดิบ WTI. น่าจะปรับตัวขึ้นเป็นจุดพีคไปแล้วในช่วงต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมาที่ระดับราว 130 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่จะทยอยปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ของกลุ่ม IEA กว่า 120 ล้านบาร์เรลสหรัฐ EU ไม่สามารถออกมาตรการกีดกันการส่งออกพลังงานของรัสเซียได้เพิ่มเติม รวมทั้งแนวโน้มการกลับมาส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลา และอิหร่าน ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันทิศทางราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงได้ สะท้อนแนวโน้ม Cost-push Inflation ที่จะทยอยอ่อนตัวลงตั้งแต่ช่วง 2Q65 นี้ ถัดไป ซึ่งคาดจะช่วยคลายความกังวลในการเร่งขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงการคุมเข้มนโยบายทางการเงินของ FED ในช่วงครึ่งปีหลังได้

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “BLA”

กลยุทธ์ แนวรับ 44.00/43.00 Target 47.50/50.00 Stop <42.50

- Advertisement -