บล.ทรีนีตี้:
ธนาคารกสิกรไทย – KBANK กำไร 1Q65 โตดีตามคาด แต่ Upside ยังไม่น่าจูงใจ
- กำไร 1Q65 อยู่ที่ 11,211 ล้านบาท ดีขึ้น 13%QoQ และ 5%YoY ตรงตามคาด
- ปัจจัยกดดันมาจากธุรกิจประกันที่ขาดทุนมากขึ้น และกำไรจากเงินลงทุนที่ลดลง
- แต่รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นตามสินเชื่อที่ขยายตัวได้ดี
- และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงตามฤดูกาล
- ขณะที่สำรองหนี้ลดลงเล็กน้อย สัดส่วน NPL ทรงตัว แต่ความจำเป็นในการตั้งสํารองลดลง
- เชื่อเห็นกำไรฟื้นตัวต่อในปี 65 แต่ต้องจับตาดูการปรับโครงสร้างหนี้ที่อาจกระทบ NIM และต้องจับตาดู Relapse ในอนาคต
- Upside ค่อนข้างจำกัด แนะนำเพียง “ซื้อเมื่ออ่อนตัว”
กำไร 1Q65 ตรงตามคาด
KBANK ประกาศกำไร 1Q65 ที่ 11,211 ล้านบาท ดีขึ้น 13%QoQ และ 5%YoY ตรงตามที่คาดไว้ก่อนหน้า โดยในด้านรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงถึง 24%QoQ จากธุรกิจประกันที่ขาดทุนค่อนข้างมากจากภาวะตลาด นอกจากนี้กำไรจากเงินลงทุนยังลดลงจากฐานสูงใน 4Q64 ปัจจัยหนุนหลักจึงมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เติบโตได้ราว 3%QoQ หลังสินเชื่อขยายตัวได้ดีราว 1.5%QoQ และ NIM ยังปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย และค่าใช้จ่ายในการ ดำเนินงานที่ลดลง 15%QoQ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยฤดูกาล ด้านค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ลดลง 3%QoQ หลังสัดส่วน NPL ยังทรงตัว แต่ความจำเป็นในการตั้งสำรองหนี้ส่วนเกินลดลง
ปี 65 กำไรยังโตต่อหลังรายได้ฟื้น และสำรองหนี้ลด
เราคาดกำไรปี 2565 ที่ 43,504 ล้านบาท เติบโต 14%YoY (กำไรงวด 1Q65 คิดเป็นราว 26% ของประมาณการ) โดยปัจจัยหนุนมาจากรายได้ทั้งดอกเบี้ย และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ที่คาดจะเติบโตดีขึ้นจากปี 64 ที่ปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาคุณภาพหนี้ย่ำแย่กว่าปี 65 ขณะที่ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้อาจลดลง หลังสถานการณ์ด้านคุณภาพหนี้เริ่มดีขึ้น และธนาคารได้ตั้งสำรองบางส่วนไว้ล่วงหน้าแล้ว อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ต้องจับตาดู คือ หนี้ภายใต้มาตรการช่วยเหลือที่คาดว่าจะต้องปรับโครงสร้างราว 1.9 แสนล้านบาท บางส่วนได้ถูกปรับโครงสร้างไปแล้ว และบางส่วนจะทยอยปรับโครงสร้างในช่วงที่เหลือของปี ซึ่ง NIM อาจถูกกระทบจากการปรับโครงสร้างได้ โดยทางธนาคารจะพยายามขยายสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูงมาชดเชยผลกระทบดังกล่าว
Upside ยังไม่น่าจูงใจ
เราคงราคาเป้าหมายที่ 170 บาท อิง PBV 0.8 เท่า ด้วยระดับ Upside ยังไม่สูงมากนัก จึง แนะนำเพียง “ซื้อเมื่ออ่อนตัว
ความเสี่ยง: การชะลอตัวของเศรษฐกิจ / คุณภาพหนี้ที่แย่ลง
