เมื่อคืนที่ผ่านมา Dow Jones ปรับตัวขึ้นเด่น 1.98% รับแรงหนุนจากการซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร รวมทั้งมีข่าวออกมา ก่อนหน้านี้ว่าประธานาธิบดีสหรัฐ (Joe Biden) อาจพิจารณาผ่อนคลายสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน เราเชื่อว่าเกิดจากการที่สหรัฐต้องการชะลอเงินเฟ้อลงมา หลังจากที่เงินเฟ้อปัจจุบันทำสถิติสูงสุดในรอบ 40 ปี ด้านราคาน้ำมันดิบ Brt ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.7% ได้ปัจจัยหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อน ส่วนปัจจัยอื่นๆ เราเริ่มตั้งข้อสังเกตว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 และ 10 ปีเริ่มชะลอความร้อนแรง พร้อมกับ Dollar Index ที่เริ่มอ่อนค่าลงมา เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการส่งสัญญาณจากตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยที่คล้ายกับตลาดมองว่าใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว หรือคล้ายๆ กับว่าตลาด Price In เรื่องดอกเบี้ยสหรัฐไปพอสมควร ขณะที่หากสังเกตค่าเงินบาทจะพบว่าเริ่มแข็งค่าลงมา และเริ่มมีแรงหนุนจาก Foreign Fund Flow โดย Foreign Fund Flow เริ่มเข้ามาซื้อสุทธิติดต่อกัน 2 วันทำการ รวมกัน 5.1 พันล้านบาท ส่วนด้านภูมิภาคเอเชียพบว่า เริ่มเห็น Foreign Fund Flow กลับเข้ามาซื้อสุทธิเช่นกันใน อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไต้หวัน โดยแนะติดตามแรง ซื้อจากต่างชาติที่อาจเป็นตัวหนุนตลาดหุ้นได้ในระยะสั้น เบื้องต้นแนะระมัดระวังในกลุ่มส่งออก (ASIAN HANA KCE TU) เนื่องจากรับปัจจัยลบจากเงินบาทที่เริ่มแข็งค่า แต่มีหุ้นได้ประโยชน์อย่าง (TVO) ปัจจัยติดตามคืนนี้ ติดตามถ้อยแถลงของประธาน FED เชื่อว่าตลาดจะจับตารอดูทิศทางดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ (5 ทุ่ม 20 นาที ตามเวลา ประเทศไทย) ประเมินวันนี้ SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1627 – 1642

เชิงกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นเลือกโรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC GULF RATCH) ได้จิตวิทยาเชิงบวกต่อแนวโน้ม ดอกเบี้ยที่ตลาดเริ่มมองว่าใกล้ถึงจุดสูงสุด ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าจะช่วยภาระค่าใช้จ่ายทางการเงินที่ เบาบางลงจากการมีหนี้สกุลต่างประเทศ รวมไปถึง (TVO) นอกจากนี้แนะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BBL) โดยยังคงมอง SET INDEX อยู่ในช่วงฟื้นตัวกรอบแนวต้าน 1660 – 1680 จะเป็นจุดทยอยล็อกกำไรของการฟื้นตัวรอบนี้

RATCH (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 48 บาท) คาดกำไร 2Q22 ปรับดีขึ้น QoQ จาก 1) ส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นจาก HPC และ 2) ส่วนแบ่งกำไรจากการเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าพลังก๊าซแห่งใหม่ขนาด 145MWe ใน 1022 ขณะที่คาดว่าส่วนแบ่งกำไรเต็มไตรมาสจากโครงการที่ COD ใน 1Q21-1Q22 ด้วยกำลังการผลิตรวม 476MWe จะช่วยหนุนในเชิง YoY

TVO (ถือ / ราคาเป้าหมาย 35 บาท) เก็งกำไรระยะสั้น ผลบวกเงินบาทแข็งค่า ประกอบกับแนวโน้มของราคา น้ำมันถั่วเหลืองที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้แนวโน้มผลประกอบการงวด 2Q22 มีโอกาสที่รายได้จะทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง

 

*หมายเหตุ ชุดหุ้นที่แนะนำเหมาะสำหรับการซื้อเพื่อถือลงทุน 1-14 วัน หากนักลงทุนมีกำไรก็สามารถทำกำไรได้ โดยแนะตั้ง Stop loss หากขาดทุนเกินกว่า 5% ส่วนราคาเป้าหมายเป็นราคาภายใน 1 ปีจากปัจจุบันที่มาจากปัจจัยพื้นฐาน

- Advertisement -