สรุปภาวะตลาด

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหว sideway ในระหว่างวัน เห็นแรงซื้อเข้ามาในช่วงบ่ายช้อนซื้อ หุ้นที่ปรับตัวลงแรงใน 2-3 วันที่ผ่านมา แรงซื้อเด่นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี และแรงซื้อในหุ้นที่คาดว่างบจะออกมาดี ท้ังน้ีเห็นนักลงทุนสถาบันกลับมาซื้อในหุ้นขนาดใหญ่ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,667.74 จุด +5.85 จุด +0.35% มูลค่าการซื้อขาย 79,292 ลบ. ต่างชาติ +776.43 ลบ. TFEX -4,620 สัญญา ตราสารหนี้ +2,124.53 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิด เพิ่มขึ้น 614.46 จุด +1.85% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้นกว่า 3% ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทเมตาแพลตส์ฟอร์ม และแมคโดนัลด์ บดบังปัจจัยลบจาก รายงานที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัวเหนือความคาดหมายในไตรมาสแรกปีนี้

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 3.34 ดอลลาร์ +3.3% ปิดที่ 105.36 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเยอรมนีอาจจะร่วมวงคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซียเช่นเดียวกับประเทศสมาชิกรายอื่นๆ ของสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งจะส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกตึงตัวมากขึ้น

+ ปธน.โจ ไบเดน ผู้นําสหรัฐเตรียมเดินทางเยือนเกาหลีใต้ และญี่ปุ่นในวันที่ 20-24 พ.ค. เพื่อส่งเสริมการสร้างภูมิภาค อินโด-แปซิฟิกที่มีเสรีและเปิดกว้าง และกระชับความสัมพันธ์กับ 2 ประเทศพันธมิตรสําคัญในเอเชีย

+ รมว.อุตสาหกรรมเปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมี.ค.65 อยู่ที่ 109.32 นับเป็นค่าดัชนีฯที่สูงสุด ในรอบ 12 เดือนนับตั้งแต่เดือน เม.ย.64 รับผลบวกส่งออก-เปิดประเทศ-บาทอ่อนหนุน

+ ททท.จับมือเอกชน เดินหน้าเที่ยวด้วยกันเฟส 5 อีก 2 ล้านสิทธิแจกคูปองซื้อสินค้า อาหาร ตั๋วเครื่องบิน ดึงคนไทย เที่ยวในประเทศ 160 ล้านคน/ครั้ง ตั้งเป้าสร้างรายได้ 4 แสนล้านบาท

+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 14,053 ราย มีผู้เสียชีวิต 129 ราย รักษาหาย 16,782 ราย

ปัจจัยลบ –

– สหรัฐรายงาน GDP 1Q65 หดตัว 1.4% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 1.1% และเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2563

– ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เตือนบริษัทต่างๆ ว่าอย่ายอมตามข้อเรียกร้องของรัสเซียที่ให้จ่ายค่าก๊าซ เป็นเงินรูเบิล ขณะที่ยุโรปประสบปัญหาในการร่วมมือกันตอบโต้ต่อการที่รัสเซียใช้ทรัพยากรพลังงานของตนเองเป็นข้อต่อรอง

– ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เตือนชาติตะวันตกว่าอาจเจอการตอบโต้ที่รวดเร็วดุจสายฟ้าแลบ หากยังคงเดินหน้าข่มขู่

– ผู้ประกอบการทยอยปรับขึ้นราคาสินค้าหลังราคาดีเซลทยอยปรับราคาขึ้นแบบขั้นบันได เริ่ม 1 พ.ค. ปรับขึ้นสู่ 32 บาทต่อลิตร

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยคาดปริมาณการซื้อขายจะชะลอตัวลง ก่อนติด วันหยุดยาว นักลงทุนยังจับตาการประชุมเฟดวันที่ 3-4 พ.ค. อย่างใกล้ชิด เพื่อดูนโยบายการเร่งปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยของเฟด คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,660-1,675 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • กรณีสงครามยืดเยื้อ ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง บวกต่อ PTTEP PTTGC TOP, สินค้าเกษตร ข้าวสาลี และ กากถั่วเหลืองขึ้นเป็นบวกต่อ TMILL TVO และเป็นลบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น CPF GFPT ASIAN
  • ศบค.ยกเลิกตรวจ RT/PCR มีผล 1 พ.ค. นี้ : AOT ERW CENTEL MINT AWC
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอากาศร้อน SNC KOOL SAPPE ICHITACC
  • ตัวเลขส่งออกเดือนมี.ค.ขยายตัว เงินบาทอ่อนค่า TWPC ASIAN XO SNC SKN PIMO SMT

หุ้นรายงานพิเศษ

PTTEP (Bloomberg Consensus 166.00 บาท) รายงานกำไรเป็นไปตามคาด

  • รายงานผลประกอบการ 1Q65 อยู่ที่ 1.05 หมื่นลบ. -1%QoQ และ -9%YoY โดยได้แรงหนุนจากวอลุ่มที่เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น 1.4%QoQ สู่ 427,368 บาร์เรลต่อวัน โดยได้แรงหนุนจากแหล่งอาทิตย์ที่เพิ่มกำลังการผลิต ขณะที่ราคาจำหน่ายปรับตัวขึ้น 10% จากไตรมาสก่อนสู่ 51.35$/bbl ตามราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวขึ้นสู่ 96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวขึ้นสู่ 6.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านต้นทุนการผลิตปรับตัวลงสู่ 26.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม มีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและอนุพันธ์ราว 8.0 พันลบ.
  • ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการตั้งแต่ 2Q65 เป็นต้นไป เนื่องจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับสูงหนุนราคาขายเฉลี่ย อีกท้ังปริมาณการผลิตจะปรับตัวขึ้นสู่ 467,000 บาร์เรลต่อวัน จากการรับรู้แหล่งผลิตในมาเลเซียและโอมาน นอกจากน้ีบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 25%YTD ได้ตอบสนองผลบวกดังกล่าวไปแล้ว เราจึงแนะนำ “ซื้อเมื่อย่อตัว”

หุ้นมีข่าว

(+) BDMS-COM7 (Bloomberg Consensus 28.00 , 49.25 บาท) บิ๊ก COM7 ชี้จับมือ BDMS ตั้งร้านขายยาไฮเทค มีอุปกรณ์เทคโนโลยีสุขภาพจำหน่ายด้วย เล็งเปิดครึ่งหลังปีนี้ 2-3 แห่ง ตั้งเป้าภายใน 3 ปี เปิด 50 สาขา เงินลงทุน 4-10 ล้านบาทต่อสาขา เชื่อแนวโน้มตลาดเติบโต เพราะคนดูแลสุขภาพมากขึ้น ด้านโบรกเกอร์มองดีลการร่วมมือครั้งนี้เป็นบวก ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ COM7- BDMS (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SCC (Bloomberg Consensus 445.50 บาท) มั่นใจรายได้รวมทั้งปี 2565 โตมากกว่า 10% ตามเป้า หนุนจากการทยอยปรับขึ้นราคาสินค้า และมุ่งผลิตสินค้ามาร์จิ้นสูง ย้ำฐานะการเงินแข็งแกร่ง เดินหน้าลงทุนโครงการ LSP2 ยืนยัน LSP1 พร้อม COD กลางปี 2566 ระยะสั้นมุ่งบริหารความเสี่ยง 3 ด้าน ควบคู่ เร่งลงทุนตามแผน ESG เร็วขึ้นเพื่อสร้างความมั่นคงระยะยาว (ที่มา ทันหุ้น)

(+) NDR (Bloomberg Consensus – บาท) เด้งรับบาทอ่อนหนุนยอดส่งออกโต ชี้สัดส่วนขาย ต่างประเทศ 60% ลุ้นผลงานไตรมาส 2 ดีกว่าไตรมาสแรก หลังปรับกลยุทธ์ธุรกิจ ปรับราคาขายให้ สอดคล้องต้นทุน ชูธงผลงานปีนี้แตะ 1 พันล้านบาท ด้านธุรกิจยานยนต์ แย้มแผนศึกษาผลิต แบตเตอรี EV พร้อมจ่อย้ายเข้าเทรด SET ภายในปีนี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BANPU (Bloomberg consensus 14.00 บาท)

– จีนจะลดภาษีนำเข้าถ่านหินทุกประเภทเป็นศูนย์ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 เนื่องจากจีนมุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นคงด้านพลังงานท่ามกลางราคาโลกที่พุ่งสูงขึ้น และความกังวลเรื่องการหยุดชะงักของอุปทาน

– ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อราคาถ่านหินเนื่องจากจีนเป็นผู้อุปโภคถ่านหินรายใหญ่ที่สุดของโลก เมื่อจีนลดภาษีนำเข้าจะทำให้อุปสงค์ปรับตัวขึ้น โดยคาดว่าผลกระทบเชิงบวกดังกล่าวจะสะท้อนในงบ BANPU ต้ังแต่ 2Q65 เป็นต้นไป เราจึงแนะนำ ซื้อ

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 29 เม.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
  • 17 พ.ค. วันสุดท้ายส่งงบการเงิน 1Q65
  • 18 พ.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 3/2565

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 29 เม.ย. อียู รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2565 (ประมาณการเบื้องต้น) อัตราเงินเฟ้อเบื้องต้น เดือนเม.ย.

สหรัฐ รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.

  • 30 เม.ย. จีน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนเม.ย. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนเม.ย.จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS)
  • 3-4 พ.ค. การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED)
- Advertisement -