ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ชะลอการปรับขึ้น เทรดไซด์เวย์

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์ชะลอการปรับขึ้น น่าจะเทรดไซด์เวย์…หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยบวกต่อ (ตามคาด) หนุนโดยการรีบาวด์ของหุ้นกลุ่มที่ลงไปแรงๆ ในช่วงก่อนหน้า เช่น กลุ่มอิเลกโทรนิกส์ และกลุ่มอาหาร ผนวกกับต่างชาติและสถาบันภายในประเทศพลิกมาเป็นผู้ซื้อสุทธิ ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมของตลาดหุ้นเป็นลบเล็กน้อย i) ประธาน ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวในงานสัมมนาที่จัดโดย IMF เมื่อวานนี้ ว่าเขาคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 4-5 พ.ค. และเฟดมุ่งมั่นที่จะดำเนินการเพื่อสกัดเงินเฟ้อ  ถ้อยแถลงดังกล่าวส่งผลให้สัญญาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์เพิ่ม การคาดการณ์ดอกเบี้ย ณ สิ้นปี 2565 เป็น 3,00% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 2.75% ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา กดดันจิตวิทยาของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืน ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้าจะไม่มีการแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด เนื่องจากเข้าสู่ช่วงห้ามให้ข้อมูลก่อนประชุม FOMC ii) การสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครนดำเนินต่อไป แต่กระแสข่าวถือว่าดีขึ้นเล็กน้อย ทางการรัสเซียแถลงว่าไม่มีความจำเป็นต้องโจมตีเมือง Mariupol เพิ่มเติม เนื่องจากได้ควบคุมสถานการณ์ได้หมดแล้ว นอกจากนี้รัสเซียยืนยันว่าได้ส่งเงื่อนไขการเจรจาสันติภาพให้กับยูเครนแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด… ด้านปัจจัยภายในประเทศวันนี้จะมีการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ซึ่งประเด็นสำคัญได้แก่การผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติมสำหรับผู้เดินทางเข้าไทย (อาจยกเลิก Test & Go, อาจเปลี่ยนการตรวจ RT-PCR เมื่อเดินทางถึงไทยเป็นการตรวจ ATK เป็นต้น) ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวอีก และจะช่วยประคองเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ปัจจัยโลกมีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง ขณะที่เช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อฯ อยู่ที่ 21,808 ราย เสียชีวิต 128 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 19,826 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร TFG, SPA, III

  • TFG (เป้า Consensus 5.63 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 4.36 บาท / แนวต้าน 4.5 บาท (ค่าเฉลี่ย 200 วัน EMA) หาก Breakout ผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 4.7 บาท (Stop loss 4.2 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจากราคาเนื้อไก่ที่ปรับขึ้น 5% จากสิ้นเดือน มี.ค.65 และราคาเนื้อหมูปรับขึ้น +7.9% จากสิ้นเดือน มี.ค. โดยคาดเป็นผลจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ชดเชยต้นทุนอาหารสัตว์ที่ปรับขึ้น 3) ประเมินการส่งออกเนื้อไก่ในช่วง High season ปีนี้ (20 – 30) จะโตเด่นโดยเฉพาะในตลาดยุโรป เนื่องจากยูเครนเป็นประเทศที่ป้อนอุปทานเนื้อไก่ไปในยุโรปราว 1 ใน 4 ของทั้งหมด 4) Consensus คาดกำไรปีนี้โต +300% YoY เป็น 2.25 พันล้านบาท (EPS 0.38 บาท) คิดเป็น Forward PE ต่ำเพียง 11.6 เท่า
  • SPA (เป้าพื้นฐาน 8.7 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 7.45 บาท / แนวต้าน 7.7 บาท หาก Breakout ผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบกรอบแนวต้านถัดไป 7.8 – 8.0 บาท (Stop loss 7.1 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้น Laggard กลุ่มท่องเที่ยว ขณะที่คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเริ่มทยอยฟื้นตัว ตามการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ของภาครัฐฯ (คาดวันศุกร์ที่ประชุม ศบค. มีโอกาสผ่อนคลายมาตรการฯ เพิ่มเติม) 3) ฝ่ายวิจัยฯประเมินปีนี้จะยังมีผลขาดทุนสุทธิเล็กน้อย แต่ EBITDA ปีนี้ฟื้นตัวต่อเนื่อง +160% YoY เป็น 195 ล้านบาท ขณะที่คาดปี 2566 จะ Turnaround เป็นกำไรสุทธิได้ที่ 185 ล้านบาท
  • III (เป้า Consensus 20.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 14.4 บาท / แนวต้าน 15.1 บาท หาก Breakout ผ่านได้ประเมินมีโอกาส Rebound ทดสอบแนวต้านถัดไป 15.6 – 16.0 บาท (Stop loss 14.3 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้นพักฐานรับ Sentiment ลบจากมาตรการล็อคดาวน์ของจีนพอสมควรแล้ว ขณะที่ล่าสุดทางการจีนเตรียมออกมาตรการเยียวยาฯ และเราคาดค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ (Shanghai Containerized Freight index) ที่เป็น Benchmark ของธุรกิจจะเริ่มฟื้นตัวในเดือน พ.ค. หลังจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการฯ (คาดจะมีการ Restock สินค้าอีกรอบ) พร้อมทั้งประเด็นข่าวเตรียมเปิดตัวพันธมิตรขนส่งสินค้ารถไฟ จีน ลาวเร็วๆ นี้หนุน 3) Consensus คาดกำไรปีนี้โต +29% YoY ส่งผลให้ Forward PE ปีนี้ลดลงเหลือ +/- 19.5 เท่า

หุ้นมีข่าว

(+) เชฟรอนจ่อส่งมอบเอราวัณ PTTEP* พร้อมลุยผลิตก๊าซฯ (ข่าวหุ้น) “เชฟรอน” เตรียมส่งมอบแหล่งเอราวัณให้กับกลุ่มปตท.สผ. ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ จัดตั้งศูนย์สนับสนุนการปฏิบัติการส่งมอบเพื่อความปลอดภัย พร้อมลงนามข้อตกลง 4 ฉบับ เดินหน้าผลิตก๊าซฯ ภายใต้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC)

(+ NEX, EA, BYD) ขสมก.ยันจ้างเอกชนเดินรถสุดคุ้ม (ไทยโพสต์) “ขสมก.” แจงยิบจำเป็นจ้างเหมาเอกชนเดินรถเมล์ ยันจ่าย 6,000 บาทต่อคันเป็นต้นทุนจริง ด้านจัดหารถอีวี 400 คันคืบ มั่นใจ พ.ค.65 ออกทีโออาร์ ได้รถเดือน ต.ค.65

(+) IMH จับมือ WINMED ขาย “LITUO” ATK แบบน้ำลาย (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) “โรงพยาบาล อินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ” เตรียมแตกไลน์ธุรกิจเป็นมากกว่าโรงพยาบาล สร้างฐานรายได้ใหม่ จับมือ WINMED จำหน่าย “LITUO” ATK แบบน้ำลาย ราคา 45 บาท กระจายบนฐานลูกค้าโรงพยาบาลกว่า 1.2 ล้านคน ตั้งเป้า 1 ล้านชุด ดันรายได้ปี 65 ทะลุเป้า 1,200 ล้านบาท

(+) D ลุยขายอุปกรณ์ทันตกรรม ขอเป้ามาร์เกตแชร์เบอร์3 – รายได้โต 30% (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) “เดนทัลคอร์ปอเรชั่น” เดินหน้าขายวัสดุและอุปกรณ์ทันตกรรม หลังปีที่ผ่านมาธุรกิจนี้เติบโตต่อเนื่อง และมีงานในมือเพิ่ม ตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจนี้โต 30%

(+) UBE จ่อปิดดีลเทคปีนี้ รุกตลาดใหญ่กาแฟ (ทันหุ้น) UBE ลุยส่งออกกาแฟออแกนิค เผยตลาดใหญ่การบริโภคทั่วโลกโตกว่า 8% เน้นสหรัฐ-ยุโรป-ญี่ปุ่นเติบโตสูง เป้ารายได้กาแฟปีนี้ 300 ล้านบาท ปริมาณ ขาย 1.5 พันตัน ลุยขยายจาก 700 ไร่ เป็นหมื่นไร่ ใน 5 ปี ศึกษาขยายโรงคั่วกาแฟต่อยอด มั่นใจปีนี้รายได้ โต 15-20% ตลาดแป้งมันสำปะหลังออแกนิคโตสูง ครึ่งปีหลังมีปิดดีล M&A

(+) EP จ่อปิดดีลลงทุน โรงไฟฟ้าอาเซียนปีนี้ (กรุงเทพธุรกิจ) “อีฟ” เผยอยู่ระหว่างศึกษาลงทุน โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในอาเซียน คาดชัดเจนภายในปีนี้ ด้านผู้ถือหุ้นอนุมัติเพิ่มทุนออกวอร์แรนท์ ขยายวงเงินออกหุ้นกู้เป็น 5 พันล้าน จากเดิม 3 พันล้าน

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • BCH* (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) แนวรับ 22.2 บาท / แนวต้าน 230 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 22 บาท)
  • ERW (เป้าพื้นฐาน 3.7 บาท) แนวรับ 3.56 บาท / แนวต้าน 3.7 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 3.5 mm)
  • M (เป้าพื้นฐาน 58 บาท) แนวรับ 55 บาท / แนวต้าน 56 57 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 54 บาท)
  • BCP* (เป้าพื้นฐาน 35 บาท) แนวรับ 31.5 บาท / แนวต้าน 33 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 30.5 mm)
  • IVL* (เป้าพื้นฐาน 68 บาท) แนวรับ 46.75 บาท / แนวต้าน 48 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 46 บาท)
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 29 บาท / แนวต้าน 30 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ได้ประเมินโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 31 บาท (Trailing stop 28 บาท)
  • GULF* (เป้าพื้นฐาน 55 บาท) แนวรับ 49.5 บาท / แนวต้าน 50.5 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน +/- 52 บาท (Stop loss 48 บาท)
  • ASW (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) แนวรับ 8.05 บาท / แนวต้าน 8.25 – 8.5 บาท (Stop loss 7.9 บาท)
  • WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.2 บาท) แนวรับ 3.32 บาท / แนวต้าน 3.42 – 3.50 บาท (Stop loss 3.3 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • KBANK* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 173 บาท รายงานกำไร 1Q65 = 1.12 หมื่นล้านบาท (+13% QoQ, +6% YoY) เป็นไปตามคาด โดยคุณภาพสินทรัพย์ยังทรงตัว อย่างไรก็ดี เริ่มมีการส่งสัญญาณเชิงลบ จากการย้ายลูกหนี้ที่ได้รับมาตรการช่วยเหลือในช่วงที่ผ่านมา ไปยังกลุ่มปรับปรุงโครงสร้างหนี้ นอกจากนี้ Upside เริ่มจำกัดจากราคาเป้าหมาย ฝ่ายวิจัยฯจึงปรับคำแนะนำลงเป็น “ถือ” (เดิม “ซื้อ”)
  • SCBX แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 150 บาท รายงานกำไร 1Q65 = 1.01 หมื่นล้านบาท (+29% QoQ, +1% YoY) คาด -6% ทั้งนี้มุมมองจากผู้บริหารต่อแนวโน้มเศรษฐกิจเป็นไปในทิศทางที่เป็นลบมากขึ้น ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดประมาณการฯ ลง สะท้อนสมมติฐาน Credit cost และต้นทุนค่าใช้จ่ายที่คาดจะเพิ่มขึ้นใน 2H65 และปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 150 บาท (เดิม 163 บาท) แต่ยังคง แนะนำ “ซื้อ”
  • IRPC* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 4.0 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 1Q65 = 1.5 พันล้านบาท (-73% YoY, -32% QoQ) โดยผลการดำเนินงานที่คาดจะชะลอตัวลง เป็นผลจากการขาดทุนจาก Hedging loss และ Spread ปิโตรเคมี (PP, ABS) ลดลง แนะนำเพียง “ถือ”
  • GFPT แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 13.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 1Q65 = 206 ล้านบาท (+239% YoY, +279% QoQ) โดยกำไรที่ฟื้นตัวขึ้นมาจากการปรับราคาขายขึ้น และคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานจะดีต่อเนื่องใน 2Q – 3Q ที่เป็น High season ของการส่งออกเนื้อไก่

 

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus

- Advertisement -