บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +52%

Close Apr 19, 2022 Price (THB) 23.70

12M Target (THB) 36.10

Previous Target (THB) 36.10

What’s new?

  • แนวโน้ม 1Q65 คาดกำไรปกติเติบโต 105% QoQ และ 6% YoY จากการฟื้นตัวทั้งตลาดในประเทศและบริษัทลูกที่มาเลเซียและโปรตุเกส
  • ปี 2565 คาด Outperform อุตสาหกรรม ปัจจัยหนุนจากทั้งการฟื้นตัวของธุรกิจ OEMs คำสั่งซื้อขนาดใหญ่ global market รวมถึงการฟื้นตัวของบริษัทย่อย ทั้งที่มาเลเซียและโปตุเกส

Our view

  • เราคงมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในปี 2565 ที่คาดฟื้นตัวโดดเด่น Outperform กลุ่ม
  • เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยคงมูลค่าพื้นฐานปี 2565 ที่ 36.10 บาท อิง PE เฉลี่ย 5 5 ปี ที่ 10x ซึ่งราคาปัจจุบันชื้อขายที่ P/E เพียง 6.6x ซึ่งถือ ว่ายังถูกมาก

AAPICO HITECH คาดกำไรปกติ 1Q65 เติบโตเด่นกว่าอุตสาหกรรม

แนวโน้ม 1Q65 คาดเติบโตโดดเด่นกว่าอุตสาหกรรม

เราคาดกำไรปกติใน 1Q65 (ไม่นับรวมรายการพิเศษและอัตราแลกเปลี่ยน) ที่ 307 ล้านบาท +105% QoQ และ 6%YoY โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ยอดขายเติบโตต่อเนื่อง 8%QoQ และ 12%YoY ดีกว่าอุตสาหกรรมที่สภาอุตสาหกรรมรายงานยอดผลิตเติบโตเพียง 2% ซึ่งตลาดในประเทศได้แรงหนุนจากโมเดลชิ้นส่วนรถกระบะที่เพิ่มขึ้น  การฟื้นตัวของบริษัทลูกในต่างประเทศที่มาเลเซีย ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ที่กลับมาขายได้ตั้งแต่ 4Q64 จากที่โดน Lockdown ไปกว่า 6 เดือน 2) ธุรกิจที่โปรตุเกสไตรมาสนี้คาดจะกลับมาคุ้มทุนจากไตรมาสก่อนที่ขาดทุน 100 ล้านบาท ขณะที่ปัญหาต้นทุนวัตถุดิบในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีราคาสูงขึ้น สำหรับลูกค้าไทยมีการปรับราคาไปแล้วส่วนใหญ่ ขณะที่ลูกค้าโปรตุเกสมีการปรับราคาไปแล้ว 75% ของลูกค้าทั้งหมด อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 11.5% ดีขึ้นจาก 4Q64 ที่ 10.0% แต่ลดลงจากปีก่อนที่ 12.1%

คาดผลประกอบการจะเติบโตดีขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี

  • บริษัทให้ข้อมูลแนวโน้ม 2Q65 แม้จะเข้าช่วง low season ซึ่งกำไรจะชะลอตัว QoQ แต่ในแง่การเติบโต YoY จะดีขึ้น เนื่องจากโมเดลใหม่ๆ จะเข้ามามากขึ้น ส่วนสถานการณ์ขาดแคลนชิพ มีแนวโน้มจะดีขึ้นในช่วง 2H65
  • เราประมาณการรายได้ปี 2565 ที่ 24,928 ล้านบาท +22% YoY ถือว่าอนุรักษ์นิยมกว่าเป้าของบริษัทที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโตมากกว่า 30%YoY ส่วนประเด็นต้นทุนวัตถุดิบในอุตสาหกรรมที่สูงขึ้นมองว่าไม่กระทบมากนัก โดยผลของรายได้ที่สูงขึ้นมีผลมากกว่า
  • ในปี 2565 เราคงประมาณการกำไรปกติที่ 1,282 ล้านบาท (+25%YoY) โดยปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตในปีนี้ จาก 1) อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ในประเทศปีนี้คาดเติบโต 7%YoY จากการฟื้นตัวของตลาดรถยนต์ในประเทศ ส่วนประเด็นปัญหาขาดแคลนชิพ เรามองว่าจะดีขึ้นใน 2H65 2) ในปี 2565 รถกระบะหลายรุ่นจะเข้าสู่รอบปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ (Model Change) (เฉลี่ยทุก 5 ปี) ดังนั้น กลุ่มลูกค้าหลายรายเริ่มทยอยนำโมเดลใหม่เข้ามาเจรจากับบริษัทอย่างต่อเนื่อง 3) บริษัทได้คำสั่งซื้อใหม่ เป็น global market สำหรับชิ้นส่วนรถกระบะ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนใหม่ที่บริษัทยังไม่เคยได้ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท จากกลุ่มลูกค้ายุโรป โดยในปี 2565 คาดรับรู้รายได้ราว 700 ล้านบาท 4) ผลบวกจากการที่รัฐบาลมาเลเซียมีการต่ออายุนโยบายลดภาษีรถยนต์ ทำให้ธุรกิจจำหน่ายรถยนต์มีแนวโน้มฟื้นตัว เทียบปีก่อนที่โดน Lockdown ไปกว่า 6 เดือน 5) บริษัทลูกที่โปรตุเกสคาดว่าจะพลิกฟื้นกลับมามีกำไรจากการฟื้นตัวของยอดขาย และมีการขยายผลิตภัณฑ์ค้าไปยังกลุ่ม Non-auto

คงคำแนะนำ “ซื้อ”

เรายังคงเลือก AH เป็นหุ้น Top pick ในกลุ่มยานยนต์ ด้วยแนวโน้มกำไรปี 2565 ที่คาดว่าจะเติบโตเด่นกว่าอุตสาหกรรม เราคงมูลค่าพื้นฐาน ปี 2565 ที่ 36.10 บาท อิง PE เฉลี่ย ที่ 10x ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E เพียง 6.6x ของ EPS ในปี 2565 และคาดผลตอบแทนจากเงินปันผลในปี 2565 ที่ 5%

- Advertisement -