BIZ อนุมัติได้ไฟเขียวจ่ายปันผลเป็นหุ้นพ่วงเงินสด กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 21 เมษายนนี้ พร้อมเพิ่มทุนรองรับหุ้นปันผล โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 220 ล้านหุ้น รองรับการปรับสิทธิ BIZ-W1 เตรียมย้ายบ้านใหม่ จากตลาด mai เข้าเทรดใน SET หวังเพิ่มสภาพคล่อง เปิดทางสถาบันทั้งในและต่างประเทศถือหุ้น เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ

 

นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIZ เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล จำนวนไม่เกิน 200 ล้านหุ้น และจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.4277777775 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 21 เมษายนนี้ ทั้งนี้ บริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วหุ้นละ 0.25 บาท รวมทั้งปีจ่ายปันผล เท่ากับ 371,111,111 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลทั้งสิ้นร้อยละ 88.01 ของกำไรสุทธิประจำปี 2564 หลังหักสำรองตามกฎหมาย โดยกำหนดจ่ายในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้

นอกจากนี้ ยังมีมติอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 110 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 220 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 330 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 220 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผล และรองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (BIZ-W1)

ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมแผนดำเนินการย้ายหลักทรัพย์จดทะเบียนของบริษัทจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมอบหมายให้ฝ่ายจัดการดำเนินการยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญของบริษัทเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน

ทั้งนี้ การย้ายเข้าจดทะเบียนใน SET จะเอื้ออำนวยและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ขยายฐานผู้ถือหุ้นและกองทุนทั้งในและต่างประเทศ เข้ามาเพิ่มสัดส่วนการลงทุน และเพิ่มสภาพคล่องการซื้อขายหุ้น รวมถึงรองรับการขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคต

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทยังคงเดินหน้าประมูลงานโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีโอกาสที่จะได้รับงานค่อนข้างมาก ด้วยศักยภาพจากความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ปริมาณงานมือเพิ่มขึ้นในระยะยาว สนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น โดยปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 1,160 ล้านบาท

“คาดว่าในปีนี้จะมีงานออกประมูลใหม่ ทั้งในส่วนของโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชน ไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท และบริษัท มีโอกาสได้งานเพิ่มในหลายโครงการ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายสมพงษ์ กล่าว

อนึ่ง ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อย ในปี 2564 มีรายได้รวม 2,934.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,169.01 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 283.48% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 765.13 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 420.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 375.93 ล้านบาท หรือ 846.63% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 44.40 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งมอบงานได้ตามกำหนด

*******

- Advertisement -