บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Major Cineplex Group (MAJOR) ได้เวลากลับเข้าโรงหนัง
Company Update
คาดกำไรฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ
เราคาดว่ากำไรของ MAJOR จะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ 2Q65 เป็นต้นไป จากการเปิดเมือง หนุนโดยหนังทำรายได้ดี และมีหนังฮอลลีวูดฟอร์มใหญ่ที่เตรียมจะเข้าฉายอีกมาก อีกทั้งจำนวนที่นั่งในโรงและรอบฉายหนังคาดว่าจะเริ่มกลับมาเป็นปกติได้ ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้จากการขายตัวหนัง ขณะที่รายได้จากการขายอาหารและเครื่องดื่ม ค่าโฆษณา ค่าเช่า และการผลิตหนัง ก็มีแนวโน้มเติบโตตามไปด้วยเช่นกัน เราคงคำแนะนำ ซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมาย (DCF) 25.50 บาท, WACC 7.9%, G 2%
รายได้หนังบ็อกซ์ออฟฟิศที่แข็งแกร่งจะหนุนรายได้โต
MAJOR ทำรายได้จากหนัง Doctor Strange in the Multiverse of Madness ที่ออกฉายตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม ได้ถึง 225 ล้านบาท เราเชื่อว่าหนังที่จะเข้าอย่าง Top Gun: Maverick ที่จะฉายในวันพฤหัสบดีนี้ และ Jurassic World: Dominion ที่จะเข้าในเดือนหน้า มีแนวโน้มที่จะได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามเช่นกัน ทั้งนี้ เราคาดว่าการคลายล็อกดาวน์และประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นจะทำให้ความจุที่นั่งของโรงหนังเพิ่มขึ้นจาก 75% ในปัจจุบันกลับไปเป็น 100% ในขณะที่รอบฉายหนังมีแนวโน้มที่จะขยายกลับไปเป็นปกติที่ 6-7 รอบจากปัจจุบันที่ฉาย 4-5 รอบต่อวัน
หนังใหม่จํานวนมากเตรียมเข้าฉายในโรง
The Motion Picture Association (MPA) ระบุว่าจำนวนหนึ่งของสหรัฐฯ ที่เข้าสู่การผลิตในปี 2564 มีประมาณ 943 เรื่อง หลังจากที่ต้องระงับไปเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ในปี 2563 โดยมีหนังซึ่งใช้ทุนสร้างมากกว่า 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ประมาณ 226 เรื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 178 และ 101 เรื่อง ในปี 2562 และ 2563 ตามลำดับ แสดงว่า หนังฮอลลีวูดจะออกฉายมากขึ้นตั้งแต่ปี 2565 โดยหนังบล็อกบัสเตอร์ที่จะฉายในครึ่งปีหลังของปีนี้ และปี 2566 ได้แก่ Black Panther: Wakanda Forever, Avatar 2, Transformer: Rise of the Beasts, Mission Impossible 7: Dead Reckoning, Fast & Furious X, The Marvels a Spider-Man: Across the Spider-Verse
รายได้ที่เกี่ยวข้องกับหนังก็เพิ่มขึ้นด้วย
MAJOR จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ 2Q65 เป็นต้นไป โดยได้แรงหนุนจากรายได้จากการขายตั๋วหนังที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้จากการขายอาหารและเครื่องดื่ม และค่าโฆษณาจะฟื้นตัวตามรายได้จากการขายตั๋วหนัง ส่วนรายได้ค่าเช่ามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจากส่วนลดค่าเช่าที่น้อยลง และอัตราการเช่าที่ดีขึ้น รายได้จากการผลิตและจำหน่ายภาพยนตร์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตามจำนวนภาพยนตร์ที่ผลิตและจัดจำหน่ายโดยบริษัทย่อยของ MAJOR มากขึ้น
