บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Siam City Cement (SCCC) ประคองตัว ท่ามกลางไม่แน่นอน
Company Update
ประเด็นการลงทุน
กำไรปกติ 1Q65 เด่น 1,531 ล้านบาท (+42%YoY) สูงสุดรอบ 9 ปี แต่การขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงถึง 709 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิลดลงเหลือ 802 ล้านบาท (-25%YoY) ความต้องการปูนซีเมนต์ปีนี้ยังแข็งแกร่ง แต่ SCCC ต้องเผชิญต้นทุนพลังงาน และราคาถ่านหินปรับขึ้นแรง ทาง SCCC ได้พยายามผลักดันราคาเพิ่มขึ้น พร้อมกับการเพิ่มประสิทธิภาพลดต้นทุน คาดกำไรปกติจะประคองตัวได้ แม้ว่ากำไรสุทธิจะลดลงหนัก SCCC มีฐานะการเงินแข็งแกร่งหนี้สุทธิต่อทุนต่ำ มีกระแสเงินสด EBITDA สูง 8.3 พันล้านบาท ราคาซื้อขาย P/E ต่ำ 11.1 เท่า EV/EBITDA 7.3 เท่า P/BV 1.1 เท่า และอัตราเงินปันผลตอบแทน 5.4% เราประเมินราคาเป้าหมายบนฐานค่าเฉลี่ย 10 ปี Forward P/E –0.5SD = 15x ได้เท่ากับ 200 บาท เราคงแนะนำ ซื้อ
กำไรปกติ 1Q65 เด่น แต่ขาดทุน F/X ทำให้กำไรสุทธิลดลง
SCCC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1Q65 ลดลงเหลือ 802 ล้านบาท (-23%QoQ, -25%YoY) แต่ถ้าหากหักขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงถึง 709 ล้านบาท จากเหตุการณ์วิกฤตเศรษฐกิจในศรีลังกาจะมีกำไรปกติที่เด่น และ สูงสุดในรอบ 9 ปี เท่ากับ 1,531 ล้านบาท (+30%QoQ, +42%YoY) แรงหนุนยอดขายที่เติบโต 21%YoY สู่ระดับ 12,576 ล้านบาท ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนที่สูง 362 ล้านบาท (+23%YoY) และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดี 31.4% เทียบกับปีก่อน 30.8% แรงหนุนราคาที่ปรับขึ้น
ขึ้นราคาขายและบริหารจัดการต้นทุน จะพยุงอัตรากำไรขั้นต้น
ผู้บริหารมีมุมมองแนวโน้มความต้องการปูนซีเมนต์ในปี 2565 ด้านบวกแบบระมัดระวัง คือ ประเทศไทย ความต้องการ 31.6 ล้านตัน ทรงตัวจากปีก่อน ประเทศเวียดนาม ภาคใต้ ความต้องการ 22.4 ล้านตัน โต 15% และ ศรีลังกา ความต้องการ 7 ล้านตัน ทรงตัว ด้านต้นทุน SCCC ได้เผชิญกับอุปสรรคต้นทุนพลังงานที่ปรับขึ้นแรง โดยเฉพาะถ่านหิน ดังนั้น SCCC พยายามปรับราคาขายขึ้นเฉลี่ยประมาณ 6-7 เหรียญ/ตัน หรือประมาณ 200 บาท/ตัน เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้น โดย SCCC มีการล็อกถ่านหินรองรับประมาณ 70-80% ที่จะใช้ทั้งปี รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพลดต้นทุน และใช้เชื้อเพลิงทดแทนมากขึ้น
ปี 2565 คาดยอดขายจะโตจากราคา กำไรปกติจะประคองตัว
เราประเมินปริมาณขายในปีนี้จะค่อนข้างทรงตัว แต่ราคาขายปรับตัวสูงขึ้นคาดจะหนุน ให้ยอดขายในรูปมูลค่าเติบโตได้ดี ทำให้เราปรับประมาณการยอดขายเพิ่มขึ้น 6% ระดับ 46,176 ล้านบาท เติบโต 11%YoY แต่เหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง และเศรษฐกิจในศรีลังกาทำให้ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนสูง ดังนั้น เราปรับประมาณการ กำไรสุทธิลง 24% เหลือ 3,241 ล้านบาท ลดลง -24% YoY ส่วนกำไรปกติปรับประมาณการลงเล็กน้อย 5% เหลือ 3,970 ล้านบาท แต่ยังเติบโตได้เล็กน้อย 5%YoY
