Daily Focus: Earnings and Value Play

2022SET Target: 1770

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ออกข้าง ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่บางลงกว่าปกติเล็กน้อย เนื่องจากเข้าช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาว ดัชนีปิดลบเล็กน้อย 0.30 จุด ณ สิ้นวัน สถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่อง 931 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเช่นกันอีก 487 ลบ. (และพลิกมา Long SET50 Index Futures 1.7 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่งตัว Sideways to Sideways Down ในกรอบ 1,660-1670 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่คาดไม่หนาแน่น เนื่องจากยังอยู่ในช่วงคาบเกี่ยววันหยุด รวมถึงตลาดหุ้นเอเชียหลายประเทศปิดทําการ นอกจากนี้ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือการประชุม FED ในวันที่ 3-4 พ.ค. ซึ่งตลาดคาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% และเริ่มลดขนาดงบดุลวงเงิน US$9.5 หมื่นล้านต่อเดือน ทำให้ Upside ของดัชนี ระยะสั้นค่อนข้างจำกัด และยังมีแนวโน้มพักตัวต่อเนื่องในเดือน พ.ค. อย่างไรก็ตาม เรามองเป็นจังหวะ “สะสมหุ้นพื้นฐาน” ในกรอบ 1,600-1,650 จุด โดยยังคงได้อานิสงส์ ระยะกลาง-ยาวจากเศรษฐกิจในประเทศทยอยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ตามการ Reopening โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดประเทศเต็มรูปแบบใน 2H22 ซึ่งจะช่วยหนุนให้ Fund Flow ยังอยู่ในทิศทางไหลเข้า กลุ่มที่ชอบยังเป็น Value Domestic และ Reopening Play ที่มี PER/PBV ไม่สูงเทียบกับในอดีตก่อน COVID-19 ได้แก่ กลุ่มธนาคาร โรงกลั่น ค้าปลีก อสังหาฯ อาหารและเครื่องดื่ม การแพทย์ เป็นต้น ส่วนระยะสั้นเลือกเก็งกำไรหุ้นที่คาดประกาศผลประกอบการ 1Q22 แข็งแกร่ง และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากบาทอ่อน

กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดงบ 1Q22 แข็งแกร่ง และยังเน้นลงทุนหุ้น Value และ Domestic Play

หุ้นเด่นเดือน พ.ค. : GFPT, ILINK, SAPPE, SMT, TH

หุ้นเด่นวันนี้ : TH

  • แนะนำ “ซื้อ” ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 9 บาท
  • คาดกําไรสุทธิ 1Q22 +347% Y-Y เนื่องจากบริษัทเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ AMC ใน 4Q21 ขณะที่ใน 1Q21 ยังเป็นธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์และสินเชื่อแฟคตอริ่ง กำไรดังกล่าวทรงตัวใกล้เคียง 4Q21 เพราะมูลหนี้ในการบริหารยังเท่าเดิม
  • โมเมนตัมกำไรจะเป็นขาขึ้นตลอดทุกไตรมาสจของปี อย่างไรก็ตาม เราปรับประมาณการกำไรปี 2022-2024 ลงเฉลี่ยปีละ 15% จากการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บหนี้และค่าบริหารให้สูงกว่าเดิมเพื่อความระมัดระวัง แต่คาดกำไรปี 2022 ยังก้าวกระโดด +227% Y-Y และ +49% CAGR ในปี 2022-2024
  • แนวรับ 6.35//6 บาท แนวต้าน 6.70//6.90-7 บาท

Fund Flow: วันศุกร์และจันทร์ที่ผ่านมา กระแสเงินทุนพลิกมาไหลเข้าภูมิภาคได้เล็กน้อย US$312 ล้าน โดยกระจุกตัวที่ไต้หวัน US$382 ล้าน แต่ยังคงไหลออกจากเกาหลีใต้บางๆ ขณะที่อาเซียนเม็ดเงินผสมผสานไม่มีทิศทางชัดเจน ตลาดจับตาดูการประชุม FED ในสัปดาห์นี้ที่คาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% และเริ่มลดขนาดงบดุล US$9.5 หมื่นล้านต่อเดือน

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) กลยุทธ์การลงทุนเดือน พ.ค. เราคาด Sell in May มีโอกาสเกิดจากทั้งสถิติในอดีต รวมถึงแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่เติบโตชะลอจากผลกระทบของสงคราม จีนกลับมา Lockdown ขณะที่นโยบายการเงินของ FED จะเริ่มตึงตัวอย่างรวดเร็วทั้งการขึ้นดอกเบี้ยและเริ่มลดขนาดงบดุล ทำให้ SET Index มีโอกาสพักตัวระยะสั้น อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลประกอบการ 1Q22 คาดยังอยู่ในเกณฑ์ดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และคาดเร่งตัวใน 2H22 จากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ เราจึงมองการพักตัวของ SET Index หากรอบ 1,600-1,650 จุดเป็นจังหวะ “ทยอยสะสม” โดยเน้นหุ้น Value และ Earnings Play เป็นหลัก โดยเลือก Top Pick สำหรับเดือนนี้ ได้แก่ GFPT ILINK SAPPE SMT TH

(+) กลุ่มยานยนต์ ยอดผลิตรถยนต์ 1Q22 +3% Y-Y ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศ +22% Y-Y ค่อนข้างแข็งแกร่ง และช่วยชดเชยยอดส่งออกที่ -6% Y-Y ภาพรวมทั่งปี 2022 เชื่อว่ายอดผลิตรถยนต์จะได้ตามเป้าหมาย +6% Y-Y สำหรับแนวโน้มกำไร 1Q22 ของกลุ่มคาด AH เติบโตแข็งแกร่ง +110% Q-Q, +3% Y-Y ทั้งธุรกิจในไทยและต่างประเทศ ส่วนต้นทุนเหล็กที่สูงขึ้นกระทบจำกัด ขณะที่ SAT คาด +21% Q-Q, -26% Y-Y ถูกกระทบจากราคาเหล็กมากกว่า เราคงน้ำหนักการลงทุน Overweight เลือก Top Pick เป็น AH ราคาเป้าหมาย 28 บาท (Source: FSSIA)

(+) BRI คาดกำไร 1Q22 โตก้าวกระโดด +128% Q-Q, +162% Y-Y ทำ New High จากการเซ็นสัญญา JV 3 โครงการ บวกกับยอดโอนแข็งแกร่ง +25% Q-Q, +50% Y-Y โมเมนตัมกําไรคาดโตทั้ง Q-Q และ Y-Y ทุกไตรมาสของปีนี้ และได้อานิสงส์จากการรุกเปิดโครงการใหม่ โดยเฉพาะ 2H22 ที่เปิดตัวกว่า 80% ของแผนทั้งปีและแนวโน้มตลาดแนวราบยังคงแข็งแรง เราคาดกำไรปี 2022 +102% Y-Y คงราคาเป้าหมาย 14.20 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 84.29 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 33,061.50 จุด จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังปรับลงในช่วงก่อนหน้า

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ หลังเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตในจีนหดตัวลง มากกว่าคาดในเดือนเม.ย.

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับขึ้น โดยหลายประเทศปิดทำการวันนี้ อาทิ จีน, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, อินเดีย ท่ามกลางติดตามธนาคารกลางออสเตรเลียประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในเช้านี้

(0) ค่าเงินบาท แกว่งในกรอบแคบ อยู่ที่บริเวณ 34.43 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 105.17 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าสหภาพยุโรป (EU) กำลังผลักดันการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซีย ส่งผลให้มีความกังวลเกี่ยวกับ อุปทานน้ำมันในตลาดโลกตึงตัว ขณะที่ติดตาม EIA รายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐในวันพุธนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 48.1 ดอลลาร์ หรือ 2.52% ปิดที่ 1,863.6 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,092.23 / -3.49

- Advertisement -