บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +46.4%

Close May 13, 2022 Price (THB) 38.25

12M Target (THB) 56.00

Previous Target (THB) 66.00

What’s new?

  • RATCH รายงานกำไรปกติ 1965 ที่ 1.8 พันล้านบาท ลดลงเล็กน้อย QoQ และ YoY จากการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าหงสาบางส่วน และต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้น QoQ และ YoY
  • คาดกําไรปกติ 2Q65 เติบโต QoQ จากการกลับมาดำเนินการของโรงไฟฟ้าหงสา และรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าใหม่ที่บริษัทฯ มีการ COD หรือเข้าลงทุน
  • ปรับประมาณการปี 2565 ขึ้น 23% เป็น 8,266 ล้านบาท จากการรวมโรงไฟฟ้า Paiton ไว้ในประมาณการ  โดยคาดธุรกรรมดังกล่าวจะเสร็จสิ้นในช่วง 3Q65 และเป็นแรงหนุนให้กำไรปกติสูงขึ้น HoH

Our view

  • RATCH ได้มีการประกาศอัตราส่วนและราคาเพิ่มทุนสุดท้ายแล้ว โดยเราได้มีการประเมินราคาเหมาะสมใหม่ จากการรวมโรงไฟฟ้า Paiton และผลกระทบด้าน Dilution จากการเพิ่มทุน ได้ราคาเหมาะสมที่ 56.00 บาท/หุ้น Upside 46.4% คงคำแนะนำ “ซื้อ
  • จากการประเมินของเรา การเพิ่มทุนแบบ PPO จะส่งผลให้อัตราส่วน D/E ของ RATCH ลดลงมาเหลือเพียง 0.6 เท่า ซึ่งต่ำกว่ากลุ่มโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่มักมีอัตราส่วน D/E มากกว่า 1.0 เท่า ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอย่างจำกัด

RATCH GROUP กำไรปกติ 1Q65 ลดลงเล็กน้อย QoQ และ YoY

กำไรปกติ 1Q65 ลดลง QoQ และ YoY จากการซ่อมบำรุง

RATCH รายงานกำไรสุทธิ 1Q65 ที่ 1,579 ล้านบาท (-26% QoQ, -24% YoY) หากหักรายการพิเศษต่างๆ ออก กำไรปกติอยู่ที่ 1,755 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย -1% QoQ และ -4% YoY แม้จะมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการ COD โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม RIAU ขนาด 145MWe ในอินโดนีเซีย เนื่องจาก 1) โรงไฟฟ้าหงสาในลาวมีการปิดซ่อมบำรุง 1 หน่วยการผลิต (ราว 50 วัน) 2) แม้รับรู้รายได้ของโรงไฟฟ้า SCG แบบเต็มไตรมาส แต่อัตรากำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าถูกกดดันจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว (SCG ขายไฟฟ้าให้กับกลุ่มลูกค้า IU เป็นหลัก) และ 3) ค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงขึ้น +11% QoQ และ +45% YoY จากการรับรู้ค่าใช้จ่ายของโรงไฟฟ้าที่บริษัทฯ มีการ COD หรือเข้าลงทุนในช่วง 2Q64-1Q65 โดยกำไรปกติ 1Q65 คิดเป็นสัดส่วน 21% ของประมาณการทั้งปี

ปรับประมาณการขึ้นจากการรวมการลงทุนในโรงไฟฟ้า Paiton

ปรับประมาณการปี 2565 ขึ้น 23% เป็น 8,266 ล้านบาท (+14% YoY) จากการรวมการลงทุนในโรงไฟฟ้า ถ่านหิน Paiton หน่วยที่ 7/8 และ 3 ขนาดรวม 931MWe ในอินโดนีเซียไว้ในประมาณการ โดยคาดธุรกรรมการเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะเสร็จสิ้นในช่วง 3Q65 และจะเป็นแรงหนุนให้กำไรปกติของบริษัทฯ เติบโต HoH ขณะที่กำไรปกติ 2Q65 มีแนวโน้มเติบโตได้ QoQ และ YoY จาก 1) การกลับมาดำเนินงานเต็มประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าหงสา หลังปิดซ่อมบำรุงบางส่วนใน 1Q65 2) การรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า RIAU แบบเต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก และ 3) การรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม NRER ขนาด 45MWe ที่ COD ในช่วงปลายเดือนเม.ย. เป็นครั้งแรก

รวม Dilution จากการเพิ่มทุนแบบ PPO…คงคำแนะนำ “ซื้อ”

เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 65 RATCH ประกาศรายละเอียดสุดท้ายของการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบ PPO จำนวน 725 ล้านหุ้น โดยกำหนดอัตราส่วนการเสนอขายใหม่ที่ 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ จากอัตราส่วนเดิมที่ 1.885 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคา 34.48 บาท/หุ้น ซึ่งต่ำกว่าราคาเสนอขายเบื้องต้นที่ 37.75 บาท/หุ้น ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลง 3.8% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พ.ค.) อย่างไรก็ตาม เราได้มีการประเมินราคาเหมาะสมใหม่หลังรวมกำไรที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้า Paiton และ Dilution จากการเพิ่มทุน ได้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 56.00 บาท/หุ้น มี Upside 46.4% คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยหลังการเพิ่มทุน RATCH จะมีอัตราส่วน D/E เพียง 0.6 เท่า ซึ่งถือว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่มักมีอัตราส่วนส่วน D/E สูงกว่า 1.0 เท่า ทำให้ RATCH ได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอย่างจำกัด

- Advertisement -