KS Daily View 12.04.2022 >>> กระแสข่าวเก็บภาษีขายหุ้น (FTT) เป็นปัจจัยกดดันจากในประเทศ/ SET คาด 1675-1685 แนะ EPG, MINT

ตลาดต่างประเทศ : สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกดังที่ KS นำเสนอมาตลอดว่าจะผันผวนแกว่งตัวลง(Sideway Down) โดยเมื่อคืน ตลาดหุ้นฝั่งประเทศพัฒนาปรับลง โดยเฉพาะฝั่งสหรัฐ ดัชนี Nasdaq -2.2%, ดัชนี S&P500 -1.7% (ปรับลงทุก Sector), ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปติดลบน้อยกว่า อาทิ ดัชนี DAX ของตลาดหุ้นเยอรมัน -0.6%, ส่วนเอเซียเช้านี้ได้รับ Sentiment ลบตาม โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ ติดลบ 0.5-1% โดยรวมหลายปัจจัยกดดันมาจาก 1.) จีนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ ทำให้เกิดความกังวลอาจจะมีการขยายการ Lockdown, 2.) สงครามรัสเซีย-ยูเครน ล่าสุด ยังเห็นทั้ง 2 ฝั่งโจมตีกันและใช้ปฎิบัติการทางทหาร รวมถึงยังเห็นการคว่ำบาตร(Economic Sanction) ต่อรัสเซียจากนานาประเทศ 3.)ประเด็น Fed ตลาดรอวันนี้รายงานเงินเฟ้อสหรัฐ เดือน มี.ค. ตลาดคาด 8.3%YoY หากออกมาสูงกว่าคาด KS เชื่อว่าจะไม่ทำให้ Fed ส่งสัญญาณนโยบายการเงินตึงตัว(Hawkish) ไปมากกว่าเดิมจากที่ Fed Minute เผยการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50bps และปรับลดขนาดงบดุล 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ในการประชุมรอบ พ.ค.65 โดยช่วงสั้นหนุน Bond Yields สหรัฐอายุสั้น, กลาง, ยาว ปรับขึ้นกดดันหุ้น Technology ปรับลงแรง

อย่างไรก็ตาม KS ประเมินการปรับลงหุ้นโลกเมื่อวาน “ยังไม่ใช่ขาลง” แต่เพียงการพักฐาน(consolidation) คือลงจากจุดสูงสุดไม่เกิน 10% (โดยปัจจุบัน ดัชนี Nasdaq ปรับลง 8.2%จากจุดสูงสุด, ดัชนี DAX ปรับลง 3.9%ฯลฯ) เชื่อว่าอาจเห็นแรงดีดกลับ(Rebound)ในบางวันหาก 3 ประเด็นดังกล่าวเริ่มคลี่คลาย

ตลาดในประเทศ : ในประเทศวันนี้ติดตามประชุม ครม. และรายงาน Monetary policy จากธนาคารแห่งประเทศไทย โดย KS ประเมิน SET Index วันนี้มีโอกาสแกว่งตัวลงตามต่างประเทศ และมีปัจจัยกดดันจากในประเทศ คือ กระแสข่าวการเก็บภาษีขายหุ้น(FTT) ล่าสุด รัฐมนตรีคลังในปีนี้คาดจะเริ่มจัดเก็บอัตรา 0.1%.ในทุกธุรกรรมการซื้อขาย KS ประเมินว่าไม่ใช่ประเด็นใหม่ แต่เป็นประเด็นเดิมที่เคยพูดกันมาก่อนในช่วงต้นปีเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม โดยผลกระทบเบื้องต้นคาด 2.1) รัฐจะมีรายได้มากขึ้นจากการเก็บภาษี 2.2) FTT จะทำให้มูลค่าการซื้อขายของตลาดลดลง 2.3)ความนิยมในการซื้อขายหุ้นในตลาดลดลงส่งผลให้ค่า PE ของหุ้นและตลาดต่ำลง ต้นทุนการเงินของบริษัทจดทะเบียนสูงขึ้น 2.4)แรงจูงใจในการเข้ามาจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดน้อยลง นอกจากนนันในวันนี้ประเมินมูลค่าการซื้อขายคาดจะเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนเตรียมหยุดเทศกาลสงกรานต์ และคาดนักลงทุนยัง Wait&see รอตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศหลังเทศกาลสงกรานต์ว่าจะเร่งตัวมากเพียงใด? โดยประเด็นที่ต้องติดตามหลังสงกรานต์ คือการประกาศผลประกอบการ(Earning) งวด 1Q65 สัปดาห์หน้าเริ่มจากกลุ่มธนาคาร

กลยุทธการลงทุน : KS ประเมิน SET Index ในวันนี้คาดแกว่งตัวลง ยังคงประเมินแนวรับ 1666 จุด ยังแนะนำ Trading โดยเป็นวิธีการการสับเปลี่ยนกลุ่ม(Rotation) ประเมินในช่วงที่ตลาดผันผวน กลุ่มที่ปลอดภัยคือ 1.)กลุ่มการแพทย์ (BH, BDMS) 2.กลุ่มโรงไฟฟ้า Utilities(GULF, GUNKUL,GPSC) 3. กลุ่ม REITS (ALLY, B-WORK, DIF) และแนะนำกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ อาทิ 4.)กลุ่มส่งออก (SAPPE , ASIAN, TU) ซึ่งได้ Sentiment บวกจากเงินบาทที่อ่อนค่า และค่าระวางเรือที่ลดลง ล่าสุด ดัชนีค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ Shanghai containnerized Freight ปรับตัวลง-1.95% WoW และลดลงกว่า -16% YTD 5.) กลุ่มที่ได้กระแสบวกจากการเปิดเมือง หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ศบค. เตรียมยกเลิกตรวจ RT-PCR ผู้เดินทางเข้าประเทศ ปลายมิ.ย.-ก.ค. และล่าสุดเมื่อวาน คกก.โรคติดต่อไฟเขียวปรับลดวันกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากกักตัว 7 วันเหลือ 5 วัน แนะนำ(BEM, CPN, MINT) 6.)กลุ่มที่ราคาสะท้อนข่าวร้ายไปแล้วแต่ทิศทางผลประกอบการยังดี (OSP,EPG) สนกลุ่มชะลอการลงทุน คือ กลุ่มปิโตรเคมี และ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์

มุมมองตลาดหุ้น SET คาด 1675-1685 หุ้นแนะนำ EPG, MINT

Top pick :

  • EPG (ราคาพื้นฐาน 12.0 บาท) เราคาด 1)กำไรปกติไตรมาส 4QFY65 (เดือนม.ค.-มี.ค. 2565) อยู่ที่ 411 ลบ. เพิ่มขึ้น 15.7% YoY แต่ทรงตัว QoQ แม้คาดรายได้จะลดลง QoQ แต่คาด GPM ปรับตัวดีขึ้น 2.) คาดว่าธุรกิจฉนวนจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักสำหรับปี FY2566 ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์น่าจะยังพอเติบโตได้แม้จะประสบปัญหาจากปัจจัยต่าง ๆ ทั่วโลก 3.) ราคาหุ้นที่ปรับฐานราว 22%นับตั้งแต่ต้นปีได้รวมถึงข่าวร้ายส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นแล้ว
  • MINT (ราคาพื้นฐาน 40.59 บาท) โดยปัจจัยหนุน 1.) หลายประเทศรวมถึงไทยเปิดประเทศ หลังจากมีการประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่น และไม่เห็นการกลับมา lockdownแบบเข้มงวด คาดจะเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของรายได้ปี 2565 เป็นต้นไป 2. ยุโรปจะเริ่มเข้าสู่ high season ของภาคท่องเที่ยว 3.) ค่าเงินยูโร/ดอลลาร์ แนวโน้มยังอ่อนค่าต่อเนื่องราว 5.2% นับจากต้นเดือน ก.พ.65 ดึงดูดการท่องเที่ยว โดย MINT จะได้ประโยชน์เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากโรงแรม 64% และมีโรงแรมในยุโรป NH Hotel

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันอังคาร ติดตาม ตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปของเยอรมันเดือน มี.ค. คาด +7.3% YoY ตัวเลข Wholesale Prices ของเยอรมันเดือน มี.ค. คาด +20.9% YoY อัตราการว่างงานของอังกฤษเดือน ก.พ. คาด 3.9% ดัชนี Zew Economic Sentiment ของเยอรมันเดือน เม.ย. คาด -48 จุด แย่ลงจากเดือนก่อนหน้าที่ -39.3 จุด ตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐฯ เดือน มี.ค. คาด +1.2% MoM และ +8.5% YoY ตัวเลข Core inflation ของสหรัฐฯ เดือน มี.ค. คาด +0.5% MoM และ +6.6% YoY ถ้อยแถลงของ Fed Brainard และรายงานภาวะตลาดน้ำมันรายเดือนของ OPEC
- Advertisement -