ผู้ถือหุ้น GUNKUL พร้อมใจโหวตรับมติจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งหลังปี 64 เพิ่มในอัตรา 0.12 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 5 พฤษภาคม เตรียมรับเงินสดวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ ด้านแผนการดำเนินงาน พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนทุกธุรกิจในเครือ ทั้งพลังงานทดแทน EPC รวมทั้งธุรกิจกัญชง กัญชา ปักธงรายได้โต 20% ต่อปี พร้อมเปิดทางอ้าแขนรับพันธมิตร ร่วมต่อยอดธุรกิจ

 

ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ เชื่อว่ายังคงเติบโตได้อย่างโดดเด่น จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ธุรกิจงานรับเหมาก่อสร้างและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) และธุรกิจกัญชง กัญชา ที่ยังเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งในส่วนของธุรกิจพลังงานทดแทนนั้น ปัจจุบันมีกำลังการผลิตในมือรวมทั้งสิ้น 642 เมกะวัตต์ โดยปีนี้ตั้งเป้ากำลังการผลิตเพิ่มเป็น 700 เมกะวัตต์ และเพิ่มกำลังการผลิตไปแตะระดับ 1,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2566  ซึ่งยังมีแผนลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ธุรกิจ EPC ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 4,500 ล้านบาท ซึ่งทยอยรับรู้รายได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งปีนี้บริษัทมีแผนเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ ที่จะเปิดให้ประมูลกว่า 50,000 ล้านบาท และคาดว่าบริษัทมีโอกาสได้รับงานประมาณ 7-10% ของมูลค่างานทั้งหมด

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทให้ความสนใจกับการพัฒนารูปแบบธุรกิจที่หลากหลาย ไม่ได้จำกัดเพียงแค่กรอบของพลังงานเท่านั้น โดยได้จับธุรกิจกัญชง กัญชา เพื่อมาช่วยเสริมศักยภาพของรายได้และกำไรในอนาคต  ซึ่งในส่วนของการเพาะปลูกและโรงสกัดยังดำเนินการได้ตามแผน และในเดือนเมษายนนี้ บริษัทเตรียมเปิดคลินิกแพทย์แผนไทย เพื่อให้บริการลูกค้า และจำหน่ายผลิตภัณ์กัญชง กัญชาปลายน้ำ ครบวงจร  ณ อาคาร Pearl Bangkok ชั้น 2 ซึ่งผู้สนใจสามารถเยี่ยมชม และเข้ารับบริการได้ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนนี้

นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มช่องทางขยายธุรกิจด้วยการร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกันระหว่าง GUNKUL SPECTRUM หน่วยนวัตกรรมธุรกิจพลังงานของ GUNKUL กับ เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) ทำธุรกิจ “โกดังไฟฟ้าดอทคอม” ตลาดออนไลน์ของอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าและโซลาร์  และยังได้ร่วมมือกับ ORI จัดตั้งบริษัทร่วมทุน ภายใต้ชื่อ บริษัท ออริจิ้น กันกุล เอ็นเนอร์ยี จำกัด เพื่อร่วมกันดำเนินกิจการด้านพลังงานทดแทน พลังงานสะอาดในโครงการที่อยู่อาศัยในกลุ่มธุรกิจบ้านจัดสรรภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI

ขณะเดียวกัน ได้ร่วมมือกับ JMART และ SINGER ตั้งบริษัทร่วมทุน เจจีเอส ซินเนอรจี พาวเวอร์ (JGS)  ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าและโซลาร์โซลูชั่นผ่านเครือข่ายการจัดจำหน่าย และการจัดหาสินเชื่อโดยกลุ่มธุรกิจในเครือของบริษัททั่วประเทศ สำหรับสินค้าอุปกรณ์ไฟฟ้าและโซลาร์โซลูชั่น และพัฒนาการร่วมลงทุนให้การลงทุนติดตั้งระบบ Solar Rooftop เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า และโอกาสการขายไฟฟ้าร่วมกัน ภายใต้เครือของกลุ่มธุรกิจเจมาร์ท และการลงทุนทางด้าน EV Charging Station

“ธุรกิจโดยรวมของกลุ่มบริษัทมีโอกาสเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดีและมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามแผนขยายการลงทุนจากงบลงทุน 3 ปี (2565-67) ที่ 20,000 ล้านบาท เพื่อผลักดันให้ธุรกิจเติบโตไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน มั่นคงตามวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ที่บริษัทได้วางไว้  ซึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมในการเติบโตของกลุ่มบริษัท เพื่อเป้าหมายการเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 20% ” ดร.สมบูรณ์ กล่าว

ด้านผลการประชุมประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับงวดครึ่งหลังปี 2564  จากกำไรในปีและกำไรสะสมให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดเพิ่มอีกในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท  รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้นจำนวน 1,068 ล้าน บาท ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท รวมจ่ายเงินปันผลงวดปี 2564 ในอัตรา 0.18 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่  6 พฤษภาคม วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือวันที่ 5 พฤษภาคม และกำหนดจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้

******

- Advertisement -