KS Daily View 22.04.2022 >>> Fed ส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินตึงตัว/ เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า/ SET วันนี้คาด 1680-1690 หุ้นแนะนำ ASIAN

ต่างประเทศ : ประเด็นสำคัญเมื่อคืนที่มีผลต่อตลาดหุ้นโลกในระยะถัดไป คือ ถ้อยแถลงของประธาน Fed พาวเวลล์ส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินตึงตัว (Hawkish) มีความเห็นว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 50 bps ในการประชุม Fed รอบถัดไป 3-4 พ.ค.65 เพื่อลดความร้อนแรงเงินเฟ้อสหรัฐ ซึ่งล่าสุด สูงสุดในรอบ 40 ปี (ล่าสุด FedWatch ของ CME Group สะท้อนว่าตลาดคาดการประชุม Fed ในรอบ พ.ค. โอกาสสูง 97.6% Fed จะขึ้น 50 bps ,ประชุมในรอบ มิ.ย. คาดโอกาส 68.3% Fed จะขึ้น 75 bps, ประชุมรอบ ก.ค.โอกาส 56% Fed จะขึ้น 50 bps โดยขึ้นติดต่อกันทุกรอบในการประชุม และคาดดอกเบี้ยสหรัฐ ณ.สิ้นปีจะอยู่ที่ 2.75-3%)

KS ประเมินว่าประเด็นเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย 50bps ในการประชุม พ.ค.ตลาดได้รับรู้ไปแล้วระดับนึง แต่ภาพของดอกเบี้ยสหรัฐที่เป็นขาขึ้น และประชุม รอบ พ.ค. จะเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่ Fed จะเริ่มปรับลดขนาดงบดุล 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ทำให้ระยะสั้นเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นสหรัฐ โดยเฉพาะกลุ่ม Technology ปรับลงแรง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ Sensitive กับดอกเบี้ยขึ้น อิงดัชนี Nasdaq เมื่อวาน -2.1%DoD (นำโดย Netflix ยังลงต่อ -3.5%DoD , Amazon -3.7%, NVIDIA-6% ฯลฯ) ดัชนี S&P500 -1.48% (กลุ่มการเงิน -1.6%, กลุ่มสาธารณูปโภค -1.6%, materials -1.7%, กลุ่ม IT -1.9%, กลุ่มพลังงาน -3.3%) ,ดัชนี Dowjones -1.05% สวนทางฝั่งยุโรปดัชนี CAC40 +1.36%, ดัชนี DAX+0.98% (โดยปัจจัยหนุนรายงานผลประกอบการงวด 1Q22 แข็งแกร่ง, การเมืองฝรั่งเศสอยู่ในช่วงดีเบต ชและตลาดคาด นายมาครงมีโอกาสชนะ โดยรวมผลต่อตลาดหุ้นเอเซียวันนี้ KS คาดมีโอกาสสร้าง Sentiment ลบต่อการลงทุน โดยเฉพาะตลาดหุ้นที่มีหุ้นกลุ่ม TecH สูงอาทิ ฮ่องกง ไต้หวัน ผลระยะยาว : KS ประเมินว่าประเด็นเรื่อง Fed จะยังกดดันตลาดหุ้นในช่วงตลอดเดือน พ.ค. โดย KS ทำการศึกษาสถิติในอดีตรอบที่แล้วในปี 2561 รอบที่ Fed ลด Balance Sheet ลง 373 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 9.3% ของยอดคงเหลือของในปี 2561 โดยพบว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปีเพิ่มขึ้น 28 bps, ดัชนี MSCI ACWI ลดลง 11% ในปี 2561 และค่าเงินบาทอ่อนค่า เชื่อว่าในรอบนี้มีโอกาสคล้ายกัน คืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐมีโอกาสปรับขึ้น แต่ Upside การขึ้นไม่มากแล้ว ส่วน ตลาดหุ้นโลกและหุ้นไทยจะปรับฐานลง แต่เชื่อว่าจะไม่ลงแรง และลงลึกเหมือนอดีต KS ประเมิน แนวรับของ SET index ครั้งนี้ 1665 จุด

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ : ราคาน้ำมันดิบโลก +1.6%DoD โดยปัจจัยหนุนยังมาจากสงครามรัสเวีย ยูเครนยืดเยื้อ ล่าสุด ฝั่งสหรัฐฯ จะส่งชุดอาวุธใหม่มูลค่า 800 ล้านดอลลาร์ไปยังยูเครน และอีก 500 ล้านดอลลาร์ในการสนับสนุนทางการเงินโดยตรงยูเครน (ถือเป็น Sentiment บวกต่อ PTT, PTTEP แต่ Sentiment ลบหุ้นกลุ่ม Anti Commodity อาทิ (EPG, SCGP, BGRIM, GULF, OR, AAV, BA), ราคาถ่านหิน Newcastle +3.5%DoD บวกต่อ BANPU LANNA โดยรวมประเมินราคาโภคภัณฑ์ยังผันผวนรายวันแนะนำเพียง Trading

ในประเทศ : KS เชื่อว่าในวันนี้ประเด็นสำคัญที่ตลาดให้น้ำหนัก คือ 1.) ประชุม ศบค. จะพิจารณาผ่อนคลายนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศระยะที่ 2 โดยจะปรับระบบ TEST&GO อาทิ ยกเลิกวิธีตรวจโควิด RT-PCR และให้เหลือแต่การตรวจ ATK คาดจะเริ่ม 1 พ.ค. และจะมีการปรับโซนสีจังหวัดให้ผ่อนคลายขึ้น โดยรวมเป็น Sentiemnt บวกต่อตลาดหุ้นไทย และหุ้นเปิดเมือง ทั้งสายการบิน ท่องเที่ยว โรงแรม ฯลฯ 2.) ติดตามการรายงานผลประกอบการงวด 1Q22 หลังจากกลุ่มธนาคารรายงานงบออกมาส่วนใหญ่ดีกว่าคาดเล็กน้อย และ สัปดาห์ถัดไปจะเป็นฝั่ง Real sector จะทยอยประกาศ โดยนักวิเคราะห์อยู่ในช่วงพรีวิว (KS รวบรวมบริษัทภายใต้ที่ทำการศึกษา ซึ่งคาดว่ากำไรไตรมาส 1 จะออกมาเติบโต YoY และ QoQ คือ BH,BDMS, TOP, GFPT PR9 EPG GLOBAL แนะนำลงทุนเก็งกำไร) 3.) ทิศทางเงินบาท ล่าสุด 33.8 บาท มีแนวโน้มอ่อนค่าต่อ โดยยังมีปัจจัยหนุนจากดอกเบี้ยสหรัฐที่เป็นขาขึ้นดังกล่าว และ ธปท.คาดยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย และสถิติย้อนหลัง 10 ปีพบว่าเดือน พ.ค. เงินบาทอ่อนค่าเฉลี่ย 1.03% บวกกับกลุ่มส่งออก (ASIAN SAPPE)

กลยุทธ์การลงทุน : KS ยังคงคำแนะนำสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแนะนำ ”ชะลอการลงทุน” ส่วนผู้รับความเสี่ยงสูง ยังแนะนำ “เก็งกำไร Trading” กลุ่มส่งออก (ASIAN, SAPPE) กลุ่มที่ได้กระแสบวกจากการเปิดเมือง แนะนำ (BEM, CPN, MINT, CENTEL, AMATA ) ส่วนผู้ลงทุนระยะกลาง แนะนำหากราคาหุ้นที่อ่อนตัวแนะนำสะสม กลุ่มการเงิน (MTC, SAWAD, HENG,MICRO) กลุ่มค้าปลีก (DOHOME ) ,กลุ่มการแพทย์ (BH, BDMS) กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF, GUNKUL) กลุ่ม ICT (DTAC, TRUE) กลุ่มที่ยังคงแนะนำหลีกเลี่ยงลงทุนเข้าลงทุนคือ กลุ่มปิโตรเคมี, อิเล็กทรอนิกส์ และเลี่ยงหุ้นที่ราคาอยู่โซนบนและมีค่า P/E สูง

มุมมองตลาดหุ้น SET วันนี้คาด 1680-1690 หุ้นแนะนำ ASIAN

Top pick :

ASIAN (ราคาพื้นฐาน 23.7 บาท) ได้ Sententimentจากแนวโน้มเงินบาทที่อ่อนค่า และเราคาดกำไรงวด 1Q22 ของ ASIAN จะอยู่ที่ 254 ลบ. (+18.1% YoY และ -3.9% QoQ) เนื่องจากอุปทานอาหารทะเลแช่แข็งและอาหารสัตว์เลี้ยงคาดจะเพิ่มขึ้น YoY จากกำลังการผลิตอาหารทะเลแช่แข็งสำเร็จรูป (+30%) ที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/2564 ส่วน Outlook งวด2Q22 เราคาดว่ายอดขายอาหารสัตว์เลี้ยง โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มกำลังการผลิตใหม่ 6 พันตัน/ปี (+17%) ในช่วงปลายไตรมาส 2/2565 ขณะที่ยอดขายอาหารแช่แข็งและอาหารสัตว์น่าจะฟื้นตัวเพราะไตรมาส 2 เป็นฤดูกาลที่ดีขึ้น

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปของญี่ปุ่นเดือน มี.ค. คาด +0.6% MoM และ +1.1% YoY ตัวเลข Jibun Bank Manufacturing PMI Flash ของญี่ปุ่น เดือน เม.ย. คาด 53 จุด (-1.9% MoM) และถ้อยแถลงของ ECB President Lagarde

- Advertisement -