บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: 

Eastern Polymer Group (EPG) 4Q64/65 จะประคองตัว ปี 64/65 จะทำสถิติ

Results Preview

ประเด็นการลงทุน

แนวโน้มผลประกอบการ 4Q64/65 (ม.ค.-มี.ค. 65) คาดจะประคองตัวได้ดี จากการบริหารจัดการต้นทุน บวกด้วยการทยอยปรับราคา ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น แม้ยังเผชิญข้อจำกัดห่วงโซ่อุปทาน และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ปี 2564/65 คาดกำไรปกติจะทำสถิติสูงสุดใหม่ 1,570 ล้านบาท โต 30% แนวโน้มปี 2565/66 (เม.ย. 65 – มี.ค. 66) คาดจะเติบโตต่อ จากกำลังการผลิตใหม่ และคำสั่งซื้อใหม่ช่วยหนุน ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย P/E 16.2 เท่า ต่ำกว่าเฉลี่ย 19.4 เท่า มี EV/EBITDA 11.4 เท่า มีอัตราเงินปันผลตอบแทน 4.6% เราคงแนะนำ ซื้อ ประเมินราคาเป้าหมายด้วยวิธี DCF (WACC 8%, LTG 3%) ได้เท่ากับ 15 บาท

คาดกําไร 4Q64/65 จะประคองตัวได้ดี รวมปี 2564/65 จะทำสถิติ

แนวโน้มผลประกอบการ 4Q64/65 (ม.ค.- มี.ค. 65) จะคองตัวได้ดี แม้เผชิญอุปสรรค สงครามรัสเซีย-ยูเครน การแพร่ระบาดของ Covid-19 ทำให้กระทบห่วงโซ่อุปทาน ปัญหาไมโครชิปขาดแคลน และการขนส่งทางเรือขาดแคลนและมีราคาแพง แต่ยอดขายคาดจะเติบโตจากปีก่อน 2,929 ล้านบาท (-1%QoQ, +9%YoY) อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะดีขึ้น 31.9% จาก 31.4% ในไตรมาสก่อน และ 31.7% ในปีก่อน แม้ต้นทุนวัตถุดิบคือ โพลิเมอร์ จะปรับขึ้นตามต้นทุนน้ำมันดิบ แต่ EPG มีวัตถุดิบในสต็อก และสั่งซื้อล่วงหน้าประมาณ 6 เดือน พร้อมกับทยอยปรับราคาเพิ่มขึ้น ช่วยหนุนให้อัตรากําไรขั้นต้นดีขึ้น รวมแล้วเราคาดกําไรประคองตัวได้ดี 405 ล้านบาท (+1%Qoq, 0%YoY) ส่วนกำไรปกติจะเติบโต 395 ล้านบาท (+7%QoQ, +11%YoY) รวมปี 2564/65 คาดยอดขาย 11,806 ล้านบาท โต 23% อัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้นเป็น 31.7% จาก 31.2% ในปีก่อน และมีกำไรปกติทำสถิติสูงสุดใหม่ 1,570 ล้านบาท โต 30%

ปี 2565/66 (เม.ย. 2565 – มี.ค. 2566) มีแนวโน้มจะเติบโตต่อ

แนวโน้มปี 2565/66 (เม.ย. 65 – มี.ค. 66) คาดจะเติบโตต่อ คือ 1.) ธุรกิจฉนวนยางได้แรงหนุนจากกำลังการผลิตใหม่ในสหรัฐ ผลิตเต็มที่มากขึ้น 2.) ธุรกิจอุปกรณ์ชิ้นส่วนและตกแต่งรถยนต์ ได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อใหม่จากรถกระบะ Ford ที่เพิ่งเปิดตัว และกลางปีนี้ได้คำสั่งซื้อใหม่จากสองค่ายรถยนต์ 3.) ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกเติบโตจากเก็บเกี่ยวเงินลงทุนในอดีต เราประเมินยอดขาย 12,689 ล้านบาท เติบโต 7.5% และคาดจะมีกำไรปกติ 1,796 ล้านบาท เติบโต 14% ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อ

ปัจจัยเสี่ยง : ต้นทุนวัตถุดิบปรับขึ้น

ต้นทุนวัตถุดิบสำคัญ คือ โพลิเมอร์ คือ ธุรกิจฉนวนยางมีสัดส่วน 20% ธุรกิจอุปกรณ์ ชิ้นส่วนและตกแต่รถยนต์ 40% และธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก 40% แต่ EPG มีสต็อกและคำสั่งซื้อล่วงหน้า 6 เดือน มีการปรับเพิ่มขึ้นราคา และใช้นโยบาย 3 ป. คือ ประโยชน์ ประหยัด และประสิทธิภาพ ช่วยลดต้นทุน จะช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้น

- Advertisement -