Daily Focus: Earnings and Value Play

2022SET Target: 1770

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัวในแดนลบตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่เผชิญแรงขายทั่วโลก ส่งผลให้ดัชนีปิดลบอีก 7.08 จุด ณ สิ้นวัน โดยปัจจัยต่างประเทศทั้งเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มโตชะลอ และการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ FED ยังกดดัน สถาบันในประเทศขายสุทธิต่อเนื่องและเร่งขึ้นเป็น 3.8 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหนาแน่น 2.3 พันลบ (แต่ Short SET50 Index Futures สูงถึง 2.1 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะยังแกว่งตัว Sideways to Sideways Down โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,655+- จุด ซึ่งหากหลุดต่ำกว่าจะเปิด Downside ให้อ่อนลงหาระดับ 1,630-1,640 จุด ภาพรวมบรรยากาศการลงทุนยังขาดปัจจัยบวกใหม่ ตลาดยังคงกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่เติบโตในอัตราชะลอตัวจากทั้งปัญหาจากสงคราม การระบาดของ COVID-19 ในจีนระลอกใหม่ ขณะที่เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงกว่ากรอบเป้าหมายมาก ทำให้นโยบายการเงินของ FED ตึงตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งการเร่งขึ้นดอกเบี้ยในเดือน พ.ค.-มิ.ย. รวมถึงเริ่มลดงบดุล  ทำให้เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าถือดอลลาร์ หุ้นที่เทรดบน PER สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตจึงถูกกดดัน ขณะที่ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเร็วหนุนหุ้นในกลุ่มส่งออก โดยเฉพาะอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงกลุ่ม Defensive อย่างการแพทย์ คาดยังแข็งแกร่งกว่าตลาด จากแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่ง ในเชิงกลยุทธ์ เรามองจังหวะพักตัวของดัชนีในเดือน เม.ย.-พ.ค. เป็นจังหวะ “สะสมหุ้นพื้นฐาน” บริเวณ 1,600-1,650 จุด โดยยังคงมุมมองบวกระยะกลาง-ยาว จากเศรษฐกิจในประเทศที่เป็นขาขึ้น โดยเฉพาะแนวโน้มเปิดประเทศเต็มรูปแบบใน 2H22 ทำให้กระแสเงินทุนคาดยังอยู่ในทิศทางไหลเข้า กลุ่มที่ชอบยังเป็น Value Domestic และ Reopening Play ที่มี PER/PBV ไม่สูงเทียบกับในอดีตก่อน COVID-19 ได้แก่ กลุ่มธนาคาร โรงกลั่น ค้าปลีก อสังหาฯ อาหารและเครื่องดื่ม การแพทย์ เป็นต้น ส่วนระยะสั้นเลือกเก็งกำไรหุ้นที่คาดประกาศผลประกอบการ 1Q22 แข็งแกร่ง

กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดงบ 1Q22 แข็งแกร่ง และยังเน้นลงทุนหุ้น Value และ Domestic Play

หุ้นเด่นเดือน เม.ย. : BCP, ICHI, IVL, ORI, SHR

หุ้นเด่นวันนี้ : RBF

  • แนะนำ “เก็งกําไร” ราคาเป้าหมาย 18 บาท
  • คาดกําไร 1Q22 กลับมาฟื้นแรง Q-Q และทรงถึงปรับขึ้น Y-Y แม้ต้นทุนวัตถุดิบยังทรงสูง แต่เริ่มทยอยปรับขึ้นราคากับลูกค้า 5%-10% คำสั่งซื้อกลับมาฟื้นหลังโควิดคลี่คลาย และเป็นกลุ่มที่มี Margin สูงอย่างวัตถุแต่งกลิ่นและสี
  • คาดกําไรจะเร่งขึ้นใน 2Q22 เพราะเป็น High Season และมีสต็อกวัตถุดิบล่วงหน้าถึง มิ.ย. รวมถึงจะรับรู้รายได้กัญชงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามแนวโน้มราคาวัตถุดิบ และการประสบความสำเร็จของผลิตภัณฑ์กัญชงในช่วง 2H22 เราคาดกำไรปี 2022 +83% Y-Y
  • แนวรับ 16.50//16 บาท แนวต้าน 17.50//18 บาท

Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคหนาแน่น US$1,074 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$622 ล้าน และ US$546 ล้าน ตามลำดับ จากเม็ดเงินที่ไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ตาม ตลาดอาเซียนยังแข็งแรง และมีเม็ดเงินไหลเข้าเกือบทุกประเทศ นําโดยไทย US$67 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปทิศทางไหลออก แต่ปริมาณบางลง โดยรอจับตาตัวเลข GDP 1Q22 ของสหรัฐฯและยูโรโซนปลายสัปดาห์นี้

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) JR คาดกำไร 1Q22 +34% Q-Q, -7% Y-Y เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวจากความคืบหน้าของงานที่มากขึ้นกว่าไตรมาสก่อน หลังปัญหาแรงงานของผู้รับเหมาฯหลักคลี่คลาย โมเมนตัมกำไร 2Q22 จะยิ่งเร่งตัวขึ้น รวมถึงมีปัจจัยบวกจากโอกาสได้งานใหม่เพิ่มอย่างมีนัยยะจากโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ มีโอกาสหนุน Backlog ทะลุ 1 หมื่นลบ.และรับรู้รายได้ยาวถึงปี 2025 อย่างไรก็ตาม ประมาณการกำไรทั้งปีที่คาด +67% Y-Y อาจมี Downside จากงานบางส่วนที่ล่าช้ากว่าแผน แต่ปัจจุบันยังคงประมาณการและราคาเป้าหมายที่ 10 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) TACC คาดกำไร 1Q22 +19% Y-Y, -3% Q-Q ตามฤดูกาลเพราะ 4Q เป็น Peak Season และ 4Q21 ทำ New High การฟื้นตัวที่ดีมาจาก Traffic ที่ฟื้นหลังโควิด และการออกสินค้าใหม่ แนวโน้มกำไร 2Q22 จะดีต่อเพราะเป็น High Season จากหน้าร้อน และมีแผนออกสินค้าใหม่กลุ่มกัญชงกัญชา รวมถึงเริ่มรับรู้รายได้ลูกค้าใหม่กลุ่ม Non 7-11 มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามแนวโน้มต้นทุนในช่วง 2H22 ปัจจุบันคาดกําไรสุทธิปี 2022 +9% Y-Y และคงราคาเป้าหมายที่ 8.7 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(0) TTA เราคาดกำไร 1Q22 -39% Q-Q ลดต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 ตามค่าระวางเรือที่ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว  ธุรกิจบริการนอกชายฝั่งมีต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 เพิ่มสูงขึ้น และธุรกิจปุ๋ยในเวียดนามอยู่ใน Low season แต่กำไร 1Q22 ยัง +389% Y-Y เพราะค่าระวางเรือสูงกว่าปีก่อนมาก เราเชื่อว่าโมเมนตัมกำไรจะลดลงต่อเนื่องทุกไตรมาสในปีนี้ โดยคาดกำไรปกติปี 2022 -51% Y-Y ปี 2023 -13% Y-Y ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2023 ที่ 11 บาท ลดคําแนะนําเป็น “ซื้อ”

(-) PLANB คาดกำไร 1Q22 -27% Q-Q, +95% Y-Y จาก Low Season และผลกระทบของ COVID-19 ระลอกล่าสุด แม้เม็ดเงินโฆษณาสื่อนอกบ้านยังแข็งแกร่งใน 1Q22 เราคาด +10% Y-Y และคาดดีขึ้นใน 2Q22 อย่างไรก็ตาม PLANB มี Downside สำคัญจากภาษีป้าย Billborad ใหม่ในปี 2023 ที่ราว 2-23% จากประมาณการปัจจุบัน และยังเป็นปัจจัย Overhang ปัจจุบันเรายังคงราคาเป้าหมายที่ 9.20 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 61.75 จุด หรือ 0.19% ปิดที่ 33,301.93 จุด จากผลประกอบการที่ดีกว่าคาดของบริษัท Microsoft และ Visa

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก ฟื้นตัวหลังปรับลงในช่วง 3 วันก่อนหน้า จากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มน้ำมัน อย่างไรก็ดี ช่วงท้ายตลาดมีแรงกดดันจากความกังวลวิกฤตขาดแคลนพลังงาน หลังก๊าซพรอมยุติการส่งก๊าซให้กับบัลแกเรียและโปแลนด์ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีจะลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพ.ค.

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับขึ้น ตามทิศทางตลาดดาวโจนส์ ท่ามกลางติดตามธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในเช้านี้

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่าลงอยู่ที่บริเวณ 34.36 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 102.02 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก EIA เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 692,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา น้อยกว่านักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 15.4 ดอลลาร์ หรือ 0.81% ปิดที่ 1,888.7 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,095.72 / -5.51

- Advertisement -