ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

แกว่งตัวลง แต่น่าจะยังแข็งกว่าตลาดหุ้นต่างประเทศ

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันจันทร์ปรับลดลงในกรอบจำกัด… หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ตลาดหุ้นไทยเทรดในกรอบแคบๆ ตลอดทั้งวัน (ตามคาด) ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยต่อตลาดหุ้นเป็นลบเล็กน้อย i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงแรงเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว หลังจากนักลงทุนตอบสนองเชิงลบต่อการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยจากประธานเฟด เจอโรม พาวเวล ว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุม FOMC วันที่ 4-5 พ.ค. ii) จิตวิทยาการลงทุนในตลาดหุ้นจีนน่าจะอ่อนแอลงในระยะสั้น หลังจากทางการจีนขยายเวลาการล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้ออกไป และมีโอกาสที่จะมีการประกาศล็อกดาวน์เมืองปักกิ่งในเร็วๆ นี้ หลังจากมีการติดเชื้อ COVID-19 เร่งตัวขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา… สำหรับในสัปดาห์นี้ จะไม่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดออกมาแถลงแนวโน้มนโยบายการเงินแล้ว เนื่องจากเข้าสู่ ช่วงห้ามออกสื่อก่อนที่เฟดจะมีการประชุม… ด้านปัจจัยภายในประเทศ เช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ชะลอตัวค่อนข้างมาก อยู่ที่ 14,994 ราย เสียชีวิต 124 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 23,524 ราย ทั้งนี้ประเด็นข่าวเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ซึ่ง ศบค. ประกาศผ่อนคลายเกณฑ์รับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ น่าจะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่องในระยะถัดไป

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร MAJOR*, TFG, SPA

  • MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 19.7 บาท / แนวต้าน 20.2 – 20.4 บาท หาก Breakout ผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 21.2 บาท (Stop loss 19.1 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวก จากภาครัฐผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 เพิ่มเติม และเตรียมกำหนดให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น รองรับการท่องเที่ยว ขณะที่คาดหนังฟอร์มยักษ์เตรียมทยอยเข้าโรง 3) ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 1Q65 ฟื้นตัว YoY และมีโอกาสโต QoQ และคาดปีนี้พลิกกำไร +588 ล้านบาท ขณะที่ PBV 2.48 เท่า ยังต่ำเพียง 1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต และราคาหุ้น Laggard กลุ่มท่องเที่ยว
  • TFG (เป้า Consensus 5.63 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 4.3 บาท / แนวต้าน 4.5 บาท (ค่าเฉลี่ย 200 วัน EMA) หาก Breakout ผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 4.7 บาท (Stop loss 4.2 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจากราคาเนื้อไก่ที่ปรับขึ้น 15% จากสิ้นเดือน มี.ค.65 และราคาเนื้อหมูปรับขึ้น +7.9% จากสิ้นเดือน มี.ค. โดยคาดเป็นผลจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ชดเชยต้นทุนอาหารสัตว์ที่ปรับขึ้น 3) ประเมินการส่งออกเนื้อไก่ในช่วง High season ปีนี้ (20 – 30) จะโตเด่น โดยเฉพาะในตลาดยุโรป เนื่องจากยูเครนเป็นประเทศที่ป้อนอุปทานเนื้อไก่ไปในยุโรปราว 1 ใน 4 ของทั้งหมด 4) Consensus คาดกำไรปีนี้โต +300% YoY เป็น 2.25 พันล้านบาท (EPS 0.38 บาท) คิดเป็น Forward PE ต่ำเพียง +/- 11.5 เท่า
  • SPA (เป้าพื้นฐาน 8.7 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 7.7 บาท / แนวต้าน 80 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 8.3 บาท (Stop loss 7.4 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้น Laggard หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ขณะที่คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเริ่มทยอยฟื้นตัว ตามการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ของภาครัฐฯ 3) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินปีนี้จะยังมีผลขาดทุนสุทธิเล็กน้อย แต่ EBITDA ปีนี้ฟื้นตัวต่อเนื่อง +160% YoY เป็น 195 ล้านบาท ขณะที่คาดปี 2566 จะ Turnaround เป็นกำไรสุทธิได้ที่ 185 ล้านบาท

หุ้นมีข่าว

(+) CPF* สปินออฟ CPV เข้าตลาดหุ้นโฮจิมินห์ ปั้มรายได้ให้แม่ปีละ 6-7 หมื่นล้าน สอดรับคอมเพล็กซ์ ไก่เวียดนาม (ข่าวหุ้น) บอร์ด CPF ไฟเขียว “ซี.พี.เวียดนาม คอร์ปอเรชั่น (CPV)” เข้าตลาดหุ้นโฮจิมินห์ ตรวจสอบข้อมูลพบ CPV เป็นบริษัทหลักที่สร้างรายได้หลักให้ CPF ในเวียดนาม มีรายได้เฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 60,000-70,000 ล้านบาท หรือกว่า 20% ของรายได้รวม วงการวาณิชธนกิจเชื่อแผนสปินออฟ CPV ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม และลดต้นทุนทางการเงินให้บริษัทแม่ สอดคล้องแผนลงทุนคอมเพล็กซ์ไก่ครบวงจรในเวียดนาม มูลค่าเฉียดหมื่นล้านบาท บล.โนมูระ พัฒนสินฯ มองเป็นผลบวกในระยะยาว แนะซื้อเก็งกำไร CPF* ราคาพื้นฐาน 26 บาท

(+) RBF* ออเดอร์ใหม่ไหลเข้า ยอดเวียดนาม อินโดโตดี (ทันหุ้น) RBF* มองทิศทางผลงานไตรมาส 1/2565 ฟื้น หลังโควิดลดความรุนแรง เศรษฐกิจและกำลังซื้อฟื้นตัว ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศทยอยส่งออเดอร์ใหม่ต่อเนื่อง  ซูยอดขายเวียดนาม อินโดนีเซีย ขยายตัวดี ด้านจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในอินเดียกับ TU* คาดแล้วเสร็จไตรมาส 2/2565 มั่นใจรายได้ปี 2565 เติบโตกว่าปีก่อน 10-15%

(+) WICE โชว์ขนส่ง รถไฟลาว-จีนคึก โกยปีนี้ 600 ล้าน (ข่าวหุ้น) WICE โชว์บริการขนส่งรถไฟลาว-จีน 4 เดือนแรกกว่า 200 เที่ยว มั่นใจทั้งปีนี้ทำได้ตามเป้า 3,000 เที่ยว คาดสร้างรายได้เพิ่มกว่า 500-600 ล้านบาท ขณะที่ลุ้นขนส่งทางอากาศโตต่อเนื่อง หากมีการเปิดน่านฟ้ามากขึ้น ส่วนขนส่งทางทะเลรับผลบวกค่าระวางพุ่งตลาดส่งออกสหรัฐฯ สดใส หนุนรายได้รวมปีนี้ 9 พันล้านบาท โต 20%

(+) NVD ร่วมเป็นภาคี โครงการ EECmd ทุ่มงบลงทุนพันล. (ข่าวหุ้น) “เนอวานา ไดอิ” ลงนามความร่วมมือเป็นภาคีในการพัฒนาเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ศูนย์นวัตกรรมการแพทย์ครบวงจร ธรรมศาสตร์ พัทยา หรือ โครงการ EECmd เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัย ภายใต้แนวคิด “Health and Wellness” คาดใช้งบลงทุนรวม 1,000 ล้านบาท หวังเป็นต้นแบบ “Medical Valley” ของไทย

(+) ตามมติของที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2555 เห็นชอบยกเลิกระบบ Test & Go และปรับลดวงเงินประกันภัยเหลือ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (จากเดิมที่ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ) โดยผู้ที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์จะไม่ต้องตรวจ RT-PCR ทั้งก่อนเดินทางและเมื่อเดินทางถึงประเทศไทยเดินทางเข้าประเทศไทย (กรุงเทพธุรกิจ) เรายังคงคงเป้านักท่องเที่ยวปี 2565 ที่ 8 ล้านคน และมองปัจจัยบวกดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนภาพการฟื้นตัวในระยะถัดไป โดยเบื้องต้นประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนเมษายน 2565 ฟื้นตัวเด่นที่ 350,000 – 400,000 คน และคาดโมเมนตัมจะเร่งตัวได้ดีขึ้นอีกโดยเฉพาะในครึ่งปีหลัง ยังคงน้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงแรมที่ Overweight

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • ERW (เป้าพื้นฐาน 3.7 บาท) แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 3.6 บาท)
  • BCH* (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) แนวรับ 22.3 บาท / แนวต้าน 230 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 22 บาท)
  • M (เป้าพื้นฐาน 58 บาท) แนวรับ 54 บาท / แนวต้าน 56-57 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 54 บาท)
  • BCP* (เป้าพื้นฐาน 35 บาท) แนวรับ 31.5 บาท / แนวต้าน 33 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 31 บาท)
  • IVL* (เป้าพื้นฐาน 68 บาท) แนวรับ 46.5 บาท / แนวต้าน 48 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 46 บาท)
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 29 บาท / แนวต้าน 30 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 31 บาท (Trailing stop 28 บาท)
  • GULF* (เป้าพื้นฐาน 55 บาท) แนวรับ 490 บาท / แนวต้าน 50.5 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน +/- 52 บาท (Stop loss 48 บาท)
  • III (เป้า Consensus 20.5 บาท) แนวรับ 14.5 บาท / แนวต้าน 15.1 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 15.6-16.0 บาท (Stop loss 14.3 บาท)
  • ASW (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) แนวรับ 8.25 บาท / แนวต้าน 8.5 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 8.8-9.0 บาท (Stop loss 8.0 บาท)
  • WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.2 บาท) แนวรับ 3.36 บาท / แนวต้าน 3.42 – 3.50 บาท (Stop loss 3.3 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • CPF* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 30.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดจะรายงานผลขาดทุน -1 พันล้านบาทใน 1Q65 แย่ลงทั้ง QoQ, YoY โดยคาดจะมีผลขาดทุนจากธุรกิจของ บ.ลูกที่จีน (CTI ทำฟาร์มสุกร) รวมทั้งราคาสุกรที่เวียดนามปรับลดลงใน 1Q65 อย่างไรก็ดี คาดว่าผลการดำเนินงานจะพลิกเป็นกำไรได้ใน 2Q65 – 4Q65 หลังจากราคาสุกรที่จีนเริ่มฟื้นตัว ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการฯลง และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 30.5 บาท (เดิม 33.5 บาท) แต่ Valuation ไม่แพง PBV ต่ำเพียง 0.9 เท่า (2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
  • AU แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 10 บาท 1) ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 1Q65 = 16 ล้านบาท (+32% YoY +18% QoQ) จากยอดขายที่ฟื้นตัว และยังคงคาดว่าผลการดำเนินงานจะทยอยฟื้นตัวได้ต่อเนื่องใน 1-2 ปีนี้ อย่างไรก็ดี Upside จำกัด จึงแนะนำเพียง “ถือ”
  • M แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 58 บาท 1) ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 1Q65 = 284 ล้านบาท (+220% YoY, -29% QoQ) โดยกำไรคาดที่ดีขึ้น Yoy มาจากยอดขายฟื้นตัว ขณะที่ฐานปีก่อน แต่คาดกำไรอ่อนตัวลง QoQ เพราะคาดอัตรากำไรขั้นต้นลดลง ยังคงคาดหวังการฟื้นตัวตลอดทั้งปี จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
  • BBL* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 155 บาท รายงานกำไร 1Q65 = 7.1 พันล้านบาท (+13% QoQ, +3% YoY) กำไรคาด -5% และต่ำกว่า Consensus คาด -8% ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการ 2565 – 66 ลง และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 155 บาท (เดิม 160 บาท) และปรับคำแนะนำลงเป็น “ถือ” (เดิม “ซื้อ”)
- Advertisement -