บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action SELL (Downgrade)
TP upside (downside) -9.13%
Close Apr 27, 2022 Price (THB) 23.00
12M Target (THB) 20.90
Previous Target (THB) 20.90
What’s new?
- คาดกำไรสุทธิ 1Q64 เติบโตทั้ง QoQ และ YoY อยู่ที่ 159 ลบ.(+5.58 % QoQ, +9.64 % YoY) แม้ว่ารายได้จากการขายจะปรับตัวลง แต่มีรายได้จากค่าเช่าเข้ามาช่วยชดเชย
- แนวโน้ม 2Q65 ผลประกอบการเติบโตเด่น YoY จากฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้า ขณะที่ QoQ ยังต้องลุ้น จาก 1) ต้นทุนราคาน้ำมันและวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น 2) กำลังซื้อที่ชะลอตัวลงหลังอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวสูงขึ้น 3) ชะลอตัวตามตามปัจจัยฤดูกาล
Our view
- เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 585.55 ล้านบาท เติบโต 29.21% YoY แต่ยังเผชิญกับความเสี่ยงอยู่มาก เช่น 1) การชะลอตัวของกำลังซื้อที่ถูกกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ 2) ต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงต้นทุนค่าขนส่ง
- ราคาปัจจุบันเป็นมูลค่าพื้นฐานของเราที่ 20.90 บาท/หุ้น อิง PER ที่ 18 เท่า จึงแนะนำ ขาย
ILM คาดกำไร 1Q65 โตทั้ง QoQ และ YoY
ผลประกอบการฟื้นตัวต่อเนื่อง
คาดกำไรสุทธิ 1Q65 เติบโตทั้ง QoQ และ YoY อยู่ที่ 159 ลบ.(+5.58 % QoQ, +9.64 % YoY) แม้ว่ารายได้จะปรับตัวลงเหลือ 2,083 ลบ. (-10.19% QoQ, -2.35%YoY) เป็นผลของรายได้จากการขายสินค้าที่ปรับตัวลง เนื่องจากมีการยกเลิกการขายเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างไรก็ดี มีรายได้จากค่าเช่าที่ทำสถิติสูงสุดใหม่เข้ามาชดเชย หลักๆ มากจาก 1) การเพิ่มพื้นที่เช่าในโกดังเก็บของ 2) ได้ค่าเช่าพื้นที่เพิ่มหลังส่งมอบพื้นที่ให้ COM7 ครบทั้ง 31 สาขา 3) ไม่ต้องมอบส่วนลดค่าเช่าให้กับผู้เช่าแล้วหลังภาครัฐผ่อนคลายมาตรการ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นคาดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 45.0% จาก 41.6% ใน 4Q64 และ 43.6% ใน 1Q64 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับขึ้นราคาสินค้าขึ้น ขณะที่ SG&A /Sales เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 34% สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายพนักงาน และการทำโปรโมชั่นที่เพิ่มขึ้น
แนวโน้มผลประกอบการ 2Q65
แนวโน้ม 2H65 คาดผลประกอบการเติบโต YoY จากฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้า และฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี QoQ ยังต้องลุ้นจากความกังวล 4 ประเด็น 1) หากภาครัฐเลิกอุ้มราคาน้ำมันดีเซลจะส่งผลให้ต้นทุนการขนส่งปรับตัวสูงขึ้น 2) ราคาไม้ particle board ที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต แม้ว่าบริษัทจะมีการปรับราคาสินค้าขึ้น แต่หากราคาต้นทุนวัตถุดิบยังมีแนวโน้มที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จะส่งผลให้การปรับขึ้นราคาสินค้าไม่สามารถชดเชย 3) กำลังซื้อที่ชะลอตัวลงหลังอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวสูงขึ้น และไม่มีมาตรกระตุ้นอย่างช้อปดีมีคืนในช่วง 1Q65 และ 4) ชะลอตัวตามปัจจัยฤดูกาล ที่เป็น Low Season จากวันหยุดมาก
เติบโตได้ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ
คาดกำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 585.55 ล้านบาท เติบโต 29.21% กลับมาสู่ระดับก่อน COVID-19 ระบาด โดยได้แรงหนุนจาก 1) การฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อในประเทศที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น 2) การร่วมมือกับ COM7 ในการเข้าบริหารพื้นที่การขายสินค้า IT และเครื่องใช้ไฟฟ้า ทำให้สามารถตอบโจทย์ให้กับผู้บริโภคได้ครบมากขึ้น และเป็นการดึงดูดให้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้คาดจะช่วยเพิ่มรายได้อย่างแข็งแกร่งให้กับ ILM 3) ยอดขายผ่านช่องทางหลักทุกช่องทาง สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง 4) การควบคุมค่าใช้จ่ายโดยการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดี ราคาปัจจุบันเป็นมูลค่าพื้นฐานของเราที่ 20.90 บาท/หุ้น อิง PER ที่ 18 เท่า จึงคงคำแนะนำ “ขาย”
ความเสี่ยง (1) การชะลอตัวของกำลังซื้อที่ถูกกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ (2) ต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงต้นทุนค่าขนส่ง