บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์:
Ngern Tid Lor Plc. บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน)
คาดกำไร 1Q65F จะโตต่อเนื่องและทำนิวไฮ
- คาดกำไร 1Q65F โต 8% QoQ /10% YoY และทำนิวไฮ โดยปัจจัยขับเคลื่อนยังมาจากสินเชื่อที่ยังโดดตาม เป้า ยังรักษาระดับ NIM ใกล้เคียง 1Q64 และรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจประกันยังโตหนุน
- คาดดีล M&A ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มมีอย่างน้อย 1 ดีลจบภายในปีนี้
- ถือเป็นหุ้น growth Stock ที่มีความสามารถในการทำกำไรสูงโดดเด่นในกลุ่มจำนำทะเบียน มีโอกาสโตแบบ inorganic growth ทั้งนี้ ราคาที่ปรับลงมามาก จนมี upside กว่า 22% เป็นโอกาสเข้า “ซื้อลงทุน”
ประเด็นการลงทุน
- สินเชื่อ 1Q65 ยังโตเป็นไปตามเป้า 20-25% ยังมี cost benefit ช่วยหนุน NIM จากการสัมภาษณ์ฝ่าย นักลงทุนสัมพันธ์ของ TIDLOR 1Q65 สินเชื่อยังเติบโตได้ดีตามเป้าที่ตั้งทั้งปีโต 20-25% โดยเป็นการโตทั้งสินเชื่อรถมอเตอร์ไซต์จากบัตรติดล้อ และจากสินเชื่อรถบรรทุกที่ยังต่อเคมเปญดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่อง รวมถึงบัตรติดล้อที่เริ่ม launch สำหรับทั้งรถยนต์และรถบรรทุก ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี อย่างไรก็ดี จากการต่อเคมเปญดอกเบี้ยต่ำสินเชื่อรถบรรทุก ทำให้ Yield ปรับตัวลงเทียบกับ 4Q64 และ 1Q64 แต่ได้ cost benefit จากการทํา IPO เข้าตลท.เมื่อ พ.ค.64 และการได้ upgrade rating จากทริสเรทติ้งล่าสุด ส่งผลให้บริหารต้นทุนดอกเบี้ยลดลง และยังคงรักษา Net Interest Margin (NIM)ในระดับใกล้เคียง 1Q64 ที่ราว 15.6% ได้
- รายได้ค่าธรรมเนียมยังเติบโตสูง แม้ไม่โดดเด่นเท่าไตรมาสก่อน แต่คุม cost to income ได้ดีขึ้น สำหรับรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจประกันยังเติบโตได้ดี แต่คงไม่โดดเด่นเท่า 4Q64 เนื่องจาก Q1 เป็น low season ขณะที่ Q4 ถือเป็น high season อย่างไรก็ดี เชื่อว่าทั้งปีจะยังสามารถโตได้ตามเป้าที่ 30-35% YoY ได้ เนื่องจาก 2Q64-3Q64 เป็นช่วงที่ได้รับผลกระทบหนักจากโควิด แต่ปีนี้เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นมาก คาดเติบโตได้สูงอย่างแน่นอน สําหรับค่าใช้จ่ายดำเนินงานใน 1Q65 จะลดลงจาก 4Q64 เพราะ 4Q64 มีค่าใช้จ่ายทำการตลาดสูง ประกอบกับจะมี Performance bonus ที่จะเข้ามาในไตรมาสสุดท้ายด้วย ทำให้ cost to income ratio ใน 1Q65 จะต่ำกว่า 60% ส่วน credit cost และ NPL เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสนี้
- คาดกําไร 1Q65 ทํานิวไฮ โต 8% QoQ และ 10% YoY เราคาด 1Q65 TIDLOR จะมีสินเชื่อที่โต 18% YoY NIM ที่ราว 15.6% และรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจประกันโต 25% YoY ขณะที่คาดตั้ง credit cost ราว 1.25% เพิ่มขึ้นจาก 4Q64 ที่ 0.75% ของสินเชื่อรวม จาก NPL ที่เพิ่มขึ้น คาด TIDLOR จะมีกำไร 1Q65 ที่ 858 ลบ. โต 8% QoQ และ 10% YoY สำหรับเดือนเม.ย. โมเมนตัมยังดูดี แต่ถือเป็นเดือนที่มีวันหยุดหลายวัน สินเชื่ออาจจะไม่เข้ามามาก และคงยังต้องจับตาว่าวิกฤตราคาน้ำมันแพง ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก จะกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชน และภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงต่อไป ซึ่งยังเป็นปัจจัยที่ท้าทายต่อการเติบโตในอนาคต
- คาดเห็นดีล M&A สําเร็จภายในปีนี้อย่างน้อย 1 ดีล จากการจัดตั้งคณะกรรมการการลงทุนดูแลแผนงานลงทุน โดยเน้นขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก 2 กลุ่ม คือธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน และธุรกิจนายหน้า ประกันภัย ทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่อสามารถนำบริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบันยัง พิจารณาอยู่ตลอด คาดจะเห็นความชัดเจนดีล M&A ในช่วง 2H65 คาดปีนี้จะสำเร็จอย่างน้อย 1 ดีล ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทต่อไป
คําแนะนํา
แนะนำ “ซื้อลงทุน” TIDLOR ถือเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำในสินเชื่อจำนำทะเบียนและมีความสามารถในการทำกำไรโดดเด่น คาดปีนี้จะมีผลประกอบการที่ทำนิวไฮต่อเนื่อง ราคาที่ปรับลงมามากจนมี upside 22% เป็นโอกาสเข้า “ซื้อ ลงทุน”
ปัจจัยเสี่ยง
ผลการระบาดโควิด-19 +วิกฤตยูเครน-รัสเซีย ยังยืดเยื้อ กระทบต่อเศรษฐกิจให้ถดถอยยาวนาน ซึ่งกระทบต่อคุณภาพสินทรัพย์