ITEL ฟอร์มสวย ประกาศผลงานในงวดไตรมาส 1/65 มีรายได้รวม 593 ล้านบาท เติบโต 16% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% ระบุเป็นผลจากกลุ่มธุรกิจขยายตัวต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งการให้บริการโครงข่าย ติดตั้ง รวมทั้งให้บริการดาต้า เซ็นเตอร์ ขณะที่ผลงานทั้งปีนี้ มั่นใจยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ทำนิวไฮที่ 3,200 ล้านยาท จ่อปิดดีล M&A หุ้นเทคฯ สตาร์ทอัพ พร้อมเตรียมดันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

 

นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 1/65 บริษัทมีรายได้รวม 593 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 511 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 46 ล้านบาท เป็นผลจากบการเติบโตในทุกธุรกิจ ความต้องการลูกค้าเพิ่มขึ้น จากการที่ประเทศไทยพัฒนาไปสู่ยุคการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ของประเทศ และเป็นปัจจัยช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัท ทำให้สามารถผลักดันยอดขายจากลูกค้าที่เข้ามาใช้งานได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้บริษัทสร้างรายได้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด

สำหรับรายได้จากการให้บริการโครงข่ายในไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 337 ล้านบาท เติบโตสูงขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า 12% ขณะที่รายได้จากการให้บริการติดตั้งโครงข่าย เติบโตสูงขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 28% อยู่ที่ 225 ล้านบาท พร้อมต่อยอดความสำเร็จในกลยุทธ์ New S-Curve ที่เป็นการให้บริการด้าน งาน Big Data, Security และ IoT รวมถึงการขยายธุรกิจจากการเข้าถือหุ้น 51% ในบริษัท บลู โซลูชั่น จำกัด ซึ่งช่วยให้บริษัทมีรายได้จากการให้บริการติดตั้งโครงข่ายเพิ่มขึ้นถึง 55 ล้านบาท

ขณะที่รายได้จากการให้บริการพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์ทั้งปีเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อนหน้า 2% อันเนื่องมาจากฐานลูกค้าที่ใช้งานปี 2564 มีมากถึง 95% ทำให้รายได้จากการให้บริการพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์ในไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 21 ล้านบาท และในแต่ละไตรมาสหลังจากนี้จะมีแนวโน้มของรายได้ที่มั่นคง

“ผลประกอบการออกมาเป็นที่น่าพอใจ ทั้งรายได้และกำไรที่นิวไฮต่อเนื่อง โดยไตรมาส 1/65 มีการเซ็นงานเข้ามา 2-3 งาน ได้แก่ งานติดตั้งสายไฟเบอร์ออพติคให้กับหน่วยงานค่ายโทรคมนาคม งานติดตั้งโซลาเซลล์ที่สถานีฐานให้กับโทรคมนาคม งานเชื่อมต่อไปยังประเทศสิงคโปร์ให้กับธนาคารแห่งหนึ่ง  โดยกำไรจากการดำเนินงานโต 19% อยู่ที่ 55 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปี 2564 อยู่ที่ 46 ล้านบาท เป็นผลจากการเติบโตของรายได้ทุกประเภท นอกจากนี้ อัตรากำไรสุทธิ คิดเป็น 10% เป็นผลมาจากบริษัทมีลูกค้าเพิ่มขึ้น และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ และค่าใช้จ่ายในการบริหารได้ดีขึ้น”

ขณะที่ผลการดำเยินงานทั้งปีนี้ ตั้งเป้ารายได้ที่ 3,200 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 10%  ปัจจุบันมีสัญญาในมือ (Contract on Hand) รวมมูลค่ากว่า 3,563 ล้านบาท และจะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 1,909 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/65 บริษัทสามารถปิดสัญญาใหม่ๆ และต่อสัญญาที่หมดอายุมาได้ ทั้งสิ้น 611 ล้านบาท ทั้งงานบริการโครงข่ายโทรคมนาคม (Data Service) งานบริการพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) และงานติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคม (Installation)

นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทคาดหวังจะได้รับงานใหม่เข้ามาไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท โดยมีโครงการในอนาคต เช่น โครงการ Course Online มูลค่า 305 ล้านบาท โครงการ USO-TOT มูลค่า 703 ล้านบาท รวมไปถึงงานติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคม และงานให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้า เพื่อให้เข้ามาใช้พื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์อีกจำนวน 0.6 เมกะวัตต์ และเดินหน้าขยายขนาดดาต้า เซ็นเตอร์เป็น 2.4 เมกะวัตต์ ด้วยงบลงทุนราว 200 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน บริษัทก็พร้อมที่จะขยายขนาดเป็น 6 เมกะวัตต์ภายใน 2 ปีข้างหน้า ใช้งบลงทุนราว 300-400 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาเข้าซื้อกิจการ (M&A) จำนวน 2 ดีล บริษัทด้าน IT Outsourcing ที่มีความชำนาญด้าน Digital Transformation, Cyber Security และ Software House ที่มีศักยภาพ อีกบริษัทจะเน้นในด้านการทำ Social Data Analytic ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการทำ Due Diligence โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในช่วงไตรมาส 2/65

ส่วนความคืบหน้าจากที่บริษัทจะทำ Swap Share เข้าถือหุ้น 51% ในบริษัท บลู โซลูชั่น จำกัด (BS) ผู้ให้บริการวางระบบ (System Integrator) ซึ่ง BS เป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นโดยบริษัท เวทเธอเรีย อี จำกัด ได้ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2565 และคาดการณ์ว่าจะทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 500-700 ล้านบาท่อปี จากการรวมงบของ BS เข้ามา และมีแผนผลักดันให้บริษัทดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างเร็วสุดในปี 2566

************

- Advertisement -