บล.พาย:
ERW: ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเร่งให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
ปรับคำแนะนำจาก “ขาย” เป็น “ซื้อ” และเพิ่มมูลค่าพื้นฐานขึ้น +75% เป็น 4.2 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) (WACC 7%, TG 2%) อิงอัตราการคิดลด 10% ต่อ 23.1xPE’23 คำแนะนำนี้สะท้อนคาดการณ์การฟื้น ตัวที่แข็งแกร่งในปี 2022 จากแรงกระตุ้นในภาคการท่องเที่ยวหลังความกังวลเรื่องโควิด-19 ผ่อนคลายลง
- คาดขาดทุนสุทธิ 296 ล้านบาท เทียบขาดทุน 492 ล้านบาทใน 1Q21 และ 246 ใน 4Q21 แม้รายได้โตแข็งแกร่งก็ตาม
- ทั้งนี้ รายได้ที่โตแข็งแกร่งเป็นผลจากการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวทั้งในและระหว่างประเทศ ซึ่งได้แรงหนุนมาจากมาตรการ Test and go และมาตรการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ใน 1Q22
- เล็งเห็นภาพรวมที่ดีในปี 2022 เพราะคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวในอัตราที่เร็วขึ้น สืบเนื่องจากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในภาคการท่องเที่ยวในประเทศ และการเปิดพรมแดนต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
พรีวิวผลประกอบการ
- คาดขาดทุนสุทธิ 296 ล้านบาท เทียบขาดทุน 492 ล้านบาทใน 1Q21 และ 246 ใน 4Q21 แม้รายได้โตแข็งแกร่งก็ตาม
- ขาดทุนปกติและรายได้ผ่านจุดต่ำสุดใน 3Q21 มาแล้ว และการดำเนินงานของบริษัทจะฟื้นตัวอย่างเป็นลำดับตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทยและทั่วโลก
- คาดรายได้โต 5% QoQ และ 73% YoY จากอัตราการเข้าพักที่ปรับดีขึ้นในทุกกลุ่ม และอัตราราคาห้องพักเฉลี่ย (ARR) ทั้งหมดที่ไม่รวม HOP INN Thailand ที่ปรับดีขึ้น
- อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) พลิกเป็นบวกใน 4Q21 และคาดว่าจะปรับเพิ่มเล็กน้อยใน 1Q22 เป็น 5% ซึ่งประเมินว่าจะปรับดีขึ้นต่อเนื่องใน 2H22
ERW: Operations ready to ramp up in from 1Q22
- กำไรและรายได้ผ่านจุดต่ำไปแล้วในปี 2021 ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว
- คาดกำไรจะยืนเหนือช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ได้ภายในปี 2023 โดยจะเห็นการฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2022
- การท่องเที่ยวในประเทศฟื้นตัวสู่ระดับก่อนเกิดโควิด-19 แล้ว โดยกลุ่มโรงแรมชั้นถูกอย่าง HOP INN จะได้ประโยชน์มากที่สุดจากบรรยากาศเช่นนี้
- มีแผนการเปิดโรงแรม 9 แห่งที่ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมชั้นถูก คิดเป็น 1,045 ห้องในช่วง 1H22-2023 นับเป็นอีกแรงหนุนต่อรายได้ตั้งแต่ 2H22 เป็นต้นไป
- สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทไม่มาก
ERW: Thailand tourism market will boost in 2022
- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประเมินภาคการท่องเที่ยวในประเทศจะฟื้นตัว 96% ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าที่ฟื้นตัว 25% เทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19
- คาดว่าบริษัทจะเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ได้ประโยชน์มากที่สุด เพราะมีโรงแรมหลายประเภทด้วยระดับราคาที่หลากหลาย
ปัจจัยสําคัญที่จะกระตุ้นการดำเนินงาน
- อัตราการเข้าพักที่เติบโตเร็วจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวทั่วโลก
- การออกมาตรการ test & go ในไทย
- ข้อตกลงรูปแบบ air bubble ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น
- การฟื้นตัวของกิจกรรมทางธุรกิจในประเทศ
กลยุทธ์การเติบโตทางธุรกิจ
จากการผ่อนปรนมาตรการโควิด 19 ก็พบว่าโรงแรมชั้นถูกอย่าง HOP INN ฟื้นตัวขึ้นเร็วที่สุด ด้วยแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวในประเทศที่ฟื้นตัวขึ้น
บริษัทจะยังมุ่งเน้นการขยายกิจการ HOP INN เพื่อกระตุ้นส่วนแบ่งจากลูกค้าในประเทศ และลดการพึ่งพาลูกค้าต่างชาติลง เพื่อป้องกันความเสี่ยงในอนาคตอย่างเหตุการณ์โควิด-19 และการปิดพรมแดนที่อาจเกิดขึ้นอีก
ERW: Sluggish operations in Philippines to improve in 2H22
- กิจการในฟิลิปปินส์ยังเผชิญกับอุปสรรค สืบเนื่องจากผลการดำเนินงานโดยรวมที่ลดลง ซึ่งเป็นผลจากแปลงสภาพจากโรงแรมเพื่อการกักตัวมาเป็นโรงแรมเพื่อการพักผ่อน ซึ่งขณะนี้ตลาดเพื่อการพักผ่อนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
- ผลการดำเนินงานของโรงแรมในฟิลิปปินส์ยังไม่สู้ดี แต่คาดว่าจะฟื้นตัวใน 2H22 เมื่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวขึ้น
ERW: Investment plans that will generate additional revenues beyond 2022
เพิ่มห้องพัก 1,045 ห้องเข้าพอร์ตในช่วงปี 2022-23
บริษัทจัดสรรงบลงทุน 800 ล้านบาทเพื่อพัฒนาโรงแรมใหม่ 9 แห่ง ด้วยจำนวนห้องพักรวม 1,045 ห้อง (+11% จากจำนวนห้องพักที่มีอยู่) และมีแผนการทยอยเปิดตัว 9 โรงแรมใหม่ในช่วง 1H22-2023
บริษัทมีแผนขายสินทรัพย์ใน 2Q22 ประกอบด้วยโรงแรมชั้นประหยัด 3 แห่ง ได้แก่ ไอบิส สไตล์ กระบี่, ไอบิสกะตะ, และไอบิส หัวหิน (ราว 3% ของรายได้รวมในปี 2019) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านสถานะการเงินให้มีโครงการเงินทุนที่เหมาะสมต่อการขยายกิจการ และเพื่อสนับสนุนกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัทในการปรับพอร์ตโรงแรมที่หันมาเน้นการลงทุนในกลุ่มโรงแรมชั้นถูกมากขึ้น และกระตุ้นสัดส่วนรายได้และกำไรจากกลุ่มลูกค้าในประเทศมากขึ้น
Revenue breakdown
ธุรกิจหลักของ ERW และบริษัทย่อยคือการลงทุน พัฒนา และดำเนินงานอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมที่มีรูปแบบหลากหลาย ปัจจุบันบริษัทเป็นเจ้าของโรงแรมอยู่ 71 แห่ง ด้วยจำนวนห้อง 9,807 ห้องในไทยและฟิลิปปินส์รวมกัน ทั้งยังดำเนินธุรกิจอื่นๆ อย่างพื้นที่ให้เช่าค้าปลีก และการบริหารอาคาร สำนักงาน โดยพอร์ตธุรกิจโรงแรมของ ERW จะครอบคลุมโรงแรมระดับหรู ขนาดกลาง ชั้นประหยัด และชั้นถูก
อัตราการเข้าพักโรงแรมหรู ขนาดกลาง ชั้นประหยัด และชั้นถูกในไทย และโรงแรมชั้นถูกในฟิลิปปินส์ ของ ERW ในปี 2021 อยู่ที่ 21% 19% 15% 41% และ 49% ตามลำดับ ส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมในไทยมีสัดส่วนคิดเป็น 90% ของรายได้ทั้งหมด ขณะที่ธุรกิจพื้นที่ให้เช่าและบริการในฟิลิปปินส์คิดเป็น 5% และธุรกิจโรงแรมในฟิลิปปินส์คิดเป็นอีก 5% ที่เหลือ