บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY

TP upside (downside) +22.1%

Close Apr 12, 2022 Price (THB) 56.50

12M Target (THB) 69.00

Previous Target (THB) –

What’s new?

  • SCGP มีการทำ M&P เพื่อเพิ่มกำลังผลิตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯกลายเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในระดับภูมิภาคได้ นอกจากนี้บริษัทฯยังมีการขายสินค้าให้กับกลุ่มอุตสาหกรรม E-Commerce และ Food Delivery ส่งผลให้ธุรกิจของบริษัทฯมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  • ราคาหุ้นปรับตัวลงมาราว -21.0% จากจุดสูงสุดหลัง Spread ของธุรกิจ Packaging Paper ถูกกดดันจาก ต้นทุนที่สูงขึ้น รวมถึงราคาถ่านหินที่สูง แต่การที่ Spread เริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ 4Q64 เป็นสัญญาณว่าผลประกอบการของ SCGP ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว

Our view

  • คาดกำไรปกติ 2565 ที่ 9,147 ลบ. (+32% YoY) หนุนจากกำลังผลิตใหม่ และ Spread ของธุรกิจ Packaging Paper ที่มีแนวโน้มดีขึ้นกว่าปีก่อน จากต้นทุนวัตถุดิบที่เริ่มลดลงตามค่า Freight หลัง COVID-19 เริ่มคลี่คลาย
  • เราประเมินราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 69.00 บาท/ หุ้น อิง EV/EBITDA ที่ 14.9% เทียบเท่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม Packaging และ Consumer Products ที่เป็นผู้นำในระดับ Region และ Global สามารถ Implied เป็น PER65 ที่ 32.4 เท่า, PEG ที่ 1.6 เท่า และ PBV ที่ 3.0 เท่า แนะนำ “ซื้อ”

SCG PACKAGING หมดปัญหาด้านต้นทุน กลับสู่โหมดการเติบโต

การเติบโตหนุนจากทั้งกำลังผลิตใหม่, E-Commerce และ Food Delivery

หลังจาก IPO SCGP ก็ได้มีการทำ M&P อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มกำลังผลิตและความสามารถในการแข่งขันในภูมิภาค มีการทำ M&P ทั้งสิ้น 5 ดีล ทำให้ในปัจจุบัน SCGP เป็นผู้นำของภูมิภาคสำหรับอุตสาหกรรม Packaging ทั้งในแง่ของกำลังผลิตและความสามารถในการแข่งขัน SCGP ถือเป็นบริษัทฯที่มี Exposure ใน Megatrend เช่น E-Commerce และ Food Delivery แม้ในปัจจุบันกลุ่มลูกค้าจะยังไม่มีการใช้งานมาก (ราว 5% ของปริมาณขายรวม) แต่ถือเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต โดยอุตสาหกรรม E-Commerce ใน ASEAN มีโอกาสเติบโตราว 18.2% CAGR ระหว่างปี 2564-68 ขณะที่อุตสาหกรรม Food Delivery ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกล้วนมีอัตราเติบโตสูงกว่า 10% CAGR ระหว่างปี 2564-69

คาดผ่านรอบของการถูกกดดันจากต้นทุนไปแล้ว

ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ส.ค. 64 ราคาหุ้นปรับตัวลงราว -21.0% จากระดับสูงสุด เพื่อสะท้อนการถูกกดดันจาก Spread ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Packaging Paper ที่ปรับตัวลง หลังได้รับแรงกดดันจากค่า Freight ที่อยู่ในระดับสูง (ปัจจัยจากการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์) ส่งผลให้ในปี 2564 บริษัทฯมี GPM อยู่ที่ราว 18.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 คาด Spread จะฟื้นตัวจากค่า Freight ที่เริ่มปรับระดับลงตั้งแต่ช่วง 4Q64 ทั้งนี้เราใช้สมมติฐาน Spread สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Packaging Paper ที่ US$245/ตัน เทียบกับ US$241 ตัน ในปี 2564 ขณะที่บริษัทฯได้รับผลกระทบจากราคาถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้น YoY อย่างจำกัด เนื่องจากต้นทุนถ่านหินคิดเป็นสัดส่วนเพียง 5% ของต้นทุนรวม อีกทั้ง Spread ของธุรกิจ Packaging Paper ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวสามารถชดเชยผลกระทบจากต้นทุนถ่านหินที่สูงขึ้นได้

ผลประกอบการปี 2565 มีแนวโน้มเติบโตสูงจากฐานที่ต่ำในปีก่อน

คาดกำไรปกติปี 2565 ที่ 9,147 ล้านบาท เติบโต 32% YoY จากฐานที่ต่ำในปี 2564 ได้แรงหนุนจาก 1) การรับรู้รายได้จากการเข้าลงทุนใน Duy Tan, Intan Group และ Deltalab รวมถึงการขยายกำลังผลิตในโรงงาน Fajar และ Prepack แบบเต็มปีเป็นปีแรก 2) การขยายกำลังผลิต Packaging Paper ของโรงงาน UPPC ในฟิลิปปินส์ขนาด 2.2 แสนตัน/ปี (COD 1Q65) และการขยายกำลังผลิตบรรจุภัณฑ์ Foodservice ในไทยและเวียดนามขนาดรวม 1.84 พันล้านชิ้น/ปี 3) Spread ของ Packaging Paper ที่สูงกว่าปีก่อนจะทำให้ GPM ของบริษัทฯ สามารถฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับ 18.9% ได้ และ 4) การฟื้นตัวของระดับการบริโภคในภูมิภาค ASEAN หลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 คลี่คลาย

แนะนํา “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 69.00 บาท

เราประเมินมูลค่า SCGP ด้วย EV/EBITDA ที่ 14.9 เท่าเทียบเท่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม Packaging และ Consumer Products ที่เป็นผู้นำระดับภูมิภาคและระดับโลก ได้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 69.00 บาท/หุ้น มี Upside 22.1% สามารถ Implied เป็น PER65 ที่ 32.4 เท่าและ PBV ที่ 3.0 เท่า ที่ระดับ PER ดังกล่าวสามารถคิดเป็น PEG 1.6 เท่า (อิงการเติบโต +20.6% CAGR ระหว่างปี 2564-2567) ขณะที่ PBV ในระดับ 3.0 เท่า ใกล้เคียงกับผู้นำในตลาดยุโรปอย่าง SIG Combibloc ที่ 2.9 เท่า แต่ยังอยู่ต่ำกว่าผู้นำในตลาดสหรัฐฯอย่าง AMCOR ที่ 3.9 เท่า แนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยงที่สำคัญ ความผันผวนของราคาต้นทุนพลังงาน, ความผันผวนของราคาขายและต้นทุนในการผลิตสินค้าประเภท Packaging Paper และความเสี่ยงการเผชิญภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว (อุตสาหกรรม E-Commerce และ Food Delivery อาจเติบโตน้อยกว่าที่คาด)

- Advertisement -