ตลาดหุ้นวานนี้
SET Index ปิดลบ 7 จุด ปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ กังวลเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยหลังเฟด ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยแรง, สงครามยูเครนรัสเซียยืดเยื้อ และจีนล็อกดาวน์เป็นเวลานาน และมีหุ้นที่ถูกเทขายจากปัจจัยลบเฉพาะตัวกดดัน อาทิ IVL -3.3% จากข่าวรัสเซียหยุดส่งก๊าซให้โปร์แลนด์
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,655 – 1,660 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยกระตุ้นการลงทุน อีกทั้งความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ รวมถึง FED เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ (คาด FED ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุม 3-4 พ.ค. และ 0.75% ในการประชุม 14-15 มิ.ย.) ยังคงกดดันดัชนี ดังนั้นจึงแนะนำลงทุนแบบ Selective buy โดยเน้นการเข้าซื้อช่วงอ่อนตัว
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
- กลุ่มเดินเรือ PSL TTA ค่าระวางเรือเทกองฟื้นตัวขึ้น
- AOT AAV BA MINT CENTEL ERW SPA อานิสงส์การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว
- หุ้นที่คาดว่างบ Q1/22 เติบโต IVL TOP SPRC BCP BANPU EPG CPALL CENTEL MINT BH BDMS JMT SINGER JMART TH FORTH GFPT
หุ้นแนะนำวันนี้
- ASIAN (ปิด 16.90 ซื้อ/เป้า23 บาท)ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าล่าสุดแตะระดับ 34.37 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่ามากสุดในรอบกว่า 5 ปี งบ 1Q22 ยังโตดี yoy จากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ปลายปีเตรียม IPO บริษัทลูกในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (AAI) เข้าตลาดฯ
- BH (ปิด 165.5 ซื้อ/เป้า 197 บาท) ประกาศงบ 1Q22 มีกำไรสุทธิ 725 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 18.5%qoq และ 696%yoy และดีกว่าที่ BB Consensus คาดไว้ 12% จากรายได้ที่กลับมาฟื้นตัวโดยเฉพาะรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติ แนวโน้มกำไรยังดีต่อเนื่องในไตรมาส 2, 3 และ 4 จากการเร่งเปิดเมืองของภาครัฐ
บทวิเคราะห์วันนี้
PLANB, ROJNA, SPALI, SCC, WHAUP
ประเด็นสำคัญวันนี้
- (+/-) ดาวโจนส์, น้ำมันดิบฟื้นตัวในกรอบจำกัด ยังกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรงกระทบ ศก.: นักลงทุนเริ่มระมัดระวังการลงทุนก่อนที่เฟดจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเพื่อพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้าและส่วนใหญ่มีความกังวลว่าหากเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้ ศก.ถดถอยส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์และราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวในกรอบจำกัดโดยดาวโจนส์เพิ่มขึ้นเพียง 61.75 จุด และราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ปิดที่ระดับ 102 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- (-) สศค.ลดคาดการณ์ GDP ไทยปีนี้เหลือโต 3.5% จากเดิมคาดโต 4%: วานนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปีนี้อยู่ที่ 3.5% หรืออยู่ในช่วง 3-4% ลดลงจากประมาณการครั้งก่อนที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 4% อย่างไรก็ตามเรามองว่าตลาดรับรู้ไปแล้วเนื่องจากที่ผ่านมาหลายหน่วยงานทยอยปรับลดคาดการณ์ GDP และบางหน่วยงานมองโตต่ำกว่าระดับ 3%
- (+) BoJ Meeting วันนี้คาดใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป: เราคงมุมมองเดิมและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดรวมโดยคาดว่า BOJ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ประมาณ 0% ตามเดิม และคาดซื้อกองทุน ETF วงเงินไม่เกิน 12 ล้านล้านเยนต่อปี ตามเดิมเช่นกัน