บล.ทรีนีตี้:
แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ – LPN ลดการใช้ Promotion หนุน Gross Margin ฟื้นตัว
- รายงานกำไรสุทธิ 1Q65 ที่ 191 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 497% QoQ และ 55.7% YoY โดยที่มีรายได้จากการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ 1.78 พันล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 49% QoQ และ 69% YoY
- รายงานยอด Presales ใน 1Q65 ที่ 2.13 พันล้านบาท เติบโต 2.9% YoY แม้จะไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่
- หลังจาก 1Q65 คาดว่าจะมีการใช้ Promotion และการลดราคาน้อยลง โดย Gross Margin คาดสามารถเติบโตได้ QoQ มาอยู่ที่ 23-25%
- คาดการเติบโตของรายได้ปี 2565 ที่ 33.7% YoY และกำไรเติบโตที่ 44% YoY
- ยังคงแนะนำ “ขาย” ที่ราคาเป้าหมาย 4.00 บาท
1Q65 Earnings Review
- LPN รายงานกำไรสุทธิ 1Q65 ที่ 191 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 497% QoQ และ 55.7% YoY โดยมีรายได้จากการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ 1.78 พันล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 49% QoQ และ 69% YoY โดยช่วง 1Q65 ได้เริ่มโอนโครงการ Lumpini Town Place Lat Phrao 101 และ Latkrabang Suvarnabhumi
- มีรายได้จากการรับบริหารโครงการอยู่ที่ 349 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 2.3% QoQ และ 18.9% YoY และมีรายได้รวมอยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 37.5% QoQ และ 55% YoY
- Gross Margin กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ใน 1Q65 อยู่ที่ 22% ใกล้เคียงกับ 4Q64 แต่ปรับตัวลดลงจากระดับ 25% ในช่วง 1Q64 เนื่องจากยังคงใช้การลดราคาเพื่อกระตุ้นยอดขาย และโอนยอด Presales ใน 1Q65 อยู่ที่ 2.13 พันล้านบาท นับเป็น 16% ของเป้าที่ 1.3 หมื่นล้านบาท โดยที่เป็นสัดส่วนของโครงการแนวราบที่ 568 ล้านบาท (ปรับตัวลดลง 3% YoY) และเป็นยอดของโครงการคอนโดที่ 1.57 พันล้านบาท (ปรับตัวสูงขึ้น 5.1% YoY)
ลดการใช้ Promotion เพิ่ม Gross Margin
- ยังคงแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 16 โครงการ มูลค่ารวม 1.1 หมื่นล้านบาท เป็นโครงการคอนโด 5 โครงการ มูลค่ารวม 7 พันล้านบาท และโครงการแนวราบ 11 โครงการ มูลค่ารวม 4 พันล้านบาท โดยในช่วง 2Q65 จะเริ่มเปิดตัวโครงการคอนโด 3 โครงการ และโครงการแนวราบ 2 โครงการ มียอด Backlog จากกลุ่มคอนโดรวม 1.67 พันล้านบาท โดยที่เป็นสัดส่วนโอนของปี 2565 ที่ 979 ล้านบาท และยอด Backlog จากโครงการแนวราบที่ 808 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถโอนในปี 2565 ได้ทั้งหมด
- หากนับรวมยอดโอนใน 1Q65 และ Backlog ของปี 2565 จะนับเป็น 59% ของที่เราคาดการณ์ยอดโอนที่ 6.06 พันล้านบาท โดย LPN มีโครงการใน inventory พร้อมโอนมูลค่ารวมที่ 7.5 พันล้านบาทที่พร้อมเสริมทัพรายได้
- คาดผลประกอบการใน 1Q65 เป็นไตรมาสที่ต่ำที่สุดของปี โดย Gross Margin ของโครงการอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นจาก 22% จากโครงการใหม่ที่รอโอนอีก 3 โครงการที่มี Gross Margin อยู่ที่ 25% และคาดว่าจะมีการใช้ Promotion ในการส่งเสริมการขายที่ลดลง
ยังคงแนะนำ “ขาย” ที่ราคาเป้าหมาย 4.00 บาท
เรายังคงคำแนะนำ “ขาย” ที่ราคาเป้าหมาย 4.00 บาท โดยอิง EPS 2565F ที่ 0.50 บาท/หุ้น และค่าเฉลี่ย P/E ย้อนหลัง 5 ปีที่ 8.0x แม้ว่าปี 2565 จะมีการเติบโตของรายได้และกำไรจะมีการเติบโต YoY ที่โดดเด่น แต่ก็ยังไม่สามารถกลับสู่ระดับ Pre-COVID19 ได้ และ Gross Margin ก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมและค่าเฉลี่ยในอดีต
ปัจจัยเสี่ยง
ยอดปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารเป็นปัจจัยหลักที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากโครงการของ LPN ส่วนมากมีราคาขายต่ำกว่า 3 ล้านบาท ประกอบกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ส่งผลให้ลูกค้าเลื่อนการซื้อไปในอนาคต, ราคาที่ดินในบริเวณเขตธุรกิจ (CBD) ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนโครงการสูงขึ้นเช่นกัน ในขณะที่ LPN ได้ชะลอการเปิดโครงการใหม่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มียอด Backlog ที่น่าเป็นห่วง, มาตรการปรับเกณฑ์ LTV ขึ้น และภาษีที่ดินฉบับใหม่ส่งผลให้ยอดขายถูกกดดัน ในขณะที่การชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจจีนอาจส่งผลกระทบต่อ Sentiment ในการซื้อของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ