บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Thai Oil (TOP.BK/TOP TB)* ประมาณการ 1Q65F: โรงกลั่นกำไรพุ่งกระฉูด

Event

ประมาณการ 1Q65F

Impact

คาดว่ากําไรสุทธิใน 1Q65F จะโตถึง 109% YoY และ 39% QoQ

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ TOP ใน 1Q65F จะอยู่ที่ 7.0 พันล้านบาท (+109% YoY, +39% QoQ) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมากทั้ง YoY และ QoQ จะมาจากกำไรจากสต็อกน้ำมัน และ base GRM ที่เพิ่มขึ้น เราคาดว่า TOP จะบันทึกกำไรจากสต็อกน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 150% YoY และ 263% QoQ เป็น 1.19 หมื่นล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบพุ่งทะยานจาก US$73/bbl ในเดือนธันวาคม 2564 เป็น US$111/bbl ในเดือนมีนาคม เพราะผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ในขณะเดียวกันเรายังคาดว่า base GRM ของ TOP จะพุ่งขึ้นถึง 860% YoY และ 25% QoQ เป็น US$6.7/bbl เนื่องจาก spread ของน้ำมันเบนซิน, น้ำมันเครื่องบิน และน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็น US$17.8/bbl, US$16.2/bbl และ US$19.6/bbl ตามลำดับ นอกจากนี้ เรายังคาดว่าอัตราการกลั่นจะทรงตัว QoQ อยู่ที่ 300KBD คิดเป็นอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ 109% ในขณะที่เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจ aromatics จะทรงตัว QoQ ใน 1Q65F เนื่องจาก spread ของ PX ที่เพิ่มขึ้นเป็น US$124/ton (+30% QoQ) จะหักล้างไปกับ spread ของ BZ ที่ลดลงเหลือ US$110/ton (-26% QoQ) แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นจะลดลง QoQ เนื่องจาก spread ของน้ำมันหล่อลื่น 500SN ยังคงลดลงอีก 22% QoQ เหลือ US$523/ton เนื่องจากอุปทานเพิ่มขึ้นหลังจากที่โรงกลั่นในภูมิภาคกลับมาเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตอีกครั้ง ทั้งนี้เราใช้สมมติฐานว่าบริษัทจะมีผลขาดทุนก้อนใหญ่จากการป้องกันความเสี่ยง 6.7 พันล้านบาทใน 1Q65F จากที่มีกําไรจากการป้องกันความเสี่ยง 504 ล้านบาทใน 4Q64

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้ขึ้นจากเดิม 133%

ในบทวิเคราะห์กลุ่มพลังงานของเราที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2565 เราได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรของ TOP ในปี 2565F ขึ้นอีก 133% เป็น 2.71 หมื่นล้านบาท เนื่องจาก i) คาดว่าจะบันทึกกำไรพิเศษ 1.10 หมื่นล้านบาทจากการขายหุ้น 10.78% ใน Global Power Synergy Public (GPSC.BK/GPSC TB)* ใน 2Q65F และ ii) base GRM ดีขึ้น ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 เมษายน ผู้ถือหุ้นของ TOP อนุมัติให้ขายหุ้น GSPC 304 ล้านหุ้นให้กับ Siam Management Holding Co.,Ltd. (SMH) ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ PTT Pcl (PTT.BK/PTT TB)* ถือหุ้น 100% ที่ราคาประมาณ 73.50 บาท/หุ้น (คิดเป็นมูลค่ารวม 22,351 ล้านบาท) นอกจากนี้ เรายังปรับสมมติฐาน base GRM ของ TOP ในปี 2565F ขึ้นจากเดิมอีก 47% เป็น US$6.0/bbl หลังจากที่เราปรับเพิ่มสมมติฐาน spread ของน้ำมันเบนซิน, น้ำมันเครื่องบิน และน้ำมันดีเซลในปีนี้เป็น US$16.0/12.0/16.0/bbl จากเดิมที่ US$11.0/10.0/12.0/bbl เนื่องจาก i) อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงกลั่นในยุโรปและจีนลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และ ii) อุปสงค์แข็งแกร่งขึ้นจากการฟื้นตัวของการจราจรและกิจกรรมทางธุรกิจทั่วโลก

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำซื้อ TOP โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 เอาไว้ที่ 69.00 บาท อิงจาก adjusted EV/EBITDA ที่ 7.5x และรวมผลกระทบจาก dilution อย่างเต็มที่จากแผนเพิ่มทุน 1 หมื่นล้านบาท

Risks

ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ, GRM และ spread ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี รวมถึงการเพิ่มทุนใน 2H65 และการเลื่อนกําหนด COD ของโครงการ CFP จาก 3Q66 เป็นปี 2567

- Advertisement -