บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) 9.0%

Close Apr 18, 2022 Price (THB) 100.00

12M Target (THB) 109.00

Previous Target (THB) 104.00

What’s new?

  • TISCO รายงานกำไรสุทธิ 1Q65 จำนวน 1,795 ลบ. โต 1.8%YoY และโต 0.3%QoQ ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย โดยหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิที่ลดลงมากกว่าคาด แต่ประเด็นลบดังกล่าวถูกหักล้างด้วยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ต่ำลง และการตั้งสำรองที่น้อยกว่าคาดมาก หลังคุมคุณภาพสินเชื่อได้ดี และมีการตั้งสำรองล่วงหน้าไว้มากเพียงพอแล้ว

Our view

  • เรายังมอง TISCO เป็นธนาคารที่ผลดำเนินงานมีแนวโน้มโตดี มีความเสี่ยงน้อยกว่าคู่แข่ง และ เป็น Dividend Stock ที่มีความน่าสนใจ โดยราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 9% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2565 ที่ 109 บาท และคาดให้ Div.Yield อีก 7.5% ทำให้เราคงคำแนะนำ “ซื้อ”

TISCO FINANCIAL GROUP สำรองลดลง หลังคุม NPL ได้ดี และมี Coverage Ratio สูง

กำไร 1Q65 โต 1.8%YoY และ 0.3%QoQ หลังตั้งสำรองและค่าใช้จ่ายที่น้อยลง

TISCO รายงานกำไรสุทธิ 1Q65 ที่ 1,795 ลบ. โต 1.8%YoY และปรับขึ้น 0.3%QoQ ต่ำกว่าที่เราและตลาด คาดเล็กน้อย โดยมีแรงกดดันหลักจากรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิที่ลดลง 1.5%QoQ แม้พอร์ตสินเชื่อจะพลิกกลับมาโต 0.3%QoQ จากแผนรุกขยายธุรกิจในส่วน High Yield และมีการเร่งตัวขึ้นของสินเชื่อบริษัท และสินเชื่อ SME แต่ด้วยสัดส่วนของสินเชื่อระหว่างธนาคาร (ผลตอบแทนต่ำ) ที่เพิ่มขึ้นจาก 12.5% ใน 4Q64 เป็น 13.2%ทำให้ Asset Yield โดยรวมปรับตัวลงจาก 5.9% ใน 4Q64 เหลือ 5.8% นอกจากนี้รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยยังปรับลงราว 21.4%QoQ จากฐานที่สูงใน 4Q64 ที่บริษัทได้รับ Performance Fee จากธุรกิจบริหารจัดการกองทุนรวมเพิ่มเข้ามามาก แต่ในส่วนของรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจหลักยังโต 5%QoQ อย่างไรก็ดี ปัจจัยลบต่างๆ ถูกหักล้างลงด้วยประเด็นบวกจาก 1) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง 3.6%QoQ ตามผลของฤดูกาล และ 2) การตั้งสำรองที่ลดลงไป 79.1%QoQ และมี Credit Cost ต่ำลงจาก 0.8% ใน 4Q64 เหลือเพียง 0.2% ซึ่งต่ำกว่าคาดมาก เนื่องจากบริษัทได้ตั้งสำรอง ECL ไว้ล่วงหน้าจำนวนมาก ขณะที่ยังสามารถบริหารคุณภาพสินทรัพย์ของพอร์ตสินเชื่อได้ดี มี NPL Ratio ลดลงเหลือเพียง 2.1% จาก 2.4% ใน 4Q64 ซึ่งเป็นผลจากการคัดกรองคุณภาพลูกหนี้ และการปรับโครงสร้างลูกหนี้กลุ่มเสี่ยงในหลายไตรมาสที่ผ่านมา จนปัจจุบันบริษัทมี Coverage Ratio สูงถึง 262.1% ทำให้มีการทยอยลด ECL ลง

ปรับประมาณการกำไรขึ้นสะท้อน Credit Cost ที่ต่ำกว่าคาดมาก

กำไร 1Q65 คิดเป็น 25.4% ของประมาณการทั้งปีเดิม แต่เราคาด 2Q65 จะยังเห็นทิศทางการปรับขึ้นของกำไรสุทธิ หนุนด้วยพอร์ตสินเชื่อที่คาดจะขยับขึ้นต่อ QoQ หลังได้ปัจจัยบวกจากยอดขายยานยนต์ที่เร่งตัวขึ้นต่อเนื่องจากงาน Motor Show (วันที่ 31 มี.ค. – 10 เม.ย.) ซึ่งปีนี้มีการเปิดตัวรุ่นรถยนต์ใหม่ๆ และการเริ่มทำตลาดของค่ายรถยนต์ EV ทำให้คาดสินเชื่อรถใหม่จะปรับตัวขึ้น ขณะที่บริษัทพยายามขยายพอร์ต =สินเชื่อในกลุ่ม High Yield ทั้งในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อรถมือสอ งและสินเชื่อจำนำทะเบียนของสมหวัง คาดช่วยให้ Asset Yield และ NIM มีทิศทางปรับตัวดีขึ้น ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมคาดโต QoQ โดยค่าธรรมเนียมจะมีแนวโน้มเติบโตในทางเดียวกับพอร์ตสินเชื่อ บวกกับคาดรายได้ค่านายหน้าขายประกัน และหน่วยลงทุนจะปรับตัวขึ้นต่อ จากการเร่งทำตลาดผ่าน Digital Platform นอกจากนี้คาดจะมีรายได้จากเงินปันผลเพิ่มเข้ามา ส่วนการตั้งสำรองคาดยังทรงตัวในระดับต่ำ เพราะคุณภาพสินเชื่อค่อนข้างแข็งแรง ทำให้เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ขึ้น 5.7% โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาด TISCO จะมีกำไรสุทธิ 7,484 ลบ. โต 10.4%YoY

ผลดำเนินงานโตดี มีความเสี่ยงต่ำ มองเป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม Dividend Play

เรายังมอง TISCO เป็นธนาคารที่ผลดำเนินงานมีแนวโน้มโตดี มีความเสี่ยงน้อยกว่าคู่แข่ง และเป็น Dividend Stock ที่มีความน่าสนใจ โดยราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 9% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2565 ที่ 109 บาท และคาดให้ Div.Yield อีก 7.5% ทำให้เราคงคำแนะนำ “ซื้อ”

- Advertisement -