บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY
TP upside (downside) 24.2%
Close Apr 21, 2022 Price (THB) 16.50
12M Target (THB) 20.50
Previous Target (THB) 20.50
What’s new?
- คาดกำไรปกติ 1Q65 ที่ 153 ลบ. (-13.8% QoQ, +87.4% YoY) เติบโตเด่น YoY จากรายได้ Sea Freight และ Cross Border Service
- ประเมินผลกระทบจำกัดจากการยกเลิกตรึงราคาน้ำมันดีเซล เพราะส่วนใหญ่ส่งผ่านให้ลูกค้าได้ ขณะที่การล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้ คาดผลกระทบจำกัดเช่นเดียวกัน เนื่องจากบริษัทมีการส่งสินค้าไปยังเมืองข้างเคียงแทน
Our view
- คงประมาณการปี 2565 ที่ 591 ลบ. (+10.6% YoY) คาดทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากรายได้ Sea freight หนุนจากทั้งปริมาณการขนส่ง และค่าระวางเรือทรงตัวสูง และรายได้ Cross Border Service
- คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 20.50 บาทต่อหุ้น ราคาหุ้นปัจจุบัน ซื้อ-ขาย บน PER2565 ที่ 18.2x ต่ำกว่ากลุ่มที่ 19.9x
WICE LOGISTICS คาดกำไร 1Q65 เติบโต 87% YoY
คาดกำไรปกติ 1Q65 เติบโตสูง YoY
เราคาดกำไรปกติใน 1Q65 ที่ 153 ลบ. (-13.8% QoQ, +87.4% YoY) เติบโตสูง YoY หลักๆ มาจาก
1) รายได้ Sea Freight คาดที่ 1.1 พันลบ. เติบโต 160.4% YoY หนุนจากทั้งปริมาณการขนส่งและค่าระวางตู้คอนเทนเนอร์ที่ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (อ้างอิง Shanghai Container Freight Index เฉลี่ยใน 1Q65 ปรับตัวขึ้นถึง 73.3% YoY) และ
2) รายได้ Cross Border Service คาดที่ 547 ลบ. เติบโต 43.5% YoY ตามจำนวนเที่ยวขนส่งที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดกำไรปกติลดลง QoQ จากปัจจัยทางฤดูกาลกดดันรายได้ทั้ง Sea Freight และ Air Freight ลดลง ประกอบกับรายได้ Cross Border Service คาดทรงตัว QoQ จากมาตรการ Zero Covid ของจีนที่ยังมีอยู่ทำให้การขนส่งดีเลย์และมีการติดค้างที่ด่าน
อัตรากำไรขั้นต้น 1Q65 คาดที่ 15.5% (flat QoQ, -158 bps YoY) ลดลง YoY หลักๆ มาจาก GPM ของธุรกิจ Air freight และ Cross Border Service เนื่องจากการติดค้างที่ด่านยังคงมีอยู่ ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มด้านจำนวนเที่ยว Road Rail Service ใน 1Q65 อยู่ที่ 200 เที่ยว +/- (9% ของประมาณการทั้งปี) เนื่องจากเป็น ช่วงเริ่มต้น เราคาดจะค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นใน 2Q65 และจะเริ่มมีนัยสำคัญใน 2H65 ทั้งนี้ หากกำไรปกติใน 1Q65 ใกล้เคียงกับที่เราคาดจะคิดเป็น 26% ของประมาณการปี 2565
คงประมาณการปี 2565 ที่ 591 ลบ. เติบโต 11% YoY
เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2565 อย่างอนุรักษ์นิยมที่ 591 ลบ. (+10.6% YoY) คาดทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง แม้ในระยะสั้นจะมีประเด็นกดดัน คือ
1) กบง.ยกเลิกการตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ 30 บาท ตั้งแต่ พ.ศ. 2565 โดยเปลี่ยนเป็นช่วยราคาส่วนที่เพิ่ม 50% ถึง มิ.ย. 2555 เราประเมินผลกระทบไม่มาก เนื่องจากบริษัทมีต้นทุนน้ำมันที่ไม่สามารถผลักภาระให้ลูกค้าได้ราว 3%-4% ของต้นทุนขายทั้งหมด (70% ของ Cross Border Service เป็นสัญญาระยะยาวซึ่งคิดราคาผันแปรตามราคาน้ำมัน) โดยประเมินต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้น 10% YoY จะกระทบประมาณการปี 2565 ราว 2.8% และ
2) การล็อกดาวน์เมืองเซินเจิ้นและเซี่ยงไฮ้ จากการสอบถามกับบริษัท พบว่าปริมาณการขนส่งในเมืองดังกล่าวช่วง 2QTD ยังไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากบริษัทใช้วิธีขนส่งสินค้าไปยังเมืองข้างเคียงแทน ประกอบกับปริมาณขนส่งในเซี่ยงไฮ้คิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 10% ของปริมาณขนส่งทั้งหมด
นอกจากนี้ เรายังมีมุมมองบวกต่อแผนการขยายพื้นที่เช่าคลังสินค้าเป็น 1.0 แสนตร.ม. ภายในปี 2567 ซึ่งจะสร้าง Recurring Income ในระยะยาว ปัจจุบันบริษัทมีพื้นที่คลังสินค้ารวม 2.4 หมื่นตร.ม. คาดขยายเพิ่ม 2.0 หมื่นตร.ม. และ 3.2 หมื่นตร.ม. ในปี 2565-66 ตามลำดับ
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 20.50 บาท/หุ้น
เราคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มค่าระวางตู้คอนเทนเนอร์ คาดเห็นการฟื้นตัวในเดือน พ.ค.-มิ.ย. 2565 หลังจากผ่าน Low Season และการคลายล็อคดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้หนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ปัญหาความแออัดของท่าเรือทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรปตึงตัวขึ้นเล็กน้อย MoM
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 20.50 บาท/หุ้น อิง PER2565 ที่ 22.5% เทียบเท่าค่าเฉลี่ย ย้อนหลัง 5 ปี ของกลุ่มอุตสาหกรรม เชิงกลยุทธ์แนะนำทยอยสะสม หรือซื้อเมื่อราคาปรับตัวลงบริเวณ 15.5 บาท +/- ซึ่งเป็นบริเวณ -0.75 S.D. เทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของกลุ่ม นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างรออนุมัติการ Spin-Off ธุรกิจขนส่งข้ามพรมแดนในการประชุมผู้ถือหุ้น (29 เม.ย.) คาดจะเข้าซื้อขายได้ใน 4Q65