ปริมาณการซื้อขายมีแนวโน้มชะลอก่อนเข้าช่วงหยุดยาว

สัปดาห์นี้ตลาดให้ความสนใจกับตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ และการให้ความเห็นของกรรมการเฟด แม้ตลาดจะลดความสนใจความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย ในมุมของผลกระทบทางตรงที่มีต่อน้ำมัน สินค้าโภคภัณฑ์ และสินค้าเกษตร แต่ก็เพิ่มความสนใจต่อผลกระทบทางอ้อม โดยเฉพาะการชะลอตัวของการเติบโต และโอกาสเกิดเศรษฐกิจถดถอย (recession) ทำให้นักลงทุนมีแนวโน้มให้ความสนใจต่อการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อมี.ค.ของสหรัฐฯ ในวันที่ 12 เม.ย. (ตลาดคาด 8.4% เพิ่มขึ้นจาก ก.พ.ที่ 7.9% ) รวมถึงอาจตอบรับเชิงลบต่อการแสดงความเห็นมุมมองดอกเบี้ยและนโยบายการเงินที่ดึงตัว ของกรรมการเฟดหลายท่านในสัปดาห์นี้ ขณะที่ไทยมีการซื้อขายเพียง 2 วันทำการ และจะเข้าสู่ช่วงหยุดยาว ทำให้ปริมาณการซื้อขายมีแนวโน้มชะลอตัว

ติดตามรายงาน WEO ฉบับเม.ย.65 และยังคงมุมมองระวังการปรับประมาณการที่จะกระทบต่อภาพรวมการลงทุน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตรียมออกรายงานเศรษฐกิจรายไตรมาส (World Economic Outlook: WEO) ฉบับใหม่ (April 2022) ในวันที่ 19 เม.ย.65 ซึ่งน่าจะเห็นการปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP โลกลงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งจากปัญหายูเครน-รัสเซีย และผลกระทบของการปิดเมืองเพื่อคุมโควิดของจีนที่กระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของโลก เรายังคงมุมมองระมัดระวังต่อการปรับลดประมาณการกำไรบจ.ในช่วงรายงานผลประกอบการที่จะกระทบต่อแนวโน้มการลงทุนระยะสั้นได้

ประเด็นเก็งกำไรอื่น

1) กลุ่มพลังงาน PTTEP, BANPU, TOP (เน้นโรงกลั่น)

2) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นกลุ่มที่มักจะเคลื่อนไหวได้ดีในภาวะเงินเฟ้อ อีกทั้ง valuation ต่ำ และปันผลสูง ทำให้มีโอกาสเห็นการฟื้นตัวของ LH, SPALI, AP, SC, ASW

3) ขณะที่หุ้นกลาง-เล็กที่สามารถเลือกเก็งกำไร (แบบกำหนดจุดตัดขาดทุน) ในช่วงนี้ ได้แก่ PJW, TTCL, THREL, BLA, IND, MAJOR, WORK, TH, ERW, MINT, CENTEL ,SHR, AAV, SCN, SCI เป็นต้น

ภาพรวมกลยุทธ์: ยังคงมุมมองระมัดระวังสำหรับไตรมาส 2/65 ที่อัพไซต์อาจจะจำกัด จากการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการปรับประมาณการเศรษฐกิจ รวมถึงกำไรบจ. ทำให้ภาพรวมจะเป็นการเลือกเก็งกําไรตามแนวรับ ระหว่างรอตลาดและหุ้นรายตัวปรับลงจนถึงจุดซื้อที่ดี

หุ้นแนะนำ: SVI*, IND*, AAV*, BAFS*

แนวรับ: 1,670-1,679 / แนวต้าน : 1,705–1,720 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

  • GULF – ปรับเพิ่มเป้ารายได้ปี 65 โต 80% จากคาดการณ์เดิมที่ 60% จากการบันทึกโครงการ GPSC ยูนิต 3 และ 4 จ่ายไฟเข้าระบบในปีนี้ ขณะที่โซลาร์รูฟท็อปทยอยติดตั้งอีก 100 เมกะวัตต์ และบันทึกรายได้จาก INTUCH เต็มปี
  • PTT – ผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนการจัดหาหุ้นกู้ 5 ปี วงเงิน 2 แสนล้านบาท รองรับขยาย 5 การลงทุนในอนาคต  พร้อมจ่ายเงินปันผลครึ่งหลังปี 64 อีก 0.80 บาท 29 เม.ย.นี้
  • ILINK – จ่อคว้างานเคเบิลใต้น้ำเกาะเต่าของ กฟภ. เหตุเสนอราคาต่ำสุด เหลือพิจารณาเอกสาร คาดได้ข้อสรุป เม.ย.นี้ หนุนงานในมือเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 1.5 พันล้านบาท
  • UREKA – บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 65 เติบโตขึ้นเท่าตัวจากปีก่อน ซึ่งการเติบโตขึ้นของรายได้ในปีนี้จะมาจากการปรับโครงสร้างทางธุรกิจในปีที่แล้ว จากเดิมที่เน้นการออกแบบเครื่องจักร และอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นหลัก  หันมาเน้นธุรกิจที่มีมูลค่าสูง ยั่งยืน และมีโอกาสเติบโตที่ดี จะเริ่มเห็นผลชัดเจนในปีนี้
  • Cash balance – หุ้นติดเกณฑ์ 11-29 เม.ย.65 ได้แก่ ALPHAX, ATP30, BWG, BYD, BYD-W6, SVT, UBIS-W1, YGG-W1

ประเด็นติดตาม: 12 เม.ย. – OPEC Monthly Report, US CPI index เดือน มี.ค. / 14 เม.ย. – US – Retail Sales เดือน มี.ค.

ประเด็นลงทุนสําหรับหุ้นแนะนำ

  • เก็งกำไร SM* (10) : ได้อานิสงค์จากค่าเงินบาท และธุรกิจที่ฟื้นตัวในปีนี้ ตัดขาดทุน 8.30 บาท
  • เก็งกำไร IND* (2.50) : เก็งกำไรธุรกิจ tumaround ตัดขาดทุน 2.04 บาท
  • เก็งกำไร AAV* (3) : เก็งกำไรการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยว ส่งผลบวกต่อบรรยากาศเก็งกำไรรยะสั้น ตัดขาดทุน 2.60 บาท
  • เก็งกำไร BAFS* (30) : เก็งกำไรการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยว ส่งผลบวกต่อบรรยากาศเก็งกำไรรยะสั้น ตัดขาดทุน 26 บาท

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ

Market News & Factors

  • ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (8 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งร่วงลงในช่วงที่ผ่านมา แต่ดัชนี S&P500 ปิดลดลงหลังการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะดำเนินนโยบายคุมเข้มทางการเงินเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ (อินโฟเควสท์)
  • ตลาดหุ้นยุโรป: ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (8 เม.ย.) ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกในวันอาทิตย์นี้ (10 เม.ย.) นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาแนวโน้มการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และสถานการณ์เกี่ยวกับยูเครน (อินโฟเควสท์)
  • ตลาดหุ้นญี่ปุ่น: ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนเข้าซ้อนซื้อหุ้นราคาถูก หลังดัชนีนิกเกอร่วงลงอย่างหนักในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา (อินโฟเควสท์)
  • ตลาดน้ำมัน: สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (8 เม.ย.) แต่ก็ยังคงลดลงเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน โดยถูกกดดัน หลังจากประเทศต่างๆ ประกาศแผนการที่จะระบายน้ำมันดิบจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (อินโฟเควสท์)
  • GULF: ปรับเพิ่มเป้ารายได้ปี 65 โต 80% จากคาดการณ์เดิมที่ 60% จากการบันทึกโครงการ GPSC ยูนิต 3 และ 4 จ่ายไฟเข้าระบบในปีนี้ ขณะที่โซลาร์รูฟท็อปทยอยติดตั้งอีก 100 เมกะวัตต์ และบันทึกรายได้จาก INTUCH เต็มปี
  • PTT: ผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนการจัดหาหุ้นกู้ 5 ปี วงเงิน 2 แสนล้านบาท รองรับขยายการลงทุนในอนาคต พร้อม จ่ายเงินปันผลครึ่งหลังปี 64 อีก 0.80 บาท 29 เม.ย.นี้
  • ILINK: จ่อคว้างานเคเบิลใต้น้ำเกาะเต่าของ กฟภ. เหตุเสนอราคาต่ำสุด เหลือพิจารณาเอกสาร คาดได้ข้อสรุป เม.ย. นี้ หนุนงานในมือเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 1.5 พันล้านบาท
  • UREKA: บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 65 เติบโตขึ้นเท่าตัวจากปีก่อน ซึ่งการเติบโตขึ้นของรายได้ในปีนี้จะมาจากการปรับโครงสร้างทางธุรกิจในปีที่แล้ว จากเดิมที่เน้นการออกแบบเครื่องจักรและอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นหลัก  หันมาเน้นธุรกิจที่มีมูลค่าสูง ยั่งยืน และมีโอกาสเติบโตที่ดี จะเริ่มเห็นผลชัดเจนในปีนี้

Report & Corporate News

  • SCGP Maintained BUY TP: 69.00 บาท: กำไรของ SCGP จะอ่อนตัวลงใน 1Q22 เนื่องจากไม่มีกำไรจากรายการพิเศษและผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่สูง ขณะที่เราคาดว่ากำไรใน 2Q22 จะดีขึ้น qoq จากกลยุทธ์ในการปรับราคาขายกระดาษบรรจุภัณฑ์เพื่อชดเชยผลกระทบนี้ นอกจากนี้เรายังคาดว่าโมเมนตัมของกำไรจะฟื้นตัว และต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่สูงน่าจะมีผลกระทบที่ค่อนข้างจำกัด คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย: 69.00 บาท
  • SCC Maintained HOLD TP: 412.00 บาท: กำไรของ SCC จะลดลง qoq และ yoy จากกำไรที่ลดลงของธุรกิจเคมีภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่สูง แม้คาดว่าภาพรวมของธุรกิจปิโตรเคมี, ซีเมนต์และบรรจุภัณฑ์จะดีขึ้นใน 2Q22 จาก ASP ที่สูงขึ้น แต่ ASP ก็ยังอยู่ในระดับต่ำ คงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมายที่ 412.00 บาท ในบรรดาหุ้น O&G เราชอบ IVL และ TOP เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการที่แข็งแกร่งใน 1H22
  • ILINK: จ่อคว้างานเคเบิลใต้นำเกาะเต่าของ กฟภ. เหตุเสนอราคาต่ำสุด เหลือพิจารณาเอกสาร คาดได้ข้อสรุป เม.ย. นี้ หนุนงานในมือเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 1.5 พันล้านบาท (อินโฟเควสท์)
  • GULF: ปรับเพิ่มเป้ารายได้ปี 65 โต 30% จากคาดการณ์เดิมที่ 60% จากการบันทึกโครงการ GPSC ยูนิต 3 และ 4 จ่ายไฟเข้าระบบในปีนี้ ขณะที่โซลาร์รูฟท็อปทยอยติดตั้งอีก 100 เมกะวัตต์ และบันทึกรายได้จาก INTUCH เต็มปี (อินโฟเควสท์)
- Advertisement -