BM การันตีผลงานงวดไตรมาส 1/65 ยังสามารถเติบโตได้ดี จากออดอร์ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงลูกค้า B2B ที่มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น จากฐานลูกค้าเดิม รวมทั้งการขยายฐานลูกค้าใหม่ พร้อมเตรียมเปิดตัว “ตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า โรงงานเขตฟรีโซน” ช่วยเสริมฐานธุรกิจ มั่นใจช่วยสร้างรายได้ปีนี้โตตามเป้าที่ 15-20% แตะระดับ 1.4 พันล้าน
นายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เปิดเผยว่า ภาพรวมแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 ยังเติบโตได้ดี จากปริมาณความต้องการในการของคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) จากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงลูกค้า B2B ที่มีออเดอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา พร้อมเตรียมวางแผนเพิ่มกำลังการผลิตรองรับออเดอร์ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตต่อไป
สำหรับแผนดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังของปีนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าในการสนองนโยบายเพื่อส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ของรัฐบาล โดยเตรียมเปิดตัวรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าที่จะพร้อมจดทะเบียน โดยจะเริ่มจากการจดทะเบียนให้ทางเนสเล่ที่ได้ร่วมพัฒนาด้วยกันก่อน เพื่อตอบโจทย์การลดภาวะโลกร้อนและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเพิ่มการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ ตู้โลหะ และแบตเตอร์รี่กักเก็บพลังงาน สำหรับเก็บสะสมพลังงานที่ได้จากแผงโซล่าเซลล์ที่ติดตั้งในภาคครัวเรือน เพื่อนำพลังงานมาใช้
ส่วนการก่อสร้างโรงงานผลิตเพื่อการส่งออกสินค้าในเขตพื้นที่ปลอดอากร (Free Zone) เฟสแรกใช้งบลงทุน 150-200 ล้านบาท บนเนื้อที่ 25 ไร่ ที่จังหวัดสมุทรปราการ ปัจจุบันโครงการมีความก้าวหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 60 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนสิงหาคมนี้ และสามารถเดินเครื่องผลิตสินค้าเพื่อส่งออกในปลายไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4
ด้านแผนการดำเนินงานในปี้ ตั้งเป้ารายได้โต 15-20% หรือมีรายได้ประมาณ 1,300-1,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีรายได้รวม 1,146.66 ล้านบาท จากการผลิตและจำหน่ายสินค้าแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กในทุกกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มงานรางและท่อร้อยสายไฟฟ้า กลุ่มงานผลิตตู้โลหะ กลุ่มงานตู้สวิตช์บอร์ด กลุ่มงานเชื่อมประกอบ กลุ่มงานกลุ่มเครื่องมือและเครื่องจักรกล กลุ่มงานผลิตชิ้นส่วนให้กับคูโบต้า และกลุ่มธุรกิจอื่นที่เป็นธุรกิจการค้าระหว่างหน่วยงานธุรกิจกับหน่วยธุรกิจ (B2B)
“ปี 2565 เป็นปีที่คาดการณ์ว่า สถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายมากขึ้น และสภาวะตลาดเริ่มฟื้นกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ บริษัทจึงกำหนดกลยุทธ์สร้างการเติบโตไว้อย่างชัดเจน รวมถึงการวางยุทธศาสตร์และแผนขยายการลงทุนในครึ่งปีหลังอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน หนุนการเติบโตให้เป็นไปตามแผน” นายธีรวัต กล่าว
***********