Daily Focus: Value and Selective Play

2022 SET Target: 1770

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ยังคงปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องและดีกว่าที่คาด ปิดบวกอีก 12.33 จุด ยืนเหนือ 1,630 จุดได้ โดยปัจจัยหนุนหลักยังคงเป็นเรื่องการ Reopening และเปิดประเทศเต็มรูปแบบใน 2H22 สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นบางๆ 187 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก 2.1 พันลบ. (และ Long SET50 Index Futures สูงถึง 2.6 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,625 1,643 จุด โดย Upside ระยะสั้นจำกัดมากขึ้นหลังจาก Rebound ขึ้นมาเกือบครึ่งทางราว 50 จุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจากที่ปรับลงแรงช่วงก่อนหน้า ระยะสั้นมีประเด็นหนุน หลังไบเดนระบุว่าสหรัฐฯ กำลังเตรียมพิจารณายกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าจีนของรัฐบาลก่อน เพื่อลดต้นทุนและแรงกดดันเงินเฟ้อ โดยปลายสัปดาห์นี้จะประกาศเงินเฟ้อ PCE เดือน เม.ย. ขณะที่ฝั่งยุโรป ECB มีแนวโน้มเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 10 ปี เดือน ก.ค. จากเงินเฟ้อที่สูงเช่นกัน ทำให้ยังมีปัจจัยกดดันเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยหลักที่มีผลมากกว่าและต่างชาติให้น้ำหนัก คือ การเปิดประเทศของไทยซึ่งจะหนุนเศรษฐกิจระยะยาว ทำให้กระแสเงินทุนยังอยู่ในทิศทางไหลเข้า ในเชิงกลยุทธ์เรายังเน้นลงทุนในหุ้น Reopening และ Value Play ที่มี PER/PBV ไม่สูงเทียบกับช่วงปี 2019 ที่ยังไม่มี COVID-19 และมีแนวโน้มกำไร 2Q22 แข็งแกร่งต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะสามารถปรับตัวได้แข็งแรงกว่าตลาด ท่ามกลางนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลักทั่วโลกที่ตึงตัว สำหรับการลงทุนระยะกลาง-ยาวส่วนที่สะสมแล้วบริเวณ 1,600+- จุด แนะนำถือลงทุนต่อเนื่อง

กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้น Value Play ที่แนวโน้มกําไร 2Q22-2H22 แข็งแกร่ง

หุ้นเด่นเดือน พ.ค. : GFPT, ILINK, SAPPE, SMT, TH

หุ้นเด่นวันนี้ : CK

  • แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 26 บาท
  • แนวโน้มกำไร 2Q22 คาดเร่งตัวขึ้น ทั้งจากธุรกิจรับเหมาฯ ตามความคืบหน้าของงาน ส่วนแบ่งกําไรและปันผลบริษัทร่วมฯที่ฟื้นตัว ระยะสั้นมี Catalyst บวกจากการขายของประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มปลายเดือนนี้
  • เรามองราคาหุ้น CK ถูกเกินไปมาก ปัจจุบันมีมูลค่าเท่ากับ BEM ที่ CK ถือหุ้นอยู่ราว 32% (Discount 20%) ซึ่งเสมือนได้ธุรกิจอื่นๆ ทั้งรับเหมาฯ CKP และ TTW ฟรี
  • แนวรับ 19.80-20 บาท แนวต้าน 20.70//21 บาท

Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนผสมผสาน โดยภาพรวมไหลเข้าภูมิภาคบางๆ US$72 ล้าน นำโดยไต้หวันและไทย US$98 ล้าน และ US$61 ล้าน ตามลำดับ แต่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$74 ล้าน ส่วนอาเซียนประเทศอื่นไหลเข้าสลับไหลออก แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลเข้าจากดอลลาร์ที่อ่อนค่า เม็ดเงินไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้น

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) กลุ่มรับเหมาฯ รฟม.ออกประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เป็นงานโยธาสายสีส้มตะวันตก และงานเดินรถ ทั้งเส้นทาง (PPP Net Cost) กำหนดขายซองวันที่ 27 พ.ค.-10 มิ.ย.นี้ เรามองเป็นบวก เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นโครงการใหญ่ที่เป็น Highlight ปีนี้ ผู้เข้าประมูลหลักคาดว่าจะเป็นกลุ่ม BEM-CK และ BTS-STEC โดยต้องติดตามเกณฑ์ตัดสินการประมูล หากมีการนําคะแนนเทคนิคมาพิจารณา มองว่ากลุ่ม BEM มีแต้มต่อคู่แข่ง ซึ่งเอื้อต่อการรับงานโยธาของ CK กว่า 9 หมื่นลบ. แนะนำ “ซื้อ” CK (ราคาเป้าหมาย 26 บาท) และ BEM (ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 9.90 บาท)

(+) กลุ่มยานยนต์ แม้ว่าเดือน เม.ย. มีวันหยุดเยอะ และมีปัญหาขาดแคลน Chip แม้ตัวเลขจะลดลง M-M ค่อนข้างมาก แต่เมื่อเทียบ Y-Y ยอดผลิต ยอดขายในประเทศ ส่งออก +13%, +9%, +5% ตามลำดับ (ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรกในรอบ 4 เดือน) ส่วนรถ EV เพิ่มขึ้นตามเทรนด์โลก โดยรถจดทะเบียนใหม่ประเภท BEV +198% Y-Y, HEV +64% Y-Y, PHEV +45% Y-Y รายได้ของกลุ่มยานยนต์ Auto อยู่ในทิศทางที่ดี แต่บางบริษัทเช่น IRC SAT ยังมีปัญหาต้นทุนแพง หุ้น Top picks จึงเป็น AH (ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 28 บาท) และ STANLY (ราคาเป้าหมาย 250 บาท)

(+) ILM ระยะสั้นแนวโน้มกําไร 2Q22 ฟื้นตัวลุ้น New High จาก SSSG 2QTD +20% Y-Y แม้ต้นทุนปาร์ติเคิลบอร์ดเริ่มสูงขึ้น แต่ปรับขึ้นราคาใน 1Q21 +10% และจะปรับเดือน มิ.ย.อีก 10% ให้ครอบคลุมต้นทุนที่ขึ้นทั้งหมด รายได้ค่าเช่าเริ่มฟื้นหลังให้ส่วนลดน้อยลงเกือบเท่าก่อนโควิดแล้ว ขณะที่ได้ผู้เช่ารายใหญ่ COM7 และ Shopee รวมถึงมีแผนเปิดสาขาใหม่ 1 แห่งที่ลาดกระบัง Consensus คาดกำไรปี 2022 +27% Y-Y และให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 21.35 บาท แนะนํา “เก็งกำไร”

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 618.34 จุด หรือ 1.98% ปิดที่ 31,880.24 จุด จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร รวมถึงข่าวประธานาธิบดีโจ ไบเดน ส่งสัญญาณยุติการทำสงครามการค้ากับจีน

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก จากการเปิดเผยความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนพ.ค.

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวผสม ท่ามกลางติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของหลายประเทศ

(0) ค่าเงินบาท แกว่งในกรอบแคบ อยู่ที่บริเวณ 34.17 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 110.29 ดอลลาร์/บาร์เรล จากคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งจะเริ่มต้นจากวันหยุดยาวเนื่องในวัน Memorial Day ในสิ้นเดือนพ.ค. ถึงวันหยุดเนื่องในวันแรงงานสหรัฐในเดือน ก.ย.

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดที่ 1,847.80 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,068.07 / +4.64

- Advertisement -