บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) 61.6%

Close Apr 21, 2022 Price (THB) 13.30

12M Target (THB) 21.50

What’s new?

  • พร้อมประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนต่อขยายบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม วงเงินกว่า 1.2 แสนล้านบาท คาดเริ่มขาย TOR ได้ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า
  • ในปี 2565 ยังมีโครงการภาครัฐอื่น เริ่มเห็นกรอบเวลา เช่น โครงการมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง M5 (รังสิต-บางปะอิน) และ M9 (บาง ขุนเทียน-บางบัวทอง) และงานรถไฟทางคู่ เฟส 2

Our view

  • คาด 1Q65 จะมีกำไรปกติ 254 ล้านบาท (+8% QoQ, +29%YoY) เติบโตรายไตรมาสและรายปี
  • งานในมือยังสูง 8 หมื่นล้านบาท รอประมูลงานใหม่โครงการขนาดใหญ่จากภาครัฐ และเตรียมเซ็นสัญญาโครงการอู่ตะเภาวงเงิน 2.7 หมื่นล้านบาท ช่วงปลายปี 2565

ปัจจัยเสี่ยง: งานประมูลที่ล่าช้าไม่เป็นตามคาดราคา วัสดุก่อสร้างและราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มกดดันความสามารถในการทำกำไร อุปสรรคจากการแพร่ระบาด COVID-19

SINO-THAI ENGINEERING AND CONSTRUCTION 1Q65 กําไรเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป

1Q65 คาดกําไรโตดีรายปี

ใน 1Q65 เราคาด STEC จะมีกำไรปกติ 254 ล้านบาท (+8% QoQ, +29% YoY) จากความคืบหน้าของงานที่ทำได้ต่อเนื่อง โดยประเมินรายได้จากงานก่อสร้างและค่าเช่าที่อยู่ที่ 7.7 พันล้าน บาท (+11%QoQ,+3%YoY) อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 5.5% ทรงตัวเมื่อเทียบกับรายไตรมาส (4Q64) ที่ 5.6% และปรับดีขึ้นเมื่อเทียบกับรายปี (1Q64) ที่ 5.1% โดยบริษัทคาดแนวโน้มของผลประกอบการในระยะถัดไปจะเริ่มเห็นการเติบโตมากขึ้น หลังจากการเริ่มงานใหม่ เช่น งานโรงไฟฟ้าปลวกแดง งานหมอชิตคอมเพล็กซ์ งานก่อสร้างคืบหน้าเพิ่ม

งานในมือแข็งแรง รอกำลังหนุนจากงานใหม่ของภาครัฐ

STEC มีงานในมือปัจจุบันราว 8 หมื่นล้านบาท หลังรวมงานใหม่จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ส่วนต่อขยายที่ STEC รับงานร่วมกับ CK จำนวน 2 สัญญา ซึ่ง STEC ได้รับงาน 1.58 หมื่นล้านบาท ขณะที่บริษัทยังคงให้ความสนใจงานโครงการภาครัฐที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการประมูล เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนต่อขยาย วงเงินโดยรวมราว 1.27 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการประมูลรูปแบบ PPP ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอขาย TOR ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า ขณะที่ยังมีงานโครงการอื่นจากภาครัฐที่อยู่ระหว่างรอความชัดเจน และกรอบเวลาการประมูล เช่น รถไฟทางคู่ เฟส 2 มอเตอร์เวย์ คาดเห็นความคืบหน้าในช่วง 2H65 ทั้งนี้ในช่วง 4Q65 จะมีโครงการสนามบินอู่ตะเภาวงเงินราว 2.7 หมื่นล้านบาท ที่คาดจะเซ็นสัญญาได้ ทำให้งานในมือของ STEC คงระดับแสนล้านบาท สามารถต่อยอดการรับรู้รายได้ไปอีก 1-3 ปีข้างหน้า

คงคำแนะนำ “ซื้อ”

STEC มีปัจจัยหนุนจากแนวโน้มผลประกอบการ 1Q65 ที่ฟื้นตัวทั้งรายไตรมาส (4Q64) และรายปี (1Q64) พร้อมโอกาสรับงานใหม่จากภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการภาครัฐขนาดใหญ่ หลังจากที่ผ่านมาได้มีการรับงานร่วมกับ CK จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยายเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ และงานรถไฟทางคู่สายใหม่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ขณะที่ใน 2Q65 คาดผลประกอบการจะมีแนวโน้มที่ดีเพิ่มจากความคืบหน้าของงานใหม่ และได้ประโยชน์จากเงินปันผลรับจากการเข้าถือหุ้นใน GULF ราว 80-90 ล้านบาทช่วยหนุน โดยมีประเด็นติดตามจากภาวะต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับเพิ่ม ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อกำไรขั้นต้น ราคาเหมาะสมปี 2565 ที่ 21.50 บาท (อ้างอิง PBV  -0.50SD ที่ 2.1เท่า)

- Advertisement -