บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Saksiam Leasing (SAK.BK/SAK TB)*
ประมาณการ 1Q65F: กำไรจะลดลง QoQ แต่เพิ่มขึ้น YoY
Event
ประมาณการ 1Q65F และปรับลดคำแนะนำ
Impact
คาดว่ากำไรสุทธิ ใน 1Q65F จะอยู่ที่ 173 ล้านบาท (-7% QoQ, +46% YoY)
เราคาดว่ากำไรสุทธิของ SAK จะอยู่ที่ 173 ล้านบาท (-7% QoQ, +46% YoY) โดยจะเป็นผลมาจาก i) สินเชื่อที่ขยายตัว +5% QoQ และ +34% YoY ii) yield สินเชื่อที่ทรงตัว QoQ แต่ +50bps YoY ii) สัดส่วนต้นทุนต่อรายได้อยู่ที่ 50.9% เพิ่มขึ้นจาก 48.0% ใน 4Q64 แต่ลดลงจาก 58.8% ใน 1Q64 เนื่องจากมีการเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 90 สาขาใน 1Q65 จากที่เปิดสาขาใหม่ 131 สาขาใน 1Q65 และ 1 สาขาใน 4Q64
สินเชื่อขยายตัวอย่างต่อเนื่องตามการขยายสาขา
เราคาดว่าสินเชื่อของ SAK ใน 1Q65F จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง (5% QoQ และ 34% YoY) จากสินเชื่อจำนำทะเบียน, nanofinance และสินเชื่อ HP รถมอเตอร์ไซค์ใหม่ ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายสาขา เราคาดว่า yield สินเชื่อจะอยู่ที่ 24.3% ใน 1Q65F (จาก 24.4% ใน 4Q64 และ 23.8% ใน 1Q64) ในขณะที่คาดว่าต้นทุนทางการเงินจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 5bps QoQ แต่จะลดลง 28bps YoY
สัดส่วน NPL จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ใน 1Q65F และ credit cost จะเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ จากสินเชื่อที่ขยายตัว และการสิ้นสุดมาตรการผ่อนผันหนี้ เราคาดว่าสัดส่วน NPL จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.3% ใน 1Q65F (จาก 2.2% ใน 4Q64 และ 1Q64) โดยเราใช้สมมติฐานว่า credit cost จะเพิ่มขึ้นเป็น 2.7% ใน 1Q65F จาก 2.4% ใน 4Q64 และ 1Q64 ในขณะที่เราคาดว่าสัดส่วน NPL coverage จะเพิ่มขึ้นเป็น 117% (จาก 109% ใน 4Q64 และ 110% ใน 1Q64)
Valuation and action
เนื่องจากเราคาดว่าต้นทุนทางการเงินจะเพิ่มขึ้น QoQ และอัตราดอกเบี้ยอยู่ในขาขึ้น เราจึงปรับสมมติฐานต้นทุนทางการเงินของ SAK ในปี 2565F/2566F เป็น 3.1%/4.0% (จากเดิม 2.9%/3.1%) ส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F/2566F ของเราลดลง 1%/5% ทั้งนี้ หลังจากที่ปรับประมาณการกำไรลงแล้ว ทำให้ราคาเป้าหมายปี 2565 ของ SAK ลดลงเหลือ 9.25 บาท จากเดิม 9.50 บาท ดังนั้น เราจึงปรับลดคำแนะนำจากถือเป็นขาย
Risks
อุปสงค์สินเชื่อชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า, yield สินเชื่อ reduction, NPLs rising