บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action TRADING (from BUY)
TP upside (Upside) -2.8%
Close Apr 28, 2022 Price (THB) 44.25
12M Target (THB) 43.00
Previous Target (THB) 43.00
What’s new?
- คาด 1Q65 มีกำไรปกติ 120 ล้านบาท เติบโต 52% QoQ และดีขึ้นจากขาดทุน 476 ล้านบาทใน 1Q64 หากผลประกอบการออกมาตามคาด CENTEL จะมีกำไรต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกันตั้งแต่เกิด COVID-19
- ประมาณการทั้งปี 2565 ที่ 658 ล้านบาท อาจมี Upside Risk แต่ยังเร็วเกินไปที่จะปรับเพิ่มประมาณการ
Our view
- ขณะที่ประมาณการปี 2566 ของเราที่ 1.9 พันล้านบาท (+190%YoY) สูงกว่ากำไรปี 2562 ที่ 1.7 พันล้านบาทอยู่แล้ว เราเชื่อว่าสมเหตุสมผล
- เราปรับลดคำแนะนำลงเป็น “TRADING” อิงราคาเหมาะสม 43.00 บาทต่อหุ้น (EV/EBITDA ที่ 14x หรือ +1.0SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) ราคาหุ้นปรับขึ้นสะท้อนปัจจัยบวกไปแล้วมาก เริ่มมี Upside จำกัด หากไม่มีปัจจัยใหม่เฉพาะตัวเพิ่มเติม เช่น การซื้อกิจการ เป็นต้น
CENTRAL PLAZA HOTEL ราคาหุ้นเต็มมูลค่า ลดคำแนะนำเป็น TRADING
คาดผลประกอบการ 1Q65 ดีขึ้น QoQ และ YoY
เราคาดผลประกอบการ 1Q65 มีกำไรปกติ 120 ล้านบาท เติบโต 52% QoQ และดีขึ้นจากขาดทุน 476 ล้านบาทใน 1Q64 หากผลประกอบการออกมาตามคาด CENTEL จะมีกำไรต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกันตั้งแต่เกิด COVID-19 สรุปสาระสำคัญดังนี้
1) ธุรกิจโรงแรมคาดที่ 1.06 พันล้านบาท (+6% QoQ, +142% YoY) จากคาด RevPar เฉลี่ยใน 1Q65 ที่ 1,993 บาท (+19%QoQ, +202%YoY) และคาด Occ. Rate เฉลี่ยที่ 35% ดีขึ้นเทียบกับ 33% ใน 4Q64 และ 14% ใน 1Q64 โรงแรมใน Maldives คาด Occ. Rate ที่ระดับ 86% ฟื้นตัวต่อเนื่องจาก 81% ใน 4Q64 ขณะที่ภาพตลาดในไทย Occ. Rate ทรงตัว QoQ ทั้งๆ ที่โดนผลกระทบ Omicron ในช่วงต้นไตรมาส สะท้อนว่าการฟื้นตัวทำได้เร็วในเดือนมี.ค.65 ขณะโรงแรมในดูไบที่เปิดตัวใน 4Q64 ยังมี Occ. Rate ดีขึ้นคาดที่ 73% หนุนจากการจัดงาน World Expo นอกจากนี้ ADR เฉลี่ยยังสามารถปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โรงแรมในไทยคาด +6% QoQ โรงแรมใน Maldives +20% QoQ
2) ธุรกิจอาหารคาดรายได้คาด ที่ 2.7 พันล้านบาท (+2% QoQ, +21% YoY) เราคาด SSSG เฉลี่ยใน 1Q65 ที่ +3.5%YoY ดีขึ้นเทียบกับ 2.0%YoY ใน 4Q64 หนุนจากการกล้าออกมาใช้ชีวิตร่วมกับ COVID-19 มากขึ้น
3) คาด GPM ใน 1Q65 ที่ 40% ทรงตัว QoQ แต่เพิ่มขึ้นเทียบกับ 34% ใน 1Q64 และ
4) คาด SG&A ที่ 1.3 พันล้านบาท (+3.3% QoQ, +0.8% YoY)
คงประมาณการปี 2565 อาจมี Upside Risk หากเปิดประเทศทำได้ต่อเนื่อง
หาก 1Q65 ออกมาตามคาด ผลประกอบการ 1Q65 จะคิดเป็น 18% ของประมาณการทั้งปี 2565 ของเราที่ 658 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ยังเร็วเกินไปที่จะปรับเพิ่มประมาณในปัจจุบัน ขณะที่ประมาณการปี 2566 ของเราที่ 1.9 พันล้านบาท (+190% YoY) สูงกว่ากำไรปี 2562 ที่ 1.7 พันล้านบาทอยู่แล้ว เราเชื่อว่าสมเหตุสมผล ดังนั้นกรอบ Upside Risk หากจะเกิดขึ้นจะเกิดขึ้นกับกำไรปี 2565 เป็นหลัก ซึ่งมีผลน้อยต่อ Valuation
ประเด็นเรื่องสัญญาการเช่าที่ดินของโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์หัวหินที่จะสิ้นสุดลงวันที่ 15 พ.ค.65 ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างเจรจากับรฟท. ในกรณีที่เกิดการต่อสัญญาเช่า ต้องติดตามว่าจะมีการคิดค่าเช่าที่สูงขึ้นจากเดิมอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ หรือหากไม่ได้ต่อสัญญา คาดกระทบรายได้กลุ่มโรงแรมราว 6-9% อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ชี้แจงว่าแม้ว่าไม่ได้ต่อสัญญาก็ไม่มีผลต่อ Guidance ปี 2565 ที่เคยให้ไว้ Occ. Rate ที่ระดับ 40-50% เนื่องจากบนสมมติฐานของบริษัทฯ ไม่ได้นับรวมโรงแรมที่หัวหินตั้งแต่ 2H65 เป็นต้นไปอยู่แล้ว
ปรับลดคำแนะนำเป็น “TRADING” อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 43.00 บาท
เราปรับลดคำแนะนำลงเป็น “TRADING” อิง EV/EBITDA ที่ 14× หรือ +1.0SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี แม้ประมาณการจะมีโอกาสมี Upside Risk แต่ราคาหุ้นที่เราให้ซื้อขายระดับ +1.0SD สะท้อนความคาดหวังเชิงบวกไปแล้ว เมื่อสถานการณ์การเปิดเมืองกลับสู่ภาวะปกติ และกำไรกลับสู่ระดับฐานปี 2562 เรามองว่า CENTEL ควรจะกลับมาซื้อขาย อิงค่าเฉลี่ยในอดีต ซึ่งหากคิดจาก Modeling ของเราจะอยู่ที่ระดับราคาราว 47.00-50.00 บาทต่อหุ้น สะท้อน Upside จากระดับราคาปัจจุบันไม่ได้สูงมากแล้ว ทำให้เราปรับลดคำแนะนำเป็น TRADING
นักลงทุนที่ลงทุนตามคำแนะนำของเราตั้งแต่ช่วงเกิด COVID-19 เรามองว่าระดับราคาเกิน 45.00 บาท ต่อหุ้น เป็นจุดที่น่าจะทยอยขายทำกำไรแล้ว หาก CENTEL ไม่มีประเด็นใหม่เฉพาะตัว เช่น การซื้อกิจการ เป็นต้น
ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ 1) จำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะต่างชาติต่ำกว่าคาดการณ์ 2) การระบาดของ COVD-19 เกิดการกลายพันธุ์ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอีกครั้ง และ 3) ภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครนลากยาว และบานปลายจนทำให้เกิดเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก