บล.พาย:
JASIF: กำไรปกติ 1Q22 ทรงตัวสอดคล้องคาดการณ์
คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 12.10 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) (WACC=9.6%, g=0%) อิง 1.1xPBV’22E
- กำไรสุทธิ 1Q22 อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท (-9% YoY, -36% QoQ) ฉุดลงจากขาดทุนการประเมินมูลค่าสินทรัพย์
- หากไม่รวมขาดทุนที่ยังไม่รับรู้จากการปรับมูลค่าสินทรัพย์จำนวน 600 ล้านบาท กำไรปกติ 1Q22 จะทรงตัวทั้ง YoY และ QoQ ที่ 2.2 พันล้านบาท สอดคล้องกับคาดการณ์ เนื่องจากมีรายได้ที่ทรงตัว YoY และ QoQ ที่ 2.5 พันล้านบาท
- มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ปรับลดเล็กน้อยเป็น 11.0788 บาท
- ประกาศจ่ายเงินปันผลต่อหุ้น (DPS) ระหว่างกาลที่ 0.23 บาท สำหรับการดำเนินงานใน 1Q22 ขึ้น XD 20 พ.ค. 2022
- คำแนะนำซื้อสะท้อนภาพรวมระยะยาวที่เป็นบวก เพราะกองทุนฯ มีสัญญาระยะยาวที่ทำให้ลูกค้ามีต้นทุนการเลิกใช้บริการสูง (switching cost) ขณะที่สามารถปรับเพิ่มค่าเช่าตามเงินเฟ้อได้
- ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ไทยที่ประกาศวันที่ 5 ม.ค. 2022 ปรับเพิ่มขึ้น +1.23% ทำให้รายได้ค่าเช่า และรายได้รวมปี 2022 จะปรับสูงขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของ CPI
สรุปผลประกอบการ 1Q22
- กำไรสุทธิ 1Q22 อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท (-9% YoY, -36% QoQ) ฉุดลงจากขาดทุนการประเมินมูลค่าสินทรัพย์
- หากไม่รวมขาดทุนที่ยังไม่รับรู้จากการปรับมูลค่าสินทรัพย์ จำนวน 600 ล้านบาท กำไรปกติ 1Q22 จะทรงตัวทั้ง YoY และ QoQ ที่ 2.2 พันล้านบาท เนื่องจากมีรายได้ที่ทรงตัว YoY และ QoQ
- รายได้ 1Q22 ยังทรงตัวทั้ง YoY และ QoQ สืบเนื่องจากรายได้ค่าเช่าที่คงที่ตามสัญญาระยะยาวที่ทำไว้กับ TTTBB (ผู้เช่าหลัก)
- NAV ปรับลดเล็กน้อยเป็น 11.0788 บาท
ภาพรวมปี 2022 เป็นบวก
CPI ไทยประจำปี 2021 ที่ประกาศโดยกระทรวงพาณิชย์วันที่ 5 ม.ค. 2022 ปรับเพิ่มขึ้น +1.23% ทำให้รายได้ค่าเช่าและรายได้รวม ปี 2022 จะปรับสูงขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของ CPI
Revenue breakdown
รายได้ 100% มาจากรายได้ค่าเช่าสายใยแก้วนำแสงจากประเภทสัญญาเช่า 2 แบบ
- 80% ของสายใยแก้วนำแสงอยู่ในรูปแบบสัญญาเช่าหลัก ด้วยอายุสัญญา 11 ปี สิ้นสุดในปี 2026 ค่าเช่า ที่ 436 บาท/กม./เดือน
- 20% ของสายใยแก้วนำแสงอยู่ในรูปแบบสัญญารับประกันค่าเช่า ด้วยอายุสัญญา 3 ปี โดยมีสิทธิต่อสัญญาไปอีก ด้วยค่าเช่าที่ 770 บาท/กม./เดือน