Our View? “ตามตลาดต่างประเทศ”
คาดตลาดวันนี้ “รีบาวด์” มองแนวรับที่บริเวณ 1,673 / 1,665 และแนวต้านที่บริเวณ 1,685 / 1,695 คาดตลาดจะได้รับรับจิตวิทยาเชิงบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐที่เริ่มฟื้นตัว กลับขึ้นได้บ้างจากแรงซื้อคืนหุ้นหลังตลาดปรับตัวลงรับรู้ความกังวลแนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จากปัญหาการเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อ ในการประชุม FOMC วันที่ 3-4 พ.ค. นี้ไปบ้างในระดับหนึ่งแล้ว เรายังคงมองตลาดในปัจจุบันคาดการณ์ว่าในสิ้นปีนี้ดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐจะอยู่ที่ระดับ 275-300 BPS สะท้อนตลาดกังวลกับการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ไปในระดับที่สูงแล้ว
อย่างไรก็ตามคาดปัจจัยดังกล่าว เป็นปัจจัยกระตุ้นความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลงจํากัด Upside การฟื้นตัวได้อยู่ ขณะที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐ (US Bond Yield) รุ่นอายุ 10 ปี เริ่มอ่อนตัวลงแล้ว ตามที่เราคาดไว้ก่อนหน้า จากการขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 3.0% โดยล่าสุดอยู่ที่ระดับ 2.8% คาดจะช่วยผ่อนคลายการแคบลงของส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์เสี่ยง/สินทรัพย์ปลอดภัยได้บ้าง
อีกทั้งเรายังแนะน่าติดตามท่าทีของรัฐบาลสหรัฐ หลังนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวแสดงความคิดเห็นสหรัฐควรพิจารณาผ่อนคลายมาตรการกีดกันการนําเข้าสินค้าจีน เพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน แม้เรายังคงมองว่ายังมีความเป็นไปได้ค่อนข้างยากที่รัฐบาลสหรัฐจะปรับลดภาษีลงในเร็วๆ นี้ แต่คาดปัจจัยดังกล่าวจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาค ช่วยจํากัด Downside ได้บ้างเล็กน้อย
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน มิ.ย. เมื่อคืนนี้ยังปรับตัวลงต่อเนื่อง 3.53 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 98.54 ดอลลาร์/บาร์เรล (-3.46%) ยังคงได้รับแรงกดดันจากจากความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED และดอลลาร์สหรัฐที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง กดดันทิศทางราคาน้ำมันดิบ อีกทั้งมาตรการ Lockdown ของจีน คาดยังกระตุ้นความกังวลด้านอุปสงค์น้ำมันอ่อนแอลงต่อเนื่อง คาดวะกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานอ่อนตัวลงได้ต่อ
ในส่วนของปัจจัยในประเทศ คาดตลาดจะยังติดตามการรายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ของ บจ. ต่อ อย่างไรก็ตามเรามีความกังวลการเร่งตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อไทย จากการที่รัฐบาลเตรียมยกเลิกอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลที่ 30 บาท/ลิตร คาดจะเริ่มในวันที่ 1 พ.ค. นี้ คาดจะช่วยลดแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มสถานีบริการน้ำมัน คาดค่าการตลาดจะขยับขึ้นได้บ้าง ส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มสถานีบริการน้ำมัน (OR, BCP และ ESSO) อย่างไรก็ดี เรายังคาดจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนในมาตรการทางการเงินของโลก รวมทั้งแนวโน้มการแข็งค่าของ Dollar Index ต่อเนื่อง คาดจะหนุนค่าเงินบาทอ่อนตัวต่อเนื่อง ซึ่งจะกระตุ้นแนวโน้มการขายทําท่าไร – ลดการเข้าถือสินทรัพย์ของนักลงทุนต่างชาติ กดดันหุ้นในกลุ่มขนาดใหญ่ได้อยู่ ทำให้เรายังคาดว่าหุ้นในกลุ่มขนาดเล็กและขนาดกลาง จะยังสามารถ Perform ได้ดีกว่า จากคาดการณ์หุ้นดังกล่าวได้รับผลจากการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติที่ลดลงค่อนข้างน้อย ขณะที่ Valuation ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในระดับที่ตึงตัว
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนําวันนี้ “DCC”
คาดผลการดำเนินงานใน 1Q65 ได้รับปัจจัยหนุนจากช่วง High Season พร้อมการออก Product ใหม่ Porcelain 60*60 เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา คาดรองรับความต้องการลูกค้ากลุ่ม Medium-High และสามารถ ทดแทนการนําเข้า ขณะที่คาด DCC ยังมีความสามารถในการปรับราคาขาย คาดเป็นจิตวิทยาเชิงบวกหนุนทิศทาง ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้
กลยุทธ์ แนวรับ 3.06 / 2.96 Target 3.30 / 3.50 Stop <2.90