STARK โชว์แผนการดำเนินธุรกิจ ตั้งเป้าผู้ผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลติดอันดับท็อป 10 ของโลก เดินหน้าขยายฐานสู่ธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ดันผลงานปีนี้แตะ 30,000 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง พร้อมเตรียมออกหุ้นกู้ 3 ชุด อายุ 9 เดือน 2 ปี และ 3 ปี เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน และหรือผู้ลงทุนรายใหญ่ คาดเปิดจองซื้อวันที่ 9-11 พฤษภาคมนี้ นำเงินที่ได้ใช้หนี้สินเชื่อสินเชื่อธนาคาร หุ้นกู้ของผู้ออกหุ้นกู้หรือบริษัทในกลุ่ม รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจ

 

นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้นำด้านการผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีประสบการณ์ในธุรกิจสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลยาวนานกว่า 50 ปี โดยมีบริษัทย่อยหลักคือ บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (PDITL) ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการรายใหญ่ในการผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ล อีกทั้งยังมีบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลธุรกิจพลังงานดิจิทัล และธุรกิจที่ประกอบกิจการให้บริการด้านทรัพยากรบุคคล เป็นต้น ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายส่งผลให้ STARK สามารถให้บริการได้อย่างหลากหลายและเติบโตอย่างรวดเร็วจนขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตสายไฟอันดับ 14 ของโลกในปัจจุบัน

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ในการดำเนินงาน มุ่งเน้นการผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลแรงดันไฟฟ้าปานกลาง สูง และสูงพิเศษ (Medium – Extra High Voltage) เพื่อรักษาอัตรากำไรในระดับสูง (High Margin) ต่อเนื่องในระยะยาว จากโรงงานทั้งในไทยและเวียดนาม ทำให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตโดยรวมสำหรับผลิตภัณฑ์แรงดันไฟฟ้าสูงและเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย การเสนอขาย และความเชี่ยวชาญในด้านสายแรงดันไฟฟ้าสูงและสูงพิเศษ และเพิ่มโอกาสในการประมูลงานสำหรับผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่ขึ้น ปัจจุบันโรงงานเวียดนามได้ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลแรงดันไฟฟ้าสูงและสูงพิเศษแล้ว รวมทั้งห้องทดสอบแรงดันไฟฟ้าสูง ส่งผลให้ STARK สามารถขยายการผลิตได้ด้วยการใช้เงินทุนเพียงเล็กน้อย

นอกจากนี้ STARK ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สายเคเบิ้ลใต้น้ำ (Submarine cable) เป็นการเชื่อมต่อโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Floating Cable) การผลิตสายไฟ HVDC Cable ระบบสายส่งกระแสตรงแรงดันสูง และการผลิตกระแสไฟฟ้าที่ติดตั้งในทะเล (Offshore wind farm) เพื่อรองรับการเติบโตของภาคธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม พลังงานหมุนเวียน รวมถึงอุตสาหกรรมอวกาศและยานอวกาศอีกด้วย

สำหรับผลการดำเนินงานปีนี้ ตั้งเป้ารายได้ไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยเป็นผลจากการเติบโตจากธุรกิจหลักคือ การผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ล รวมถึงเติบโตจากแผนการขยายฐานรายได้เข้าสู่ธุรกิจยานยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตทั่วโลก ประกอบกับมีสายไฟเป็นปัจจัยที่สำคัญ และจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงชุดสายไฟตามเทคโนโลยีต่างๆ ทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน ปัจจุบันบริษัทยังมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 12,000 – 13,000 ล้านบาท โดยเป็นงานทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะทยอยรับรู้ต่อเนื่อง

พร้อมกันนี้ บริษัทได้พัฒนาแนวทางที่ยั่งยืนผ่านการควบรวม การซื้อกิจการ และการลงทุน โดยเน้นการส่งเสริมการเสนอขายผลิตภัณฑ์ การขยายและเพิ่มฐานตลาด ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ทั้งในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม และต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดที่มีการเติบโตสูง (High-growth markets) โดยได้รับประโยชน์ในการพึ่งพาข้อตกลงระหว่างประเทศจาก FTA (Free Trade Area) ของบริษัทย่อย Thipha Cables ที่จะเอื้อต่อการส่งออก ซึ่งจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในระดับโลกและภูมิภาค โดยได้วางเป้าหมายขยายตลาดส่งออกเป็น 50 ประเทศ จากปีที่ผ่านมาส่งออก 42 ประเทศ เพื่อมุ่งสร้างการเติบโตขององค์กรอย่างต่อเนื่อง มั่นคงในระยะยาว และสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้แก่ผู้ถือหุ้นต่อไป ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการผลิตสายไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นผู้ผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลอันดับ 14 ของโลก โดย STARK มีเป้าหมายมุ่งเป็นผู้ผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลอันดับที่ 10 ของโลกต่อไป

ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทได้ยื่นร่างแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท ครั้งที่ 1/65 โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 3 ชุด หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 9 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.90-3.10% หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.60-3.80% และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00-4.20% มีกำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะมีการประกาศอีกครั้ง

สำหรับ STARK ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ BBB+ แนวโน้มอันดับเครดิต Stable สะท้อนถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินงานของบริษัท ในฐานะผู้ผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยหุ้นกู้ในครั้งนี้จะเสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน และหรือผู้ลงทุนรายใหญ่เท่านั้น และคาดว่าจะเปิดให้ผู้ลงทุนจองซื้อในวันที่ 9-11 พฤษภาคมนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปใช้ชำระคืนสินเชื่อธนาคารและหุ้นกู้ของผู้ออกหุ้นกู้หรือบริษัทในกลุ่ม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจ ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้ และร่างหนังสือชี้ชวนที่ www.sec.or.th หรือ สอบถามรายละเอียดที่ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 6 ราย ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย  ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารยูโอบี จำกัด  บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย)  และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอเชีย เวลท์

*************

- Advertisement -