Daily Focus: Value and Selective Play

2022 SET Target: 1770

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index เริ่มพักตัวตามคาดหลังจาก Rebound ได้ดีในช่วงหลายวันก่อนหน้า และสอดคล้องกับที่เราประเมินว่า Upside จำกัดระยะสั้น ดัชนีปิดลบ 9.05 จุด ณ สิ้นวัน สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 1 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิแต่บางลงเหลือเพียง 192 ลบ. (สถานะของ SET50 Index Futures ไม่มีนัยยะ)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,620-1,630 จุด โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ตลาดกังวลเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวจากปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น และกดดันให้เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะหุ้น Technology เข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงต่ำมากขึ้น โดยเฉพาะพันธบัตร ส่งผลให้ Bond Yield ปรับตัวลงต่อเนื่อง ปัจจัยที่ต้องติดตามคืนนี้คือรายงานการประชุม FED รวมถึงปลายสัปดาห์นี้จะมีตัวเลขเงินเฟ้อ PCE เดือน เม.ย. ของสหรัฐฯ ซึ่งหากยังเร่งตัวจะกดดันตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยในประเทศยังดูผ่อนคลายมากกว่าทั้งแนวโน้มการผ่อนคลายมาตรการใส่หน้ากากกลางเดือนหน้า รวมถึงการเปิดประเทศเต็มรูปแบบใน 2H22 ซึ่งคาดมีน้ำหนักมากกว่าและหนุนกระแสเงินทุนยังค่อนไปในทิศทางไหลเข้า ในเชิงกลยุทธ์ เรายังเน้นลงทุนในหุ้น Reopening และ Value Play ที่มี PER/PBV ไม่สูงเทียบกับช่วงปี 2019 ที่ยังไม่มี COVID-19 และมีแนวโน้มกำไร 2Q22 แข็งแกร่งต่อเนื่อง คาดว่าจะสามารถปรับตัวได้แข็งแกร่งกว่าตลาดโดยรวมท่ามกลางนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลักทั่วโลกที่จะดึงตัวขึ้นต่อเนื่อง สำหรับการลงทุนระยะกลาง-ยาว ส่วนที่สะสมแล้วบริเวณ 1,600+- จุดแนะนำถือลงทุนต่อเนื่อง

กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้น Value Play ที่แนวโน้มกำไร 2Q22-2H22 แข็งแกร่ง

หุ้นเด่นเดือน พ.ค. : GFPT, ILINK, SAPPE, SMT, TH

หุ้นเด่นวันนี้ : JWD

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 23 บาท
  • แนวโน้มกำไร 2Q22 คาดทรงตัว Q-Q และยังเติบโตได้ Y-Y จากธุรกิจคลังสินค้าและห้องเย็นที่ยังแข็งแรง ขณะที่ลูกๆ ในต่างประเทศมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น คาดช่วยชดเชย Low Season ของธุรกิจ Logistic ยานยนต์ได้
  • เรายังคาดกาไรปี 2022 เติบโตแข็งแกร่ง +32% Y-Y ทั้ง Organic และ Inorganic จากธุรกิจเดิมที่ยังแข็งแรง และได้ประโยชน์เต็มปีจากการลงทุนดีลต่างๆ ในปีที่ผ่านมา
  • แนวรับ 15.50//15 บาท แนวด้าน 16.20//16.50 บาท

Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลออกจากภูมิภาคหนาแน่น US$720 ล้าน นําโดยเกาหลีใต้และไต้หวัน US$283 ล้าน และ US$264 ล้าน ตามล่าดับ ส่วนอาเซียน ไหลออกกระจุกตัวที่ฟิลิปปินส์ US$183 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออก โดยตลาดรอดูรายงานการประชุม FED คืนนี้ และเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯปลายสัปดาห์

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) GLOCON แนวโน้มกำไร 2Q22 จะเร่งขึ้น Q-Q และ Y-Y หลังไม่มีขาดทุน A&W การย้ายโรงงานอาหาร และผลไม้อบแห้งแล้วเสร็จ รับรู้รายได้ลูกชิ้นทิพย์เต็มไตรมาส แม้ต้นทุนวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์เริ่มปรับขึ้น แต่มีการปรับขึ้นราคาช่วยหักล้างได้ และมีแผนออกสินค้าใหม่ต่อเนื่องใน 3Q22 นอกจากนี้ช่วง 2H22 มีแผนล้างขาดทุนสะสมเพื่อพิจารณากลับมาจ่ายปันผลในปีถัดไป และยังมีแผน M&A ธุรกิจอาหารอย่างน้อย 1 ดีล ในปีนี้ เรายังคาดปี 2022 พลิกมีกำไร 173 ลบ. จากขาดทุนปีก่อน คงราคาเป้าหมาย 1.30 บาท แนะนํา “เก็งกําไร”

(+) IIG โมเมนตัมกำไรคาดยังเห็นการเติบโต Q-Q และ Y-Y ทุกๆ ไตรมาสเหมือนปีที่ผ่านมา จากปัจจัยฤดูกาล แต่จะไม่แรงเท่าเนื่องจากยกฐานสูงตั้งแต่ 1Q22 ผู้บริการยังตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 900-950 ลบ.จาก Demand ด้าน Digital Transformation ที่ยังสูง และคาดเริ่มเห็นผลบวกจากการเป็นตัวแทน Software ใหม่ๆ และ JV อย่างค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้น ประมาณการของเรายังคงสอดคล้องและยังคาดกำไรปกติปีนี้ +50% Y-Y คงราคาเป้าหมาย 41 บาท แนะนํา “ซื้ออ่อนตัว”

(+) EPG เราคาดกำไรปกติ 4Q22 (ม.ค.-มี.ค.22) –2% Q-Q, +6% Y-Y หนุนจากรายได้ และ Margin ของ Aeroflex ที่แข็งแกร่งเป็นหลักช่วยชดเชย Margin ของ Aeroklas และ EPP ที่ขะลอตัวได้ รวมถึงได้แรงหนุนจากส่วนแบ่งกำไรจาก TJM ที่สูงขึ้น ส่วนภาพทั้งปี 2022 (เม.ย. 21 – มี.ค. 22) เรายังมั่นใจว่ากำไรของ EPG จะทำ Record High +39% Y-Y ได้จากการขยาย Capacity ของ Aeroflex ความต้องการที่แข็งแกร่ง ของ Aeroklas และ EPP ที่ยังมี Margin แข็งแรง ยังคงราคาเป้าหมาย 16 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 48.38 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 31,928.62 จุด ปิดบวกเล็กน้อยหลังสหรัฐรายงานการปรับลงของตัวเลขเศรษฐกิจเดือน เม.ย.ทั้งยอดขายบ้านใหม่ รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการ ผลิตและภาคบริการ

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ จากความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลง และการคุมเข้มนโยบายการเงิน

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวผสม โดยตลาดหุ้นโตเกียวปรับลงตามทิศทางตลาดดาวโจนส์ และหุ้นกลุ่มส่งออกหลังเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่าลง อยู่ที่บริเวณ 34.14 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 52 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 109.77 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดนไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ในการใช้มาตรการจำกัดการส่งออกน้ำมัน

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 17.6 ดอลลาร์ หรือ 0.95% ปิดที่ 1,865.4 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,068.07 / +-

- Advertisement -