Daily Focus: Earnings and Value Play

2022SET Target: 1770

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index รีบาวด์ระยะสั้นตามตลาดหุ้นทั่วโลกหลังปรับตัวลงต่อเนื่อง ในช่วงก่อนหน้า ดัชนีปิดบวกได้ 5.85 จุด ณ สิ้นวัน นำโดยหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีเป็นหลัก สถาบันในประเทศพลิกมาซื้อสุทธิหนาแน่น 2.7 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก 776 ลบ (แต่ Short SET50 Index Futures อีก 4.6 พัน สัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะยังแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,660-1685 จุด หลังยังไม่หลุดต่ำกว่าแนวรับสำคัญ 1,655 จุด ระยะสั้นตลาดอาจะได้ Sentiment บวกบ้าง จากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวดี อย่างไรก็ตาม เรายังคงไม่เห็นปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจนเข้ามากระตุ้น ขณะที่ GDP 1Q22 ของสหรัฐฯพลิกมา -1.4% Q-Q ผิดไปจากที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะ +1.1% Q-Q สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจที่เริ่มเติบโตชะลอ ส่วนคืนนี้ต้องติดตาม GDP ของยูโรโซน รวมถึงเงินเฟ้อ PCE เดือน มี.ค. ของสหรัฐฯ ซึ่งหากออกมาเร่งตัวและสูงกว่าคาดอาจเป็นแรงกดดันต่อการประชุม FED ในสัปดาห์หน้าซึ่งจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยและเริ่มลดงบดุล เรายังคงมองว่าดัชนียังมีแนวโน้มพักตัวระยะสั้นในเดือน พ.ค. และมองเป็นจังหวะ “สะสมหุ้นพื้นฐาน” บริเวณ 1,600-1,650 จุด ระยะกลาง-ยาวยังให้น้ำหนักบวกจากเศรษฐกิจในประเทศที่เป็นขาขึ้น โดยเฉพาะแนวโน้มเปิดประเทศเต็มรูปแบบใน 2H22 หนุน Fund Flow ให้ยังอยู่ในทิศทางไหลเข้า กลุ่มที่ชอบยังเป็น Value Domestic และ Reopening Play ที่มี PER/PBV ไม่สูง เทียบกับในอดีตก่อน COVID-19 ได้แก่ กลุ่มธนาคาร โรงกลั่น ค้าปลีก อสังหาฯ อาหารและ เครื่องดื่ม การแพทย์ เป็นต้น ส่วนระยะสั้นเลือกเก็งกําไรหุ้นที่คาดประกาศผลประกอบการ 1Q22 แข็งแกร่งและหุ้นที่ได้ประโยชน์จากบาทอ่อน

กลยุทธ์ : เก็งกําไรหุ้นที่คาดงบ 1Q22 แข็งแกร่ง และยังเน้นลงทุนหุ้น Value และ Domestic Play

หุ้นเด่นเดือน เม.ย. : BCP, ICHI, IVL, ORI, SHR

หุ้นเด่นวันนี้ : IIG

  • แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 41 บาท
  • เราคาดกําไร 1022 +17% Q-Q, +136% Y-Y ทำ New High และเร่งตัวแรงกว่าที่เคยประเมิน จากรายได้ที่เติบโตโดดเด่นหลังได้งานมูลค่าสูงจากลูกค้าธนาคารรายใหญ่รายหนึ่ง
  • โมเมนตัมช่วงที่เหลือของปียังแข็งแกร่ง ปัจจุบัน Backlog รองรับประมาณการรายได้ไปแล้วราว 70% เรายังคงคาดกำไรปีนี้ +50% Y-Y ราคาหุ้นปรับฐานลง -42% YTD ทำให้ Upside เปิดกว้าง
  • แนวรับ 34//33 บาท แนวต้าน 36//37 บาท

Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคอีก US$692 ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ยังไหลออก นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$624 ล้านและ US$226 ล้าน ตามลำดับ ขณะที่อาเซียนยังแข็งแรงกว่าเม็ดเงินไหลเข้านำโดยอินโดนีเซีย US$164 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออกในฝั่งเอเชียตะวันออก แต่คาดยังไหลเข้าอาเซียน

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) กลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียน เราคาดกำไร 1Q22 ของกลุ่ม +5% QQ, -2% Y-Y TIDLOR และ SAK จะมีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่นที่สุด ขณะที่ MTC และ SAWAD ยังอ่อนแอกว่ากลุ่ม แต่แนวโน้ม 2H22 จะเริ่มกลับมาเติบโตเร่งตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม เรายังชอบกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนน้อยกว่ากลุ่ม AMC และสินเชื่อรถบรรทุกจากแรงกดดันจากการแข่งขันที่ยังรุนแรง และอาจกระทบต่อ Regulatory ในระยะถัดไป ระยะสั้นเราชอบ SAK และ TIDLOR ก่อน Swtich ไป MTC หรือ SAWAD ในครึ่งปีหลัง (Source: FSSIA)

(+) SYNEX คาดกำไรปกติ 1Q22 -3% Q-Q ตามฤดูกาล แต่ +8% Y-Y สวนทางกลุ่มที่มีกําไรลดลง Y-Y เพราะกระจายโครงสร้างรายได้ดีกว่า แนวโน้มกำไรจะโตต่อเนื่องจากการสร้างแบรนด์ของตัวเอง (S-Gear) และมีแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าไอทีมือสอง (SWOPMART) ที่จะช่วยเพิ่มทั้งรายได้และอัตรากำไรขั้นต้น คงประมาณการกำไรปี 2022 +20% Y-Y คงราคาเป้าหมาย 32 บาท หุ้นปรับลงกว่า 30% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาตามหุ้นกลุ่มเทคทั่วโลก จนปัจจุบันมี PE 20 เท่า หรือ PEG เพียง 0.7 แนะนำ “ซื้อ”

(-) ZEN คาดกําไร 1Q22 -55% Q-Q, -58% Y-Y ฟื้นช้าแม้ SSSG จะบวก แต่ถูกกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบอาหารที่สูงขึ้น เรายังคาดหวังการฟื้นตัวใน 2Q22-2H22 จาก Traffic ที่น่าจะดีขึ้นตามฤดูกาล อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามเรื่องต้นทุน ส่วนประมาณการปัจจุบันมี Downside เราอาจพิจารณาปรับลดราคาเป้าหมายลงจากปัจจุบันที่ให้ไว้ 15 บาท เราแนะนำเพียง “ถือ” หรือ Switch ไป M ที่น่าสนใจกว่า

(+) CEYE เข้าเทรดวันนี้ ดำเนินธุรกิจผลิตภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวสำหรับสื่อโฆษณา การให้เช่าสตูดิโอ และต่อยอดจากการผลิตงานให้สื่อดั้งเดิมสู่สื่อออนไลน์ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูง บริษัทมีกระบวนการผลิตครบวงจรตั้งแต่ Pre-production, Production และ Post production เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าทั้งเอเจนซี่โฆษณาและแบรนด์สินค้าต่างๆ เราคาดกําไรปี 2022 ฟื้นก้าวกระโดด +115% Y-Y หลัง COVID-19 และ +23% ในปี 2023 ตามอุตสาหกรรมโฆษณาและการขยายการลงทุนในอุปกรณ์การผลิตของบริษัท ประเมินราคาเป้าหมาย 4.60 บาท (Finansia เป็นผู้จัดจําหน่ายฯ)

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 614.46 จุด หรือ 1.85% ปิดที่ 33,916.39 จุด จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน อาทิ Meta Platforms, McDonald’s อย่างไรก็ดี GDP 1Q22 ของสหรัฐหดตัว 1.4% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 1.1%

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก จากการเปิดเผยผลประกอบการ 1Q22 ดีกว่าคาด

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับขึ้น ตามทิศทางตลาดดาวโจนส์ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ (29 เม.ย.) เนื่องในวันโชวะ

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่าขึ้น อยู่ที่บริเวณ 34.35 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 3.34 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 105.36 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าเยอรมนีอาจเตรียมความพร้อมที่จะร่วมกับ EU ในการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซียอย่างเต็มรูปแบบ อาจส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกตึงตัวมากขึ้น

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 2.6 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ปิดที่ 1,891.3 ดอลลาร์/ออนซ์ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลัง GDP สหรัฐหดตัว

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,095.72 / +-

- Advertisement -